1พงศ์กษัตริย์ 11 – TNCV & NAV

Thai New Contemporary Bible

1พงศ์กษัตริย์ 11:1-43

มเหสีของโซโลมอน

1นอกเหนือจากธิดาของฟาโรห์แล้ว โซโลมอนทรงรักหญิงต่างชาติจำนวนมาก ได้แก่ชาติโมอับ อัมโมน เอโดม ไซดอน และฮิตไทต์ 2พวกนางมาจากชนชาติที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสห้ามประชากรอิสราเอลว่า “เจ้าจงอย่าแต่งงานกับคนเหล่านั้น เพราะพวกเขาจะชักนำเจ้าให้หันไปฝักใฝ่พระต่างๆ ของเขาอย่างแน่นอน” ถึงกระนั้นโซโลมอนก็ทรงผูกพันรักใคร่หญิงเหล่านั้น 3โซโลมอนทรงมีมเหสีเป็นเจ้าหญิงเจ็ดร้อยคนและนางสนมสามร้อยคน หญิงเหล่านี้ทำให้โซโลมอนหลงไป 4เมื่อโซโลมอนทรงชราภาพ หญิงเหล่านี้โน้มน้าวพระทัยให้ไปติดตามพระต่างๆ โซโลมอนไม่ได้ทรงภักดีต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์อย่างสุดใจเหมือนดาวิดราชบิดา 5พระองค์ทรงหันไปติดตามพระอัชโทเรทเทวีของชาวไซดอน และพระโมเลค11:5 ภาษาฮีบรูว่ามิลโคมเช่นเดียวกับข้อ 33เทพเจ้าอันน่าชิงชังของชาวอัมโมน 6ดังนั้นโซโลมอนทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่ได้ทรงติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจเหมือนที่ดาวิดราชบิดาได้ทรงทำ

7โซโลมอนถึงกับสร้างสถานบูชาบนที่สูงบนเนินเขาทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม อุทิศแด่พระเคโมชเทพเจ้าอันน่าชิงชังของโมอับ และสำหรับพระโมเลคเทพเจ้าอันน่าชิงชังของชาวอัมโมน 8พระองค์ทรงสร้างสถานบูชาบนที่สูงต่างๆ ขึ้น เพื่อให้มเหสีต่างชาติทั้งหลายเผาเครื่องหอม และถวายเครื่องบูชาแด่เทพเจ้าของพวกนาง

9องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธโซโลมอนที่หันเหพระทัยจากพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงปรากฏแก่โซโลมอนถึงสองครั้งสองครา 10ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงห้ามโซโลมอนไม่ให้ไปติดตามพระอื่นๆ โซโลมอนก็ยังทรงฝ่าฝืนพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า 11ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับโซโลมอนว่า “เนื่องจากเจ้ามีท่าทีเช่นนี้และไม่ได้รักษาพันธสัญญาและกฎหมายซึ่งเราได้สั่งเจ้าไว้ เราจะฉีกอาณาจักรของเจ้าอย่างแน่นอนที่สุด และแบ่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งของเจ้า 12แต่เพื่อเห็นแก่ดาวิดราชบิดาของเจ้า เราจะยังไม่ทำเช่นนั้นในชั่วชีวิตของเจ้า เราจะริบอาณาจักรจากบุตรชายของเจ้า 13แต่เราจะไม่ริบไปหมดทั้งอาณาจักร เราจะเหลือชนเผ่าหนึ่งไว้ให้ เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเยรูซาเล็มที่เราได้เลือกสรรไว้”

ศัตรูของโซโลมอน

14แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ศัตรูคนหนึ่งแข็งกร้าวต่อโซโลมอนคือฮาดัด ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่งของเอโดม 15ก่อนหน้านี้เมื่อดาวิดรบกับเอโดม แม่ทัพโยอาบซึ่งขึ้นมาฝังศพผู้ตายในสงครามได้สังหารผู้ชายทั้งปวงในเอโดม 16โยอาบและชนอิสราเอลทั้งปวงอยู่ที่นั่นหกเดือน จนสังหารชายชาวเอโดมได้ทั้งหมด 17แต่ฮาดัดซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กพร้อมกับข้าราชการเอโดมบางคนที่รับใช้บิดาของเขาได้หนีไปอียิปต์ 18พวกเขาพากันเล็ดลอดออกจากมีเดียนหนีไปยังปาราน แล้วมีคนจากปารานมาสมทบ ติดตามกันไปถึงอียิปต์ ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ได้ประทานบ้าน ที่ดิน และอาหารให้ฮาดัด

19ฟาโรห์โปรดปรานฮาดัดมาก จึงยกน้องสาวของมเหสีทาห์เปเนสให้เป็นภรรยา 20นางได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อเกนูบัท ซึ่งมเหสีทาห์เปเนสได้ชุบเลี้ยงให้เติบโตขึ้นในพระราชวัง ร่วมกับโอรสทั้งหลายของฟาโรห์

21เมื่อฮาดัดได้ข่าวว่าดาวิดและแม่ทัพโยอาบสิ้นชีพแล้ว ฮาดัดทูลขออนุญาตฟาโรห์ว่า “ขอให้ข้าพระบาทได้กลับไปบ้านเมืองของข้าพระบาทเถิด”

22ฟาโรห์ตรัสถามว่า “อยู่ที่นี่เจ้าขาดแคลนอะไรหรือถึงอยากกลับไปบ้านเมืองของเจ้า?”

ฮาดัดทูลว่า “ข้าพระบาทไม่ขาดสิ่งใดเลย แต่โปรดให้ข้าพระบาทไปเถิด!”

23ศัตรูอีกคนหนึ่งของโซโลมอนซึ่งพระเจ้าทรงยกให้มีอำนาจขึ้นคือเรโซนบุตรเอลียาดา ซึ่งหนีมาจากฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์แห่งโศบาห์ผู้เป็นนาย 24เมื่อดาวิดทำลายกองกำลังของเมืองโศบาห์ เรโซนได้รวบรวมผู้คนและตั้งตนเป็นหัวหน้ากองโจร พากันหนีไปยังดามัสกัส ที่ซึ่งเขาตั้งรกรากและยึดครองได้ 25ตลอดพระชนม์ชีพของโซโลมอน เรโซนคือศัตรูของอิสราเอล นอกเหนือจากความทุกข์ร้อนอันเนื่องมาจากฮาดัด เรโซนปกครองอยู่ในอารัมและเป็นศัตรูต่ออิสราเอล

เยโรโบอัมกบฏต่อโซโลมอน

26เยโรโบอัมบุตรเนบัทก็กบฏต่อกษัตริย์ด้วย เขาเป็นข้าราชการคนหนึ่งของโซโลมอน เป็นคนเผ่าเอฟราอิมจากเศเรดาห์ มารดาเป็นหญิงม่ายชื่อเศรุวาห์

27เรื่องราวการกบฏของเยโรโบอัมมีดังนี้ โซโลมอนทรงปฏิสังขรณ์ป้อมมิลโล11:27 หรือแนวเนินดินด้านตะวันออก ซ่อมแซมกำแพงเมืองของดาวิดราชบิดาของพระองค์ 28เยโรโบอัมเป็นคนที่มีความสามารถมาก เมื่อโซโลมอนทรงเห็นว่าเป็นคนหนุ่มหน่วยก้านดี ก็ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองโยธาจากตระกูลโยเซฟ

29วันหนึ่งขณะที่เยโรโบอัมกำลังออกจากเมืองเยรูซาเล็ม ก็พบกับผู้เผยพระวจนะอาหิยาห์จากเมืองชิโลห์ซึ่งสวมเสื้อคลุมตัวใหม่ คนทั้งสองอยู่ตามลำพังกลางทุ่ง 30อาหิยาห์ก็ฉีกเสื้อคลุมของตนออกเป็นสิบสองชิ้น 31แล้วกล่าวกับเยโรโบอัมว่า “จงรับไปสิบชิ้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘ดูเถิด เราจะฉีกอาณาจักรจากมือโซโลมอนและยกให้เจ้าสิบเผ่า 32แต่เราจะเหลือไว้ให้เขาเผ่าหนึ่ง เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเราได้เลือกสรรจากเผ่าทั้งปวงของอิสราเอล 33ทั้งนี้เพราะพวกเขา11:33 ฉบับ LXX. และ Vulg. และ Syr. ว่าเพราะเขา ได้ละทิ้งเราไปกราบไหว้พระอัชโทเรทเทวีของชาวไซดอน พระเคโมชเทพเจ้าของชาวโมอับ และพระโมเลคเทพเจ้าของชาวอัมโมน เขาไม่ได้ดำเนินในทางของเรา ไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา และไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และบทบัญญัติของเราเหมือนดาวิดราชบิดาของเขา

34“ ‘แต่เราจะไม่ริบทั้งอาณาจักรไปจากมือของโซโลมอน เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ที่เราได้เลือกสรร ผู้ซึ่งเชื่อฟังคำบัญชาและกฎเกณฑ์ของเรา เราจะอนุญาตให้โซโลมอนครองราชย์ไปตลอดชีวิต 35เราจะริบอาณาจักรจากมือลูกของเขา และยกให้เจ้าสิบเผ่า 36เราจะยกเผ่าหนึ่งให้ลูกของเขา เพื่อดาวิดผู้รับใช้ของเราจะมีดวงประทีปดวงหนึ่งต่อหน้าเราเสมอในเยรูซาเล็มนครซึ่งเราได้เลือกที่จะสถาปนานามของเรา 37ส่วนเจ้า เราจะตั้งเจ้าให้ปกครองเหนือทุกสิ่งที่ใจของเจ้าปรารถนา เจ้าจะเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล 38หากเจ้าทำทุกอย่างตามที่เราสั่ง ดำเนินในทางของเรา และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา โดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และคำบัญชาของเราเหมือนอย่างดาวิดผู้รับใช้ของเรา เราจะอยู่กับเจ้าและจะสร้างราชวงศ์ที่มั่นคงให้แก่เจ้าเหมือนที่เราได้ทำเพื่อดาวิด และยกอิสราเอลให้เจ้าปกครอง 39เราจะกำราบวงศ์วานของดาวิดด้วยเหตุนี้ แต่ไม่ตลอดไป’ ”

40โซโลมอนทรงพยายามที่จะสังหารเยโรโบอัม แต่เยโรโบอัมหนีไปพึ่งกษัตริย์ชิชักแห่งอียิปต์ และอยู่ที่นั่นจวบจนโซโลมอนสิ้นพระชนม์

โซโลมอนสิ้นพระชนม์

(2พศด.9:29-31)

41เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลโซโลมอนคือ พระราชกิจและพระปรีชาญาณทั้งปวงที่ทรงสำแดงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุของโซโลมอนไม่ใช่หรือ? 42โซโลมอนทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลในกรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบปี 43แล้วทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในเมืองของดาวิดราชบิดาของพระองค์ และเรโหโบอัมราชโอรสของพระองค์ก็ขึ้นครองราชย์แทน

Ketab El Hayat

ملوك الأول 11:1-43

زوجات سليمان

1وَأُوْلِعَ سُلَيْمَانُ بِنِسَاءٍ غَرِيبَاتٍ كَثِيرَاتٍ، فَضْلاً عَنِ ابْنَةِ فِرْعَوْنَ، فَتَزَوَّجَ نِسَاءً مُوآبِيَّاتٍ وَعَمُّونِيَّاتٍ وَأَدُومِيَّاتٍ وَصِيدُونِيَّاتٍ وَحِثِّيَّاتٍ، 2وَكُلُّهُنَّ مِنْ بَنَاتِ الأُمَمِ الَّتِي نَهَى الرَّبُّ بَنِي إِسْرَائِيلَ عَنِ الزَّوَاجِ مِنْهُمْ قَائِلاً لَهُمْ: «لا تَتَزَوَّجُوا مِنْهُمْ وَلا هُمْ مِنْكُمْ، لأَنَّهُمْ يُغْوُونَ قُلُوبَكُمْ وَرَاءَ آلِهَتِهِمْ». وَلَكِنَّ سُلَيْمَانَ الْتَصَقَ بِهِنَّ لِفَرْطِ مَحَبَّتِهِ لَهُنَّ. 3فَكَانَتْ لَهُ سَبْعُ مِئَةِ زَوْجَةٍ، وَثَلاثُ مِئَةِ مَحْظِيَّةٍ، فَانْحَرَفْنَ بِقَلْبِهِ عَنِ الرَّبِّ. 4فَاسْتَطَعْنَ فِي زَمَنِ شَيْخُوخَتِهِ أَنْ يُغْوِينَ قَلْبَهُ وَرَاءَ آلِهَةٍ أُخْرَى، فَلَمْ يَكُنْ قَلْبُهُ مُسْتَقِيماً مَعَ الرَّبِّ إِلَهِهِ كَقَلْبِ دَاوُدَ أَبِيهِ. 5وَمَا لَبِثَ أَنْ عَبَدَ عَشْتَارُوثَ إلَهَةَ الصِّيدُونِيِّينَ، وَمَلْكُومَ إِلَهَ الْعَمُّونِيِّينَ الْبَغِيضَ، 6وَارْتَكَبَ الشَّرَّ فِي عَيْنَيِ الرَّبِّ، وَلَمْ يَتْبَعْ سَبِيلَ الرَّبِّ بِكَمَالٍ كَمَا فَعَلَ أَبُوهُ دَاوُدُ. 7وَأَقَامَ عَلَى تَلٍّ شَرْقِيَّ أُورُشَلِيمَ مُرْتَفَعاً لِكَمُوشَ إِلَهِ الْمُوآبِيِّينَ الْفَاسِقِ، وَلِمُولَكَ إِلَهِ بَنِي عَمُّونَ الْبَغِيضِ. 8وَشَيَّدَ مُرْتَفَعَاتٍ لِجَمِيعِ نِسَائِهِ الْغَرِيبَاتِ، اللَّوَاتِي رُحْنَ يُوْقِدْنَ الْبَخُورَ عَلَيْهَا وَيُقَرِّبْنَ الْمُحْرَقَاتِ لِآلِهَتِهِنَّ.

9فَغَضِبَ الرَّبُّ عَلَى سُلَيْمَانَ لأَنَّ قَلْبَهُ ضَلَّ عَنْهُ، مَعَ أَنَّهُ تَجَلَّى لَهُ مَرَّتَيْنِ، 10وَنَهَاهُ عَنِ الْغَوَايَةِ وَرَاءَ آلِهَةٍ أُخْرَى، فَلَمْ يُطِعْ وَصِيَّتَهُ. 11لِهَذَا قَالَ اللهُ لِسُلَيْمَانَ: «لأَنَّكَ انْحَرَفْتَ عَنِّي وَنَكَثْتَ عَهْدِي، وَلَمْ تُطِعْ فَرَائِضِي الَّتِي أَوْصَيْتُكَ بِها، فَإِنِّي حَتْماً أُمَزِّقُ أَوْصَالَ مَمْلَكَتِكَ، وَأُعْطِيهَا لأَحَدِ عَبِيدِكَ. 12إِلّا أَنَّنِي لَا أَفْعَلُ هَذَا فِي أَيَّامِكَ، مِنْ أَجْلِ دَاوُدَ أَبِيكَ، بَلْ مِنْ يَدِ ابْنِكَ أُمَزِّقُهَا. 13غَيْرَ أَنِّي أُبْقِي لَهُ سِبْطاً وَاحِداً، يَمْلِكُ عَلَيْهِ إِكْرَاماً لِدَاوُدَ عَبْدِي، وَمِنْ أَجْلِ أُورُشَلِيمَ الَّتِي اخْتَرْتُهَا».

أعداء سليمان

14وَأَثَارَ الرَّبُّ عَلَى سُلَيْمَانَ هَدَدَ سَلِيلَ النَّسْلِ المَلَكِيِّ الأَدُومِيِّ، 15فَفِيمَا كَانَ دَاوُدُ فِي أَدُومَ، صَعِدَ يُوآبُ رَئِيسُ الْجَيْشِ لِدَفْنِ الْقَتْلَى، وَقَضَى عَلَى كُلِّ ذَكَرٍ فِي أَدُومَ. 16إذْ إِنَّ يُوآبَ وَكُلَّ جَيْشِهِ أَقَامُوا هُنَاكَ سِتَّةَ أَشْهُرٍ، أَفْنَوْا خِلالَهَا كُلَّ ذَكَرٍ فِي أَدُومَ، 17وَلَكِنَّ هَدَدَ وَبَعْضَ رِجَالِ أَبِيهِ الأَدُومِيِّينَ اسْتَطَاعُوا الْهَرَبَ وَاللُّجُوءَ إِلَى مِصْرَ، وَكَانَ هَدَدُ آنَئِذٍ فَتىً صَغِيراً. 18وَأَقَامُوا فِي بَادِئِ الأَمْرِ فِي مِدْيَانَ، ثُمَّ انْتَقَلُوا إِلَى فَارَانَ حَيْثُ انْضَمَّ إِلَيْهِمْ عَدَدٌ آخَرُ مِنَ الرِّجَالِ، تَوَجَّهُوا جَمِيعاً إِلَى فِرْعَوْنَ مِصْرَ، فَأَعْطَى فِرْعَوْنُ هَدَدَ بَيْتاً وَأَرْضاً وَطَعَاماً، 19وَحَظِيَ هَدَدُ بِرِضَى فِرْعَوْنَ، فَزَوَّجَهُ أُخْتَ امْرَأَتِهِ الْمَلِكَةِ تَحْفَنِيسَ، 20فَأَنْجَبَتْ لَهُ أُخْتُ تَحْفَنِيسَ ابْناً دَعَاهُ جَنُوبَثَ. وَفَطَمَتْهُ تَحْفَنِيسُ فِي قَصْرِ فِرْعَوْنَ، وَهَكَذَا نَشَأَ جَنُوبَثُ فِي بَيْتِ فِرْعَوْنَ بَيْنَ أَبْنَائِهِ. 21وَعِنْدَمَا سَمِعَ هَدَدُ فِي مِصْرَ بِمَوْتِ دَاوُدَ وَمَصْرَعِ يُوآبَ رَئِيسِ الْجَيْشِ، قَالَ لِفِرْعَوْنَ: «دَعْنِي أَمْضِي إِلَى أَرْضِي». 22فَقَالَ لَهُ فِرْعَوْنُ: «هَلِ افْتَقَرْتَ إِلَى شَيْءٍ عِنْدِي حَتَّى تَنْشُدَ الرُّجُوعَ إِلَى أَرْضِكَ؟» فَأَجَابَ: «لا شَيْءَ إِنَّمَا دَعْنِي أَنْطَلِقُ».

23وَأَثَارَ اللهُ عَلَى سُلَيْمَانَ خَصْماً آخَرَ هُوَ رَزُونُ بْنُ أَلِيدَاعَ، الَّذِي هَرَبَ مِنْ عِنْدِ سَيِّدِهِ هَدَدْعَزَرَ مَلِكِ صُوبَةَ، 24فَضَمَّ إِلَيْهِ رِجَالاً، وَأَصْبَحَ رَئِيساً لِعِصَابَةٍ مِنَ الثُّوَّارِ، فِي الْحِقْبَةِ الَّتِي دَمَّرَ فِيهَا دَاوُدُ قُوَّاتِ صُوبَةَ. فَانْطَلَقَ رَزُونُ بِعِصَابَتِهِ إِلَى دِمَشْقَ وَأَقَامُوا فِيهَا وَاسْتَوْلَوْا عَلَيْهَا. 25وَظَلَّ رَزُونُ خَصْماً لإِسْرَائِيلَ طَوَالَ حَيَاةِ سُلَيْمَانَ، فَضْلاً عَمَّا خَلَقَهُ هَدَدُ مِنْ مَتَاعِبَ. وَهَكَذَا مَلَكَ رَزُونُ فِي دِمَشْقَ وَبَقِيَ عَدُوّاً لإِسْرَائِيلَ.

يربعام يتمرد على سليمان

26وَتَمَرَّدَ يَرُبْعَامُ بْنُ نَابَاطَ الأَفْرَايِمِيُّ مِنْ صَرَدَةَ، وَكَانَ مِنْ رِجَالِ سُلَيْمَانَ، وَاسْمُ أُمِّهِ صَرُوعَةُ وَهِيَ أَرْمَلَةٌ. 27أَمَّا سَبَبُ تَمَرُّدِهِ عَلَى الْمَلِكِ فَهُوَ أَنَّ سُلَيْمَانَ بَنَى الْقَلْعَةَ وَسَدَّ الثُّغْرَاتِ فِي سُورِ مَدِينَةِ دَاوُدَ أَبِيهِ، 28وَكَانَ يَرُبْعَامُ رَجُلاً شَدِيدَ الْمِرَاسِ. فَلَمَّا رَأَى سُلَيْمَانُ أَنَّ الشَّابَّ نَشِيطٌ مُجْتَهِدٌ، أَقَامَهُ مُشْرِفاً عَلَى أَعْمَالِ التَّسْخِيرِ فِي أَرْضِ سِبْطِ يُوسُفَ. 29وَحَدَثَ أَنَّ يَرُبْعَامَ خَرَجَ مِنْ أُورُشَلِيمَ، فَالْتَقَاهُ النَّبِيُّ أَخِيَّا الشِّيلُونِيُّ فِي الطَّرِيقِ. وَكَانَ النَّبِيُّ يَرْتَدِي رِدَاءً جَدِيداً، وَلَمْ يَكُنْ سِوَاهُمَا فِي الْحَقْلِ، 30فَتَنَاوَلَ أَخِيَّا الرِّدَاءَ الْجَدِيدَ الَّذِي عَلَيْهِ وَمَزَّقَهُ اثْنَتَيْ عَشْرَةَ قِطْعَةً، 31وَقَالَ لِيَرُبْعَامَ: «خُذْ لِنَفْسِكَ عَشْرَ قِطَعٍ، لأَنَّهُ هَكَذَا يَقُولُ الرَّبُّ إِلَهُ إِسْرَائِيلَ: هَا أَنَا أُمَزِّقُ الْمَمْلَكَةَ مِنْ يَدِ سُلَيْمَانَ وَأُعْطِيكَ عَشَرَةَ أَسْبَاطٍ، 32وَلا يَبْقَى لَهُ سِوَى سِبْطٍ وَاحِدٍ إِكْرَاماً لِعَبْدِي دَاوُدَ، وَمِنْ أَجْلِ أُورُشَلِيمَ الْمَدِينَةِ الَّتِي اخْتَرْتُهَا مِنْ بَيْنِ مُدُنِ إِسْرَائِيلَ. 33لأَنَّهُ تَخَلَّى عَنِّي وَسَجَدَ لِعَشْتَارُوثَ إِلَهَةِ الصِّيدُونِيِّينَ، وَلِكَمُوشَ إِلَهِ الْمُوآبِيِّينَ، وَلِمَلْكُومَ إِلَهِ بَنِي عَمُّونَ، وَلَمْ يَسْلُكْ فِي سُبُلِي، وَيَصْنَعْ مَا هُوَ مُسْتَقِيمٌ فِي عَيْنَيَّ، وَلَمْ يُطِعْ فَرَائِضِي وَأَحْكَامِي كَدَاوُدَ أَبِيهِ. 34وَلَكِنِّي لَنْ أَنْزِعَ كُلَّ الْمُلْكِ عَنْهُ، بَلْ أُبْقِيَهُ رَئِيساً طَوَالَ حَيَاتِهِ مِنْ أَجْلِ دَاوُدَ عَبْدِي الَّذِي اخْتَرْتُهُ، فَحَفِظَ وَصَايَايَ وَفَرَائِضِي. 35إِنَّمَا أُمَزِّقُ الْمَمْلَكَةَ مِنْ يَدِ ابْنِهِ، وَأُوَلِّيكَ عَلَى عَشْرَةِ أَسْبَاطٍ مِنْهَا، 36تَارِكاً لاِبْنِهِ سِبْطاً وَاحِداً، لِيَظَلَّ أَمَامِي دَائِماً سِرَاجٌ لِدَاوُدَ عَبْدِي فِي أُورُشَلِيمَ، الْمَدِينَةِ الَّتِي اخْتَرْتُهَا لِنَفْسِي لأَضَعَ اسْمِي عَلَيْهَا. 37أَمَّا أَنْتَ فَأُنَصِّبُكَ مَلِكاً لِتَحْكُمَ عَلَى إِسْرَائِيلَ وَفْقاً لِرَغْبَةِ نَفْسِكَ. 38فَإِنْ أَطَعْتَ كُلَّ مَا آمُرُكَ بِهِ وَسَلَكْتَ فِي سُبُلِي، وَصَنَعْتَ مَا هُوَ صَالِحٌ فِي عَيْنَيَّ، وَحَفِظْتَ فَرَائِضِي وَوَصَايَايَ كَمَا فَعَلَ دَاوُدُ عَبْدِي، أَكُونُ مَعَكَ وَأُرَسِّخُ لَكَ مُلْكاً آمِناً كَمَا بَنَيْتُ لِدَاوُدَ، وَأُعْطِيكَ إِسْرَائِيلَ. 39وَأُذِلُّ ذُرِّيَّةَ دَاوُدَ إِلَى حِينٍ مِنْ أَجْلِ هَذَا الإِثْمِ».

موت سليمان

40وَسَعَى سُلَيْمَانُ إِلَى قَتْلِ يَرُبْعَامَ، فَلَجَأَ يَرُبْعَامُ إِلَى شِيشَقَ مَلِكِ مِصْرَ وَمَكَثَ هُنَاكَ حَتَّى وَفَاةِ سُلَيْمَانَ. 41أَمَّا بَقِيَّةُ أَعْمَالِ سُلَيْمَانَ وَكُلُّ مَا صَنَعَ، وَأَقْوَالُ حِكْمَتِهِ، أَلَيْسَتْ هِيَ مُدَوَّنَةً فِي كِتَابِ تَارِيخِ سُلَيْمَانَ؟ 42وَدَامَ مُلْكُ سُلَيْمَانَ فِي أُورُشَلِيمَ عَلَى إِسْرَائِيلَ أَرْبَعِينَ سَنَةً. 43ثُمَّ مَاتَ سُلَيْمَانُ، فَدُفِنَ مَعَ أَسْلافِهِ فِي مَدِينَةِ دَاوُدَ أَبِيهِ، وَخَلَفَهُ ابْنُهُ رَحُبْعَامُ عَلَى الْعَرْشِ.