Jesus släkttavla
(Luk 3:23-38)
1Detta är släkttavlan för Jesus Kristus1:1 Kristus betyder den smorde på grekiska. Dess hebreiska motsvarighet är Messias. Bland Israels folk smordes kungar, präster och profeter med olja innan de började sin uppgift. Gud hade genom profeterna lovat att sända en smord kung som skulle härska över alla folk. Judarna väntade på att denna kung skulle återupprätta Israel som nation., som var ättling till David och Abraham:
2Abraham var far till Isak,
Isak till Jakob,
Jakob till Juda och hans bröder,
3Juda var far till Peres och Serach, och deras mor hette Tamar,
Peres var far till Hesron,
Hesron till Ram,
4Ram till Amminadav,
Amminadav till Nachshon,
Nachshon till Salma,
5Salma till Boas, vars mor hette Rachav,
Boas till Oved, vars mor hette Rut,
Oved till Jishaj,
6Jishaj till kung David.
David var far till Salomo, vars mor var änkan efter Uria,
7Salomo till Rehabeam,
Rehabeam till Avia,
Avia till Asa,
8Asa till Joshafat,
Joshafat till Joram,
Joram till Ussia,
9Ussia till Jotam,
Jotam till Achas,
Achas till Hiskia,
10Hiskia till Manasse,
Manasse till Amon,
Amon till Josia,
11Josia till Jekonia1:11 Också känd som Jojakin (1 Krön 3:15). och hans bröder, som föddes vid den tid då folket fördes bort i fångenskap till Babylon.
12Efter bortförandet till Babylon:
Jekonias, far till Shealtiel,
Shealtiel till Serubbabel,
13Serubbabel till Avihud,
Avihud till Eljakim,
Eljakim till Asor,
14Asor till Sadok,
Sadok till Akim,
Akim till Elihud,
15Elihud till Elasar,
Elasar till Mattan,
Mattan till Jakob,
16och Jakob till Josef. Josef var Marias man, och hon var mor till Jesus som kallas Kristus.
17Det var alltså fjorton släktled från Abraham fram till David, fjorton släktled från David fram till bortförandet till Babylon och fjorton släktled från bortförandet till Babylon fram till Kristus.
Jesus föds
18När Jesus Kristus föddes gick det till så här: Hans mor Maria var trolovad1:18 Den judiska förlovningen var mer bindande än en nutida förlovning. Den kunde endast brytas genom skilsmässa och något sexuellt umgänge fick inte förekomma. med Josef. Men redan innan de gift sig blev hon med barn genom den heliga Anden. 19Josef, hennes blivande man, var rättfärdig och ville inte skämma ut Maria offentligt utan tänkte skilja sig från henne i hemlighet.1:19 Josef tänkte skriva under de nödvändiga pappren för skilsmässa, men inte låta henne dömas offentligt och bli stenad, vilket han kunde ha gjort.
20Medan han fortfarande grubblade över detta visade sig en Herrens ängel för honom i en dröm. Ängeln sa: ”Josef, du ättling till David, tveka inte att gifta dig med Maria, för barnet hon bär har blivit till genom den heliga Anden. 21Hon ska få en Son, och du ska låta honom heta Jesus, för han ska rädda sitt folk från deras synder.1:21 Jesus, som är den grekiska formen av namnet Josua (jeshua) betyder Herren räddar.”
22Genom detta gick det som Herren förutsagt genom profeten Jesaja i uppfyllelse:
23”Jungfrun ska bli med barn
och föda en Son,
och man ska ge honom namnet Immanuel”.
(Det betyder: Gud med oss).1:23 Se Jes 7:14, varifrån citatet är hämtat; jungfrun enligt Septuaginta, i den masoretiska texten den unga kvinnan. Sammanhanget visar dock att i fråga om Jesus mor var betydelsen i vilket fall som helst ”jungfru”, även om också det grekiska ordet annars kan användas utan att det ligger någon betoning på just den aspekten, så t.ex. i liknelsen om de tio flickorna i Matt 25.
24När Josef vaknade gjorde han som ängeln hade befallt och gifte sig med Maria, 25men de hade inget sexuellt umgänge förrän Sonen hade fötts. Och Josef lät honom heta Jesus.
ลำดับวงศ์ของพระเยซูคริสต์
(ลก.3:23-38; นรธ.4:18-22; 1พศด.3:10-17)
1บันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นเชื้อสายของดาวิด ผู้เป็นเชื้อสายของอับราฮัมมีดังนี้
2อับราฮัมเป็นบิดาของอิสอัค
อิสอัคเป็นบิดาของยาโคบ
ยาโคบเป็นบิดาของยูดาห์กับพี่น้องของเขา
3ยูดาห์เป็นบิดาของเปเรศกับเศราห์ มารดาของพวกเขาคือนางทามาร์
เปเรศเป็นบิดาของเฮสโรน
เฮสโรนเป็นบิดาของราม
4รามเป็นบิดาของอัมมีนาดับ
อัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโชน
นาโชนเป็นบิดาของสัลโมน
5สัลโมนเป็นบิดาของโบอาส มารดาของเขาคือนางราหับ
โบอาสเป็นบิดาของโอเบด มารดาของเขาคือนางรูธ
โอเบดเป็นบิดาของเจสซี
6และเจสซีเป็นบิดาของกษัตริย์ดาวิด
ดาวิดเป็นบิดาของโซโลมอน มารดาของโซโลมอนเคยเป็นภรรยาของอุรียาห์มาก่อน
7โซโลมอนเป็นบิดาของเรโหโบอัม
เรโหโบอัมเป็นบิดาของอาบียาห์
อาบียาห์เป็นบิดาของอาสา
8อาสาเป็นบิดาของเยโฮชาฟัท
เยโฮชาฟัทเป็นบิดาของเยโฮรัม
เยโฮรัมเป็นบิดาของอุสซียาห์
9อุสซียาห์เป็นบิดาของโยธาม
โยธามเป็นบิดาของอาหัส
อาหัสเป็นบิดาของเฮเซคียาห์
10เฮเซคียาห์เป็นบิดาของมนัสเสห์
มนัสเสห์เป็นบิดาของอาโมน
อาโมนเป็นบิดาของโยสิยาห์
11และโยสิยาห์เป็นบิดาของเยโคนิยาห์1:11 คือเยโฮยาคีนเช่นเดียวกับข้อ 12กับพี่น้องของเขาเมื่อครั้งตกเป็นเชลยที่บาบิโลน
12หลังจากตกเป็นเชลยที่บาบิโลนแล้ว
เยโคนิยาห์เป็นบิดาของเชอัลทิเอล
เชอัลทิเอลเป็นบิดาของเศรุบบาเบล
13เศรุบบาเบลเป็นบิดาของอาบียุด
อาบียุดเป็นบิดาของเอลียาคิม
เอลียาคิมเป็นบิดาของอาซอร์
14อาซอร์เป็นบิดาของศาโดก
ศาโดกเป็นบิดาของอาคิม
อาคิมเป็นบิดาของเอลีอูด
15เอลีอูดเป็นบิดาของเอเลอาซาร์
เอเลอาซาร์เป็นบิดาของมัทธาน
มัทธานเป็นบิดาของยาโคบ
16และยาโคบเป็นบิดาของโยเซฟสามีของมารีย์ผู้ให้กำเนิดพระเยซูที่เรียกกันว่า พระคริสต์1:16 หรือพระเมสสิยาห์ทั้งคำว่า “พระคริสต์” (เป็นคำกรีก) และ “พระเมสสิยาห์” (เป็นคำฮีบรู) แปลว่า “ผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้”
17ดังนั้นตั้งแต่อับราฮัมลงมาจนถึงดาวิดมีสิบสี่ชั่วคน ตั้งแต่ดาวิดมาจนถึงเมื่อครั้งตกเป็นเชลยที่บาบิโลนมีสิบสี่ชั่วคน และตั้งแต่ครั้งตกเป็นเชลยที่บาบิโลนจนถึงพระคริสต์มีสิบสี่ชั่วคน
การประสูติของพระเยซูคริสต์
18เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสต์มีดังนี้ มารีย์มารดาของพระองค์เป็นคู่หมั้นของโยเซฟ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน ปรากฏว่ามารีย์ได้ตั้งครรภ์โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 19เนื่องจากโยเซฟคู่หมั้นของนางเป็นคนดีมีคุณธรรมและไม่ประสงค์จะแพร่งพรายเรื่องนี้ให้นางต้องอับอายต่อหน้าธารกำนัล เขาจึงคิดที่จะถอนหมั้นอย่างเงียบๆ
20แต่หลังจากที่เขาคิดจะทำเช่นนั้น ทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เขาในความฝันและกล่าวว่า “โยเซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาเลยเพราะว่าผู้ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ 21นางจะให้กำเนิดบุตรชาย จงตั้งชื่อพระกุมารนั้นว่า เยซู1:21 “เยซู” เป็นคำกรีกของคำว่า “โยชูวา” ในภาษาฮีบรู ซึ่งแปลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้รอด” เพราะว่าพระองค์จะทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากบาปทั้งหลายของเขา”
22ทั้งหมดนี้เป็นจริงตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะซึ่งกล่าวว่า 23“หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายและเขาจะเรียกท่านว่า อิมมานูเอล”1:23 อสย.7:14 ซึ่งแปลว่า “พระเจ้าทรงอยู่กับเรา”
24เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับมารีย์มาเป็นภรรยา 25แต่เขาไม่ได้ร่วมหลับนอนกับนางจนกระทั่งมารีย์ให้กำเนิดบุตรชาย และเขาตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เยซู
