กิจการของอัครทูต 19 – TNCV & NAV

Thai New Contemporary Bible

กิจการของอัครทูต 19:1-41

เปาโลในเมืองเอเฟซัส

1ขณะอปอลโลอยู่ที่เมืองโครินธ์เปาโลเดินทางไปตามถนนที่ผ่านดินแดนด้านในและมาที่เมืองเอเฟซัส เขาพบสาวกบางคนที่นั่น 2และถามว่า “เมื่อ19:2 หรือหลังจาก ท่านเชื่อท่านได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่?”

พวกเขาตอบว่า “ไม่ เราไม่เคยแม้แต่ได้ยินว่ามีพระวิญญาณบริสุทธิ์”

3ดังนั้นเปาโลจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านได้รับบัพติศมาอะไร?”

พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น”

4เปาโลจึงกล่าวว่า “บัพติศมาของยอห์นคือบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ ยอห์นได้บอกประชาชนให้เชื่อในพระองค์ผู้ซึ่งมาภายหลังท่านคือให้เชื่อในพระเยซู” 5เมื่อได้ฟังเช่นนี้พวกเขาก็รับบัพติศมาเข้าใน19:5 หรือบัพติศมาในพระนามขององค์พระเยซูเจ้า 6เมื่อเปาโลวางมือบนพวกเขาพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมายังคนเหล่านี้ พวกเขาก็พูดภาษาแปลกๆ19:6 หรือภาษาอื่นๆและพยากรณ์ 7คนทั้งหมดนี้เป็นผู้ชายมีประมาณสิบสองคน

8เปาโลเข้าไปในธรรมศาลาและกล่าวด้วยใจกล้าเป็นเวลาสามเดือน ชี้แจงเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าด้วยเหตุผลอย่างน่าเชื่อถือ 9แต่บางคนใจดื้อด้านไม่ยอมเชื่อและพูดให้ร้าย “ทางนั้น” ต่อหน้าสาธารณชน ดังนั้นเปาโลจึงพาพวกสาวกแยกไปและพวกเขาไปอภิปรายกันที่ห้องประชุมของทีรันนัสทุกวัน 10เขาทำเช่นนี้อยู่สองปีจนชาวยิวและชาวกรีกทั้งปวงในแคว้นเอเชียได้ยินพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า

11พระเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์ที่พิเศษกว่าปกติผ่านทางเปาโล 12กระทั่งเมื่อนำผ้าเช็ดหน้ากับผ้ากันเปื้อนที่แตะถูกตัวเขาไปวางบนตัวคนเจ็บป่วย คนเหล่านั้นก็จะหายโรคและวิญญาณชั่วก็ออกไปจากเขา

13ชาวยิวบางคนไปตามที่ต่างๆ แล้วขับไล่วิญญาณชั่วโดยพยายามออกพระนามขององค์พระเยซูเจ้าเหนือคนที่ถูกผีสิง พวกเขาจะสั่งว่า “ในพระนามพระเยซูซึ่งเปาโลประกาศ เราสั่งเจ้าให้ออกมา” 14บุตรชายเจ็ดคนของเสวาหัวหน้าปุโรหิตชาวยิวก็ทำเช่นนี้ 15วันหนึ่งวิญญาณชั่วตอบพวกเขาว่า “พระเยซูน่ะข้ารู้จักและข้าก็เคยได้ยินเรื่องเปาโลแต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?” 16แล้วคนที่มีวิญญาณชั่วสิงก็กระโจนเข้าใส่และเอาชนะพวกเขาทั้งหมด คนนั้นทุบตีพวกเขาจนต้องเผ่นหนีจากบ้านทั้งๆ ที่เปลือยกายและเลือดไหล

17เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูชาวยิวและชาวกรีกในเมืองเอเฟซัสพวกเขาทั้งปวงพากันเกรงกลัวจับใจและพระนามขององค์พระเยซูเจ้าก็เป็นที่ยกย่องอย่างสูง 18บัดนี้หลายคนที่เชื่อมาสารภาพการกระทำที่ชั่วร้ายอย่างเปิดเผย 19คนที่ใช้เวทมนตร์คาถานำม้วนตำราของตนมาเผาทิ้งต่อหน้าสาธารณชน ตำราเหล่านั้นรวมแล้วคิดเป็นเงินถึง 50,000 แดรกมา19:19 1 แดรกมาคือเหรียญเงิน 1 เหรียญมีค่าเท่ากับค่าแรง 1 วัน 20โดยเหตุนี้พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงแพร่ออกไปอย่างกว้างไกลและเกิดผลมากยิ่งขึ้น

21ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้เปาโลตกลงใจว่าจะไปกรุงเยรูซาเล็มโดยผ่านทางแคว้นมาซิโดเนียและอาคายา เขากล่าวว่า “หลังจากได้ไปที่นั่นแล้วเราต้องไปเยี่ยมกรุงโรมด้วย” 22เปาโลส่งผู้ช่วยของเขาสองคนคือทิโมธีกับเอรัสทัสไปแคว้นมาซิโดเนียขณะที่เขาอยู่ในแคว้นเอเชียต่ออีกหน่อยหนึ่ง

การจลาจลในเมืองเอเฟซัส

23ครั้งนั้นเกิดเหตุวุ่นวายครั้งใหญ่เกี่ยวกับ “ทางนั้น” 24ช่างเงินคนหนึ่งชื่อเดเมตริอัสเป็นคนทำรูปจำลองสถานบูชาของเทวีอารเทมิสด้วยเงิน ซึ่งทำรายได้ให้พวกช่างฝีมือไม่น้อย 25เขาเรียกประชุมช่างเหล่านั้นกับคนงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาและกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ท่านย่อมทราบอยู่ว่าธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้เราอย่างมาก 26ท่านก็ได้เห็นและได้ยินที่เปาโลคนนี้ชักจูงผู้คนมากมายให้หลงทางทั้งในเอเฟซัสนี้กับทั่วแคว้นเอเชียก็ว่าได้ เขาพูดว่ารูปเคารพที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้เป็นเทพเจ้าเลย 27สิ่งนี้เป็นอันตรายเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้การค้าของเราเสียชื่อ ยังทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธาในวิหารของเทวีอารเทมิสผู้ยิ่งใหญ่ด้วย และเทวีเองที่ผู้คนกราบไหว้ทั่วแคว้นเอเชียและทั่วโลกจะถูกปล้นความยิ่งใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางไป”

28เมื่อพวกเขาทั้งหลายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัดและเริ่มตะโกนว่า “เทวีอารเทมิสของชาวเอเฟซัสนั้นยิ่งใหญ่!” 29ไม่ช้าทั่วทั้งเมืองก็โกลาหล ผู้คนจับกายอัสกับอาริสทารคัสผู้เป็นเพื่อนร่วมทางของเปาโลจากแคว้นมาซิโดเนียและพากันกรูเข้าไปในที่ซึ่งคนทั้งเมืองใช้ประชุมกัน 30เปาโลอยากจะแสดงตัวต่อหน้าฝูงชนแต่พวกสาวกไม่ยอม 31แม้แต่เจ้าหน้าที่บางคนของแคว้นนั้นซึ่งเป็นเพื่อนของเปาโลยังส่งข่าวมาขอร้องไม่ให้เขาเข้าไปในสถานที่นั้น

32ที่ประชุมวุ่นวายมากบางคนตะโกนว่าอย่างนี้บางคนว่าอย่างนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปที่นั่นทำไม 33พวกยิวผลักอเล็กซานเดอร์ให้ออกไปข้างหน้าและบางคนในฝูงชนก็ตะโกนแนะว่าเขาควรพูดอะไร เขาโบกมือให้เงียบเพื่อจะแก้ต่างต่อหน้าประชาชน 34แต่เมื่อพวกนั้นเห็นว่าเขาเป็นยิวก็ร้องเป็นเสียงเดียวกันราวสองชั่วโมงว่า “เทวีอารเทมิสของชาวเอเฟซัสนั้นยิ่งใหญ่!”

35เจ้าหน้าที่ของเมืองนั้นทำให้ฝูงชนเงียบแล้วกล่าวว่า “ชนชาวเอเฟซัส ใครๆ ก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเมืองเอเฟซัสคือผู้ดูแลวิหารของเทวีอารเทมิสผู้ยิ่งใหญ่ตลอดจนเทวรูปของพระนางซึ่งตกลงมาจากฟ้าสวรรค์? 36ฉะนั้นในเมื่อข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่อาจปฏิเสธได้ท่านทั้งหลายก็ควรนิ่งสงบ ไม่ทำอะไรวู่วาม 37พวกท่านนำตัวคนเหล่านี้มาที่นี่ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ได้ปล้นวิหารต่างๆ หรือลบหลู่เทวีของเรา 38แล้วถ้าเดเมตริอัสกับพวกพ้องช่างฝีมือมีเรื่องจะร้องทุกข์เกี่ยวกับใครคนใดคนหนึ่งศาลก็เปิดอยู่และผู้ตรวจการก็มี พวกเขาสามารถฟ้องร้องได้ 39หากท่านมีข้อหาอื่นใดก็ต้องตกลงกันในที่ประชุมตามกฎหมาย 40เหตุการณ์วันนี้ทำให้เราเสี่ยงต่อการตกเป็นผู้ก่อการจลาจลเพราะเราไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายความวุ่นวายครั้งนี้” 41หลังจากกล่าวเช่นนี้แล้วเขาก็ให้เลิกชุมนุม

Ketab El Hayat

أعمال 19:1-41

بولس في أفسس

1وَبَيْنَمَا كَانَ أَبُلُّوسُ فِي كُورِنْثُوسَ وَصَلَ بُولُسُ إِلَى أَفَسُسَ، بَعْدَمَا مَرَّ بِالْمَنَاطِقِ الدَّاخِلِيَّةِ مِنَ الْبِلادِ. وَهُنَاكَ وَجَدَ بَعْضَ التَّلامِيذِ، 2فَسَأَلَهُمْ: «هَلْ نِلْتُمُ الرُّوحَ الْقُدُسَ عِنْدَمَا آمَنْتُمْ؟» أَجَابُوهُ: «لا! حَتَّى إِنَّنَا لَمْ نَسْمَعْ بِوُجُودِ الرُّوحِ الْقُدُسِ!» 3فَسَأَلَ: «إِذَنْ عَلَى أَيِّ أَسَاسٍ قَدْ تَعَمَّدْتُمْ؟» أَجَابُوا: «عَلَى أَسَاسِ مَعْمُودِيَّةِ يُوحَنَّا!» 4فَقَالَ بُولُسُ: «كَانَ يُوحَنَّا يُعَمِّدُ بِمَعْمُودِيَّةِ التَّوْبَةِ، وَيَدْعُو الشَّعْبَ إِلَى الإِيمَانِ بِالآتِي بَعْدَهُ، أَيْ بِيَسُوعَ». 5فَلَمَّا سَمِعُوا هَذَا تَعَمَّدُوا بِاسْمِ الرَّبِّ يَسُوعَ. 6وَمَا إِنْ وَضَعَ بُولُسُ يَدَيْهِ عَلَيْهِمْ حَتَّى حَلَّ عَلَيْهِمِ الرُّوحُ الْقُدُسُ، وَأَخَذُوا يَتَكَلَّمُونَ بِلُغَاتٍ أُخْرَى وَيَتَنَبَّأُونَ. 7وَكَانَ عَدَدُهُمْ نَحْوَ اثْنَيْ عَشَرَ رَجُلاً.

8وَأَخَذَ بُولُسُ يُدَاوِمُ عَلَى الذَّهَابِ إِلَى الْمَجْمَعِ مُدَّةَ ثَلاثَةِ أَشْهُرٍ، يَتَكَلَّمُ بِجُرْأَةٍ فَيُنَاقِشُ الْحَاضِرِينَ وَيُحَاوِلُ إِقْنَاعَهُمْ بِالْحَقَائِقِ الْمُخْتَصَّةِ بِمَلَكُوتِ اللهِ. 9وَلَكِنَّ بَعْضَهُمْ عَانَدُوا وَلَمْ يَقْتَنِعُوا، وَأَخَذُوا يَشْتِمُونَ هَذَا الطَّرِيقَ أَمَامَ الْمُجْتَمِعِينَ. فَانْفَصَلَ بُولُسُ عَنْهُمْ، وَانْفَرَدَ بِالتَّلامِيذِ، وَبَدَأَ يَعْقِدُ مُنَاقَشَاتٍ كُلَّ يَوْمٍ فِي مَدْرَسَةِ رَجُلٍ اسْمُهُ تِيرَانُّوسُ، 10وَدَاوَمَ عَلَى ذَلِكَ مُدَّةَ سَنَتَيْنِ. وَهَكَذَا وَصَلَتْ كَلِمَةُ الرَّبِّ إِلَى جَمِيعِ سُكَّانِ مُقَاطَعَةِ آسِيَّا مِنَ الْيَهُودِ وَالْيُونَانِيِّينَ. 11وَكَانَ اللهُ يُجْرِي مُعْجِزَاتٍ خَارِقَةً عَلَى يَدِ بُولُسَ، 12حَتَّى صَارَ النَّاسُ يَأْخُذُونَ الْمَنَادِيلَ أَوِ الْمَآزِرَ الَّتِي مَسَّتْ جَسَدَهُ، وَيَضَعُونَهَا عَلَى الْمَرْضَى، فَتَزُولُ أَمْرَاضُهُمْ وَتَخْرُجُ الأَرْوَاحُ الشِّرِّيرَةُ مِنْهُمْ.

13وَحَاوَلَ بَعْضُ الْيَهُودِ الْجَوَّالِينَ الَّذِينَ يَحْتَرِفُونَ طَرْدَ الأَرْوَاحِ الشِّرِّيرَةِ، أَنْ يَسْتَغِلُّوا اسْمَ الرَّبِّ يَسُوعَ، قَائِلِينَ: «نَطْرُدُكَ بِاسْمِ يَسُوعَ الَّذِي يُبَشِّرُ بِهِ بُولُسُ!» 14وَكَانَ بَيْنَ هَؤُلاءِ سَبْعَةُ أَبْنَاءٍ لِوَاحِدٍ مِنَ الْكَهَنَةِ اسْمُهُ سَكَاوَا، 15فَأَجَابَهُمُ الرُّوحُ الشِّرِّيرُ: «يَسُوعُ أَنَا أَعْرِفُهُ، وَبُولُسُ أَفْهَمُهُ. وَلكِنْ، مَنْ أَنْتُمْ؟» 16ثُمَّ هَجَمَ عَلَيْهِمِ الرَّجُلُ الَّذِي بِهِ الرُّوحُ الشِّرِّيرُ، فَتَمَكَّنَ مِنْهُمْ وَغَلَبَهُمْ، فَهَرَبُوا مِنَ الْبَيْتِ الَّذِي كَانُوا فِيهِ، عُرَاةً مُجَرَّحِينَ. 17فَانْتَشَرَ خَبَرُ ذَلِكَ بَيْنَ الْيَهُودِ وَالْيُونَانِيِّينَ السَّاكِنِينَ فِي أَفَسُسَ، فَاسْتَوْلَتِ الرَّهْبَةُ عَلَى الْجَمِيعِ. وَتَمَجَّدَ اسْمُ الرَّبِّ يَسُوعَ. 18فَجَاءَ كَثِيرُونَ مِنَ الَّذِينَ كَانُوا قَدْ آمَنُوا يَعْتَرِفُونَ وَيُخْبِرُونَ بِمَا كَانُوا يَعْمَلُونَ. 19وَأَخَذَ كَثِيرُونَ مِنَ الْمُشْتَغِلِينَ بِالسِّحْرِ يَجْمَعُونَ كُتُبَهُمْ وَيُحْرِقُونَهَا أَمَامَ الْجَمِيعِ. وَقَدْ حُسِبَ ثَمَنُهَا، فَتَبَيَّنَ أَنَّهُ خَمْسُونَ أَلْفَ قِطْعَةٍ مِنَ الْفِضَّةِ. 20بِهذِهِ الصُّورَةِ كَانَتْ كَلِمَةُ الرَّبِّ تَنْتَشِرُ وَتَقْوَى بِاقْتِدَارٍ.

21وَبَعْدَ حُدُوثِ هذِهِ الأُمُورِ، عَزَمَ بُولُسُ عَلَى السَّفَرِ إِلَى أُورُشَلِيمَ مُرُوراً بِمُقَاطَعَتَيْ مَقِدُونِيَّةَ وَأَخَائِيَةَ، قَائِلاً: «لابُدَّ لِي بَعْدَ إِقَامَتِي فِيهَا مِنْ زِيَارَةِ رُومَا أَيْضاً!» 22فَأَرْسَلَ إِلَى مَقِدُونِيَّةَ اثْنَيْنِ مِنْ مُعَاوِنِيهِ، هُمَا تِيمُوثَاوُسُ وَأَرَسْطُوسُ، وَبَقِيَ مُدَّةً مِنَ الزَّمَنِ فِي مُقَاطَعَةِ آسِيَّا.

اضطراب في أفسس

23فِي تِلْكَ الْمُدَّةِ وَقَعَ اضْطِرَابٌ خَطِيرٌ فِي أَفَسُسَ بِسَبَبِ هَذَا الطَّرِيقِ. 24فَإِنَّ صَائِغاً اسْمُهُ دِيمِتْرِيُوسُ كَانَ يَصْنَعُ نَمَاذِجَ فِضِّيَّةً صَغِيرَةً لِمَعَابِدِ الإِلَهَةِ أَرْطَامِيسَ، فَيَعُودُ ذَلِكَ عَلَيْهِ وَعَلَى عُمَّالِهِ بِرِبْحٍ وَفِيرٍ، 25دَعَا عُمَّالَهُ وَأَهْلَ مِهْنَتِهِ، وَقَالَ لَهُمْ: «تَعْلَمُونَ أَيُّهَا الرِّجَالُ أَنَّ عَيْشَنَا الرَّغِيدَ يَعْتَمِدُ عَلَى صِنَاعَتِنَا هذِهِ، 26وَقَدْ رَأَيْتُمْ وَسَمِعْتُمْ أَنَّ بُولُسَ هَذَا أَضَلَّ عَدَداً كَبِيراً مِنَ النَّاسِ، لَا فِي أَفَسُسَ وَحْدَهَا، بَلْ فِي مُقَاطَعَةِ آسِيَّا كُلِّهَا تَقْرِيباً، وَأَقْنَعَهُمْ بِأَنَّ الآلِهَةَ الَّتِي تَصْنَعُهَا الأَيْدِي لَيْسَتْ بِآلِهَةٍ. 27وَهَذَا لَا يُهَدِّدُ صِنَاعَتَنَا بِالْكَسَادِ وَحَسْبُ، بَلْ يُعَرِّضُ مَعْبَدَ أَرْطَامِيسَ إِلهَتِنَا الْعُظْمَى لِفُقْدَانِ هَيْبَتِهِ. فَنَخْشَى أَن تَتَلاشَى كَرَامَتُهَا وَتَنْهَارَ عَظَمَتُهَا، وَهِيَ الَّتِي يَتَعَبَّدُ لَهَا سُكَّانُ أَسِيَّا جَمِيعاً، بَلِ الْعَالَمُ كُلُّهُ!»

28فَلَمَّا سَمِعَ الْعُمَّالُ هَذَا الْكَلامَ تَمَلَّكَهُمُ الْغَضَبُ وَبَدَأُوا يَصْرُخُونَ: «عَظِيمَةٌ أَرْطَامِيسُ إِلهَةُ أَهْلِ أَفَسُسَ!» 29وَعَمَّ الاِضْطِرَابُ الْمَدِينَةَ كُلَّهَا. وَهَجَمَ حَشْدٌ كَبِيرٌ مِنَ النَّاسِ عَلَى غَايُوسَ وَأَرِسْتَرْخُسَ الْمَقِدُونِيَّيْنِ رَفِيقَيْ بُولُسَ فِي السَّفَرِ، وَجَرُّوهُمَا إِلَى سَاحَةِ الْمَلْعَبِ.

30وَأَرَادَ بُولُسُ أَنْ يُوَاجِهَ الْجُمْهُورَ، وَلَكِنَّ التَّلامِيذَ مَنَعُوهُ مِنْ ذَلِكَ، 31كَمَا أَرْسَلَ إِلَيْهِ أَصْدِقَاؤُهُ مِنْ وُجَهَاءِ آسِيَّا يَرْجُونَ مِنْهُ أَلّا يُعَرِّضَ نَفْسَهُ لِخَطَرِ الذَّهَابِ إِلَى الْمَلْعَبِ، 32فَقَدْ كَانَ الأَمْرُ مُخْتَلِطاً عَلَى الْجُمْهُورِ، بَعْضُهُمْ يَصْرُخُ بِشَيْءٍ، وَبَعْضُهُمْ يَصْرُخُ بِشَيْءٍ آخَرَ، حَتَّى إِنَّ أَكْثَرَهُمْ لَمْ يَكُونُوا يَعْرِفُونَ سَبَبَ تَجَمُّعِهِمْ. 33وَكَانَ بَيْنَ الْجُمْهُورِ يَهُودِيٌّ اسْمُهُ إِسْكَنْدَرُ، دَفَعَهُ الْيَهُودُ إِلَى الأَمَامِ، وَدَعَاهُ بَعْضُهُمْ إِلَى الْكَلامِ. فَأَشَارَ بِيَدِهِ يُرِيدُ أَنْ يُلْقِيَ عَلَى الشَّعْبِ كَلِمَةَ دِفَاعٍ. 34لَكِنَّ الْمُحْتَشِدِينَ عَرَفُوا أَنَّهُ يَهُودِيٌّ، فَأَخَذُوا يَهْتِفُونَ مَعاً هُتَافاً وَاحِداً ظَلُّوا يُرَدِّدُونَهُ نَحْوَ سَاعَتَيْنِ: «عَظِيمَةٌ أَرْطَامِيسُ إِلهَةُ أَهْلِ أَفَسُسَ!»

35أَخِيراً تَمَكَّنَ كَاتِبُ الْمَدِينَةِ مِنْ تَهْدِئَةِ الْحُشُودِ، وَقَالَ: «يَا أَهْلَ أَفَسُسَ، مَنْ يُنْكِرُ أَنَّ أَفَسُسَ هِيَ الْمَدِينَةُ الْحَارِسَةُ لِهَيْكَلِ أَرْطَامِيسَ الإِلهَةِ الْعَظِيمَةِ، وَلِصَنَمِهَا الَّذِي هَبَطَ مِنَ السَّمَاءِ؟ 36فَلأَنَّهُ لَا خِلافَ فِي هَذَا الأَمْرِ، يَجِبُ أَنْ تَهْدَأُوا وَلا تَفْعَلُوا شَيْئاً بِتَسَرُّعٍ. 37فَقَدْ أَحْضَرْتُمْ هَذَيْنِ الرَّجُلَيْنِ، مَعَ أَنَّهُمَا لَمْ يَسْرِقَا الْمَعْبَدَ وَلَمْ يَشْتُمَا إِلهَتَكُمْ. 38أَمَّا إِذَا كَانَ لِدِيمِتْرِيُوسَ وَزُمَلاءِ مِهْنَتِهِ شَكْوَى، فَإِنَّ عِنْدَنَا مَحَاكِمَ وَقُضَاةً. فَلْيَتَقَدَّمُوا بِشَكْوَاهُمْ إِلَى الْقُضَاةِ. 39وَإذَا كَانَ لَكُمْ شَكْوَى أُخْرَى، فَإِنَّ النَّظَرَ فِيهَا يَتِمُّ فِي جَلْسَةٍ قَانُونِيَّةٍ. 40أَمَّا الآنَ فَكُلُّنَا مُعَرَّضُونَ لِلْمُحَاكَمَةِ بِتُهْمَةِ افْتِعَالِ الاضْطِرَابِ، بِسَبَبِ مَا حَدَثَ الْيَوْمَ، وَنَحْنُ لَا نَمْلِكَ حُجَّةً نُبَرِّرُ بِها التَّجَمُّعَ!» 41وَبِقَوْلِهِ هَذَا صَرَفَ الْمُحْتَشِدِينَ.