สรรเสริญพระเจ้า!
1จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงกึกก้องราวกับเสียงผู้คนเป็นอันมากในสวรรค์ร้องตะโกนว่า
“ฮาเลลูยา!19:1 แปลว่าสรรเสริญพระเจ้าเช่นเดียวกับข้อ 3,4 และ 6
ความรอดมาจากพระเจ้าของเรา พระองค์ทรงพระเกียรติสิริและเดชานุภาพ
2เพราะบรรดาการพิพากษาของพระองค์เที่ยงธรรมและเที่ยงแท้
พระองค์ทรงตัดสินโทษหญิงโสเภณีตัวฉกาจนั้นแล้ว
ผู้ซึ่งทำให้โลกเสื่อมทรามด้วยการล่วงประเวณีของนาง
พระองค์ทรงให้นางชดใช้เลือดของผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”
3และพวกเขาร้องตะโกนอีกครั้งว่า
“ฮาเลลูยา!
ควันไฟจากนครนั้นพลุ่งขึ้นสืบๆ ไปเป็นนิตย์”
4ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่หมอบกราบนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระที่นั่ง และร้องว่า
“อาเมน ฮาเลลูยา!”
5แล้วมีเสียงหนึ่งดังจากพระที่นั่งกล่าวว่า
“ท่านทั้งปวงที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ผู้ที่ยำเกรงพระองค์
ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย
จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา”
6จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงคล้ายเสียงผู้คนมากมายเหมือนเสียงน้ำเชี่ยวกรากและเหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องตะโกนว่า
“ฮาเลลูยา!
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
ของเราทรงครอบครองอยู่
7ให้เราทั้งหลายชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์
และถวายพระเกียรติสิริแด่พระองค์!
เพราะถึงกำหนดอภิเษกสมรสของพระเมษโปดกแล้ว
และเจ้าสาวของพระองค์เตรียมตัวพร้อมแล้ว
8ทรงให้เจ้าสาวสวมชุดผ้าลินินเนื้อดี
ที่สะอาดสดใสแล้ว”
(ผ้าลินินเนื้อดีหมายถึงการประพฤติอันชอบธรรมของประชากรของพระเจ้า)
9แล้วทูตสวรรค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า “จงเขียนว่า ‘ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่ได้รับเชิญมายังงานเลี้ยงฉลองอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก!’ ” และทูตนั้นกล่าวอีกว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นพระวจนะแท้ของพระเจ้า”
10ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าหมอบลงแทบเท้าทูตสวรรค์เพื่อนมัสการ แต่ทูตนั้นกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าทำเช่นนั้น! เราเป็นเพื่อนผู้รับใช้ร่วมกับท่านและร่วมกับพี่น้องของท่านที่ยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู จงนมัสการพระเจ้า! เพราะคำพยานเรื่องพระเยซูนั้นคือหัวใจของการเผยพระวจนะ”
ผู้ทรงม้าขาว
11ข้าพเจ้าเห็นฟ้าสวรรค์เปิดอยู่และมีม้าขาวตัวหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ผู้ทรงม้านั้นคือพระผู้สัตย์ซื่อและเที่ยงแท้ พระองค์ทรงพิพากษาและสู้ศึกด้วยความยุติธรรม 12พระเนตรของพระองค์ดุจไฟโชติช่วง บนพระเศียรมีมงกุฎหลายอัน ทรงมีพระนามจารึกไว้บนพระกาย ไม่มีผู้ใดรู้จักพระนามนั้นเลยนอกจากพระองค์เอง 13ทรงฉลองพระองค์ซึ่งได้จุ่มในเลือด และพระนามของพระองค์คือพระวาทะของพระเจ้า 14บรรดากองทัพสวรรค์สวมอาภรณ์ผ้าลินินเนื้อดีขาวสะอาดนั่งบนหลังม้าขาวกำลังตามเสด็จพระองค์ไป 15พระแสงคมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ทรงใช้พระแสงนี้ฟาดฟันประชาชาติ “พระองค์จะทรงปกครองพวกเขาด้วยคทาเหล็ก”19:15 สดด.2:9 พระองค์ทรงเหยียบย่ำองุ่นในบ่อย่ำแห่งพระพิโรธเกรี้ยวกราดของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ 16ที่เสื้อคลุมและต้นขาจารึกพระนามของพระองค์ว่า
กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย เจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย
17แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่ที่ดวงอาทิตย์ร้องเสียงดังประกาศแก่นกทั้งมวลซึ่งบินอยู่กลางอากาศว่า “จงมาร่วมชุมนุมกันในงานเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า 18เพื่อเจ้าจะได้กินเนื้อของกษัตริย์ เนื้อของขุนพลและนายทหาร เนื้อม้าและเนื้อคนขี่ม้า และเนื้อประชาชนทั้งปวง เนื้อของทาสและไท เนื้อของผู้ใหญ่และผู้น้อย”
19แล้วข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายนั้นกับบรรดากษัตริย์ของโลกพร้อมทั้งกองทัพของพวกเขามาชุมนุมกันเพื่อรบกับพระองค์ผู้ทรงม้าขาวและกองทัพของพระองค์ 20แต่สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมด้วยผู้เผยพระวจนะเท็จซึ่งได้ทำหมายสำคัญแทนสัตว์ร้ายนั้น ด้วยหมายสำคัญเหล่านี้เขาได้ล่อลวงบรรดาผู้ที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้นและได้กราบนมัสการรูปจำลองของมัน ทั้งสัตว์ร้ายและผู้เผยพระวจนะเท็จถูกโยนลงในบึงไฟกำมะถันลุกโชนทั้งเป็น 21ส่วนพวกที่เหลือถูกฆ่าด้วยพระแสงดาบซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ผู้ทรงม้าขาว แล้วนกทั้งปวงก็รุมทึ้งกินเนื้อคนเหล่านั้น
Segerjubel i himlen
1Efter det hörde jag något som lät som starka röster från en stor skara människor i himlen, och de sa:
”Halleluja!19:1,3,4,6 Det hebreiska ordet halleluja betyder lova/prisa Herren.
Frälsningen, härligheten och makten tillhör vår Gud,
2för hans domar är sanna och rättfärdiga.
Han har dömt den stora prostituerade kvinnan
som förstörde världen med sin sexuella lössläppthet,
och han har hämnats på henne
för morden på sina tjänare.”
3Sedan sa de än en gång:
”Halleluja!
Röken från henne stiger upp i all evighet!”
4De tjugofyra himmelska ledarna och de fyra levande varelserna föll ner och tillbad Gud som sitter på tronen, och sa:
”Amen. Halleluja!”
5Från tronen kom sedan en röst som sa:
”Hylla vår Gud, alla ni hans tjänare,
alla ni som fruktar honom, både små och stora.”
6Jag hörde något som lät som rösten från en stor skara människor, som dånet av stora vattenmassor, och som mullrande åska, och de sa:
”Halleluja!
Herren, vår Gud, Allsmäktig, är den som regerar.
7Låt oss vara glada och jubla och ge honom äran,
för det är dags för Lammets bröllopsfest,
och hans brud har gjort sig klar.
8Hon har fått klä sig i skinande vitt, fint linnetyg.”
För det fina linnetyget är de heligas rättfärdighet19:8 Det grekiska ordet står i pluralis och kan syfta på de heligas rättfärdiga gärningar..
9Ängeln sa till mig: ”Skriv: Lyckliga är de som är bjudna till Lammets bröllopsmåltid.” Och han fortsatte: ”Detta är ett sant budskap från Gud.”
10Då föll jag ner vid ängelns fötter för att tillbe honom, men han sa: ”Nej, gör inte det! Jag är bara Guds tjänare, precis som du och de andra troende som har Jesus vittnesbörd. Det är Gud du ska tillbe, för Jesus vittnesbörd är profetians ande.”
Ryttaren på den vita hästen
11Sedan såg jag himlen öppen, och jag fick se en vit häst. Ryttaren som satt på den heter ”Trovärdig och Sann”, och han är rättfärdig, både när han dömer och när han strider. 12Hans ögon var som eldslågor, och han hade många kronor på sitt huvud. Ett namn stod skrivet på honom, men ingen känner till det utom han själv. 13Han var klädd i en mantel som doppats i blod, och hans namn är ”Guds Ord”19:13 Guds Ord är Jesus Kristus. Jfr Joh 1:1 och 1 Joh 1:1.. 14Himlens arméer följde honom på vita hästar, klädda i skinande vitt, fint linnetyg. 15Från hans mun kom det ut ett skarpt svärd som han ska slå folken med, och han ska härska över dem med en spira av järn19:15 Jfr Ps 2:9.. Han ska trampa Guds, den Allsmäktiges, glödande vredes vinpress.19:15 En bild på Guds dom hämtad från Jes 63:1-6 och Jer 25:12-15. 16På manteln, över hans lår, står ett namn skrivet: Kungarnas Kung och herrarnas Herre.
17Jag såg också en ängel som stod inne i solen, och han ropade med hög röst till alla fåglar som flög mitt över himlen: ”Kom hit och samlas till Guds stora måltid, 18så ska ni få äta kött från kungar, höga militärer och ledare, från hästar och ryttare, ja, från alla människor, fria och slavar, små och stora.”
19Sedan såg jag att odjuret19:19 Jfr 13:1-10. och kungarna på jorden och deras arméer hade samlats för att strida mot honom som satt på hästen och mot hans armé. 20Odjuret togs till fånga, tillsammans med den falska profeten19:20 Jfr 13:11-18., han som hade utfört tecken inför odjuret och bedragit alla dem som hade tagit emot odjurets märke och tillbett dess bild. De båda kastades sedan levande i eldsjön som brinner av svavel.19:20 Jfr Matt 25:41. 21Resten av dem dödades av svärdet från ryttarens mun, och alla fåglar åt sig mätta på deras kött.
