เยเรมีย์ 10 – TNCV & ASCB

Thai New Contemporary Bible

เยเรมีย์ 10:1-25

พระเจ้ากับรูปเคารพ

(ยรม.51:15-19)

1พงศ์พันธุ์ของอิสราเอลเอ๋ย จงฟังสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเจ้า 2องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า

“อย่าเอาอย่างวิถีต่างๆ ของประชาชาติทั้งหลาย

และอย่าตกใจกลัวเนื่องด้วยหมายสำคัญต่างๆ ในท้องฟ้า

ดังที่ประชาชาติทั้งหลายหวาดกลัวอยู่นั้น

3เพราะธรรมเนียมของชนชาติต่างๆ นั้นไร้ค่า

เขาโค่นต้นไม้ต้นหนึ่งจากป่า

ให้ช่างฝีมือใช้สิ่วแกะสลักเป็นรูปทรง

4พวกเขาตกแต่งด้วยทองและเงิน

จากนั้นใช้ค้อนและตะปูตอกตรึงให้อยู่กับที่อย่างแน่นหนา

เพื่อมันจะไม่โอนเอน

5เทวรูปเหล่านั้นเหมือนหุ่นไล่กาในสวนแตง

มันพูดไม่ได้

ต้องอาศัยคนยกไป

เพราะมันเดินไม่ได้

อย่าไปกลัวเทพเจ้าเหล่านั้น

เพราะมันทำอะไรไม่ได้

ไม่ว่าทำประโยชน์หรือทำร้าย”

6ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์

พระองค์ทรงยิ่งใหญ่

และพระนามของพระองค์เปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจ

7ข้าแต่องค์กษัตริย์แห่งประชาชาติ

ใครเล่าจะไม่ยำเกรงพระองค์?

พระเกียรตินี้คู่ควรแด่พระองค์

ท่ามกลางนักปราชญ์ทั้งปวงของบรรดาประชาชาติ

และอาณาจักรทั้งปวงของพวกเขา

ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์

8พวกเขาล้วนสิ้นคิดและโง่เขลา

พวกเขาถูกสอนโดยเทวรูปไม้อันไร้ค่า

9เขานำเงินซึ่งเคาะแล้วมาจากเมืองทารชิช

และทองคำมาจากเมืองอุฟาส

แล้วผลงานของช่างฝีมือ ช่างทอง

ก็ได้สวมอาภรณ์สีน้ำเงินและสีม่วง

รูปเคารพเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผลงานของ

ช่างที่ชำนาญ

10แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ เป็นองค์กษัตริย์ตลอดนิรันดร์กาล

เมื่อพระองค์ทรงพระพิโรธ โลกก็สะเทือนสะท้าน

ประชาชาติทั้งหลายไม่อาจทนต่อพระพิโรธของพระองค์ได้

11“จงบอกพวกเขาว่า ‘เทพเจ้าเหล่านี้ซึ่งไม่ได้เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกจะพินาศไปจากโลกและจากใต้ฟ้าสวรรค์’ ”10:11 พระคัมภีร์ข้อนี้เป็นภาษาอารเมค

12แต่พระเจ้าทรงสร้างโลกโดยฤทธานุภาพ

ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยพระปรีชาญาณ

และทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ออกด้วยความเข้าใจ

13เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง ห้วงน้ำในฟ้าสวรรค์ก็ร้องคำราม

พระองค์ทรงให้เมฆลอยขึ้นจากสุดปลายแผ่นดินโลก

ทรงส่งฟ้าแลบให้มากับสายฝน

และทรงนำกระแสลมออกมาจากคลัง

14มนุษย์ทั้งปวงก็สิ้นคิดและขาดความรู้

ช่างทองทุกคนก็อับอายขายหน้าเพราะรูปเคารพของตน

เทวรูปของเขาเป็นสิ่งจอมปลอม

พวกมันไม่มีลมหายใจ

15มันเป็นของไร้ค่า เป็นสิ่งที่น่าเยาะเย้ย

เมื่อถึงเวลาพิพากษามันก็พินาศ

16แต่พระองค์ผู้มีกรรมสิทธิ์เหนือยาโคบไม่เหมือนเทวรูปเหล่านี้

เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่ง

รวมทั้งเผ่าพันธุ์อิสราเอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์

พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

หายนะที่จะมาถึง

17ประชาชนที่ถูกล้อมเมืองไว้

จงเก็บข้าวของเพื่อเดินทางออกจากดินแดนนั้นเถิด

18เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“บัดนี้เราจะเหวี่ยง

ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ออกไป

เราจะนำความทุกข์ลำเค็ญมายังพวกเขา

เพื่อพวกเขาจะรับรู้ถึงความโกรธของเรา”

19วิบัติแก่ข้าพเจ้าเนื่องด้วยการบาดเจ็บนี้!

บาดแผลของข้าพเจ้าเยียวยาไม่ได้!

ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็บอกตัวเองว่า

“นี่เป็นความเจ็บป่วยของเราเอง และเราก็ต้องทน”

20เต็นท์ของข้าพเจ้าถูกทำลายสิ้น

เชือกขึงทั้งหมดก็ขาดผึง

ลูกๆ ไปจากข้าพเจ้าหมด

ไม่เหลือใครอยู่ช่วยกางเต็นท์

หรือสร้างที่พักพิงให้ข้าพเจ้า

21คนเลี้ยงแกะก็สิ้นคิด

และไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า

ดังนั้นเขาจึงไม่เจริญ

และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไปหมด

22ฟังเถิด! มีรายงานข่าวมาว่า

เสียงอึกทึกกึกก้องดังมาจากแผ่นดินทางเหนือ

เขาจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ถูกทิ้งร้าง

เป็นถิ่นของหมาใน

คำอธิษฐานของเยเรมีย์

23ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ตระหนักว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง

ไม่ได้เป็นผู้บงการย่างก้าวของตน

24ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตีสอนข้าพระองค์เถิด แต่ขอทรงโปรดให้ความเป็นธรรม

อย่าทรงทำด้วยพระพิโรธ

มิฉะนั้นข้าพระองค์จะพินาศไป

25ขอทรงระบายพระพิโรธลงเหนือบรรดาประชาชาติ

ที่ไม่ยอมรับพระองค์

และเหนือชนชาติทั้งหลายที่ไม่ยอมออกพระนามของพระองค์

เพราะพวกเขากลืนกินยาโคบ

พวกเขากลืนกินจนหมดสิ้น

และทำลายล้างถิ่นฐานของยาโคบย่อยยับไปหมด

Asante Twi Contemporary Bible

Yeremia 10:1-25

Onyankopɔn Ne Ahoni

1Montie deɛ Awurade ka kyerɛ mo, Ao Israel fiefoɔ. 2Yei ne deɛ Awurade seɛ:

“Monnsua amanaman no akwan

na momma ewiem nsɛnkyerɛnneɛ mmɔ mo hu.

Ɛwom sɛ yeinom bɔ amanaman no hu

3nanso nkurɔfoɔ no amanneɛ nka hwee;

wɔtwa dua firi kwaeɛm,

na odwumfoɔ de ne fitiiɛ asene.

4Wɔde dwetɛ ne sikakɔkɔɔ hyehyɛ no;

wɔde nnadewa ne asaeɛ bobɔ si hɔ

sɛdeɛ ɛrenhwe fam.

5Ɛte sɛ kaakaammotobi a ɛsi ɛferɛ mfikyifuo mu,

wɔn ahoni no ntumi nkasa;

ɛsɛ sɛ wɔsoa wɔn

ɛfiri sɛ wɔntumi nnante.

Monnsuro wɔn;

wɔrentumi nha mo

na wɔrentumi nyɛ adepa biara nso.”

6Obiara nte sɛ wo, Ao Awurade;

woyɛ kɛseɛ

na wo din wɔ tumi.

7Hwan na ɛnsɛ sɛ ɔdi wo ni,

Ao, amansanhene?

Yei na ɛfata woɔ.

Amanaman no so anyansafoɔ nyinaa mu

ne wɔn ahennie nyinaa mu,

obiara ne wo nsɛ.

8Wɔn nyinaa yɛ adwenemherɛfoɔ ne nkwaseafoɔ;

dua ahoni a ɛho nni mfasoɔ na ɛma wɔn nkyerɛkyerɛ.

9Wɔde dwetɛ a wɔaboro firi Tarsis ba

ne sikakɔkɔɔ nso firi Ufas ba.

Ɛyɛ deɛ odwumfoɔ ne sikadwumfoɔ ayɛ

a wɔde ntoma bibire ne beredum afira no.

Ne nyinaa yɛ adwumfoɔ anyansafoɔ nsa ano adwuma.

10Nanso, Awurade ne nokorɛ Onyankopɔn no;

ɔno ne Onyankopɔn teasefoɔ, daapem Ɔhene no.

Sɛ ne bo fu a, asase woso;

na amanaman no ntumi nnyina nʼabufuhyeɛ ano.

11“Ka yei kyerɛ wɔn: ‘Saa anyame a ɛnyɛ wɔn na wɔyɛɛ ɔsoro ne asase no bɛyera afiri asase so ne ɔsorosoro ase.’ ”

12Nanso, Onyankopɔn de ne tumi bɔɔ asase;

ɔtoo ewiase fapem wɔ ne nyansa mu

na ɔde ne nhunumu trɛɛ ɔsorosoro mu.

13Sɛ ɔdwidwa aprannaa a, ɔsorosoro nsuo bobom;

ɔma omununkum ma ne ho so firi nsase ano.

Ɔde ayerɛmo ka osutɔ ho ba

na ɔgyaa mframa mu firi nʼakoradan mu.

14Onipa biara nnim nyansa, na ɔnni nimdeɛ;

sikadwumfoɔ biara anim gu ase, ɛsiane nʼahoni enti.

Ne nsɛsodeɛ yɛ atorɔ;

wɔnni ahomeɛ biara wɔ wɔn mu.

15Wɔn ho nni mfasoɔ, na wɔyɛ aseredeɛ nneɛma.

Sɛ wɔn atemmuo duru so a, wɔbɛyera.

16Deɛ ɔyɛ Yakob Kyɛfa no nte sɛ yeinom,

ɛfiri sɛ ɔno ne adeɛ nyinaa Yɛfoɔ,

a Israel, abusua a ɛyɛ nʼagyapadeɛ nso ka ho,

Asafo Awurade ne ne din.

Ɔsɛeɛ A Ɛreba

17Mommoaboa mo ahodeɛ ano mfiri asase no so,

mo a motete nkuro a wɔatua mu.

18Na yei ne deɛ Awurade seɛ:

“Saa ɛberɛ yi mɛto wɔn a

wɔtete asase yi so atwene;

mede amanehunu bɛba wɔn so

sɛdeɛ wɔbɛfa wɔn nnommum.”

19Me pira yi enti mennue;

mʼapirakuro yɛ koankorɔ!

Nanso mehyɛɛ me ho den sɛ,

“Yei ne me yadeɛ, na ɛsɛ sɛ memia mʼani.”

20Wɔasɛe me ntomadan;

wɔatwitwa ne nhoma nyinaa mu.

Wɔafa me mma nyinaa kɔ a merenhunu wɔn bio;

anka obiara a ɔbɛsi me ntomadan

anaa ɔbɛsiesie me suhyɛ.

21Nnwanhwɛfoɔ no yɛ adwenemherɛfoɔ.

Wɔmmisa Awurade akyiri ɛkwan;

ɛno enti ɛnsi wɔn yie

na wɔn nnwankuo no abɔ ahwete.

22Montie! Amaneɛ no reba,

basabasayɛ kɛseɛ a ɛfiri atifi fam asase bi so!

Ɛbɛma Yuda nkuro ada mpan,

na ayɛ sakraman atuo.

Yeremia Mpaeɛbɔ

23Ao Awurade, menim sɛ, onipa nkwa nyɛ ne dea;

na ɛnyɛ onipa na ɔkyerɛkyerɛ nʼanammɔntuo.

24Tene me so, Awurade, wɔ tenenee mu,

mfiri wʼabofuo mu ntwe mʼaso

anyɛ saa a, mɛwu.

25Hwie wʼabufuhyeɛ no gu amanaman

a wɔnnye wo ntom no so,

nnipa a wɔmmɔ wo din no so.

Ɛfiri sɛ, wɔasɛe Yakob

wɔasɛe no koraa

na wɔasɛe nʼasase a wɔwoo no too so.