Забур 37 – CARST & TNCV

Священное Писание (Восточный перевод), версия для Таджикистана

Забур 37:1-23

Песнь 37

1Песнь Довуда. В напоминание.

2Вечный, не в ярости упрекай меня

и не во гневе наказывай.

3Ведь стрелы Твои пронзили меня,

и рука Твоя на мне тяжела.

4От гнева Твоего

нет на теле моём здорового места.

От греха моего

не осталось здоровья в костях моих.

5Грехи мои меня поглотили;

они, как бремя, отягощают меня.

6Мои раны смердят и гноятся

из-за глупости моей.

7Я согбен и совсем поник;

весь день хожу скорбя.

8Тело моё горит огнём,

и нет на мне здорового места.

9Я изнемог и полностью сокрушён,

и от муки сердца кричу.

10Все мои желания пред Тобой, Владыка,

и вздохи мои от Тебя не скрыты.

11Сердце моё колотится, силы мне изменили;

даже свет в глазах моих меркнет.

12Мои друзья и товарищи из-за язв меня избегают,

и соседи мои стоят вдалеке.

13Те, кто желает моей смерти, ставят мне сети;

те, кто желает мне зла, говорят о моей погибели;

целый день они строят козни.

14А я, как глухой, не слышу,

как немой, не размыкаю уст.

15Да, я стал как тот, кто не слышит,

в чьих устах не найти ответа.

16Вечный, на Тебя я уповаю;

Ты ответишь, Владыка, мой Бог.

17Я сказал: «Не дай им торжествовать

и кичиться передо мной,

когда мои ноги колеблются».

18Я близок к падению,

и боль моя предо мной всегда.

19Я признаю моё беззаконие

и скорблю о своём грехе.

20Могущественны и крепки те, кто враждует со мной;

умножились ненавидящие меня без причины.

21Злом воздают мне за добро,

враждуют со мною за то, что добру я следую.

22Вечный, не оставь меня!

Не удаляйся от меня, мой Бог!

23Поспеши мне на помощь,

Владыка, мой Спаситель!

Thai New Contemporary Bible

สดุดี 37:1-40

สดุดี 3737 สดุดี 37 ในภาษาฮีบรู แต่ละข้อของสดุดีบทนี้ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรฮีบรูเรียงตามลำดับ

(บทประพันธ์ของดาวิด)

1อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว

หรืออย่าอิจฉาคนที่ทำผิด

2เพราะว่าในไม่ช้าเขาก็จะเหี่ยวแห้งไปเหมือนต้นหญ้า

และเขาจะเฉาตายไปเหมือนพืชผัก

3จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำความดี

จงอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นและรื่นรมย์อยู่ในทุ่งหญ้าอันปลอดภัย

4จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระองค์จะประทานสิ่งที่ใจของท่านปรารถนา

5จงมอบทางของท่านไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า

จงวางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงทำสิ่งเหล่านี้ คือ

6พระองค์จะทำให้ความชอบธรรมของท่านฉายแสงดั่งรุ่งอรุณ

ให้ความยุติธรรมในคดีของท่านเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน

7จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์

อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา

เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี

8จงระงับโทสะ เลิกโมโหโกรธาเสีย

อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งมีแต่จะนำไปสู่ความเลวร้าย

9เพราะคนชั่วร้ายจะถูกกำจัด

แต่บรรดาผู้ที่หวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

10เพียงชั่วประเดี๋ยว คนชั่วก็จะสูญสิ้นไป

แม้ท่านจะมองหาเขาแต่จะไม่พบ

11ส่วนคนที่ถ่อมสุภาพจะได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก

และชื่นชมกับสันติสุขอันยิ่งใหญ่

12คนชั่ววางแผนปองร้ายผู้ชอบธรรม

และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่พวกเขา

13แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหัวเราะเยาะคนชั่ว

เพราะพระองค์ทรงทราบว่าวันเวลาของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว

14คนชั่วชักดาบและโก่งคันธนู

เพื่อโค่นล้มคนยากไร้และขัดสน

เพื่อเข่นฆ่าคนที่ดำเนินในทางเที่ยงธรรม

15แต่ดาบของเขาเองจะเสียบทะลุหัวใจของเขาเอง

และธนูของเขาจะถูกหักทำลาย

16สิ่งเล็กน้อยที่คนชอบธรรมมีอยู่

ก็ดีกว่าความมั่งคั่งของคนชั่วร้าย

17เพราะอำนาจของคนชั่วจะถูกขจัดไป

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเชิดชูผู้ชอบธรรม

18องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ

มรดกของพวกเขาจะยั่งยืนนิรันดร์

19ในยามเกิดภัยพิบัติ พวกเขาจะไม่อับเฉา

ในยามกันดารอาหาร พวกเขาก็จะเริงร่าในความอุดมสมบูรณ์

20ส่วนคนชั่วจะพินาศ

แม้ว่าศัตรูขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่งหญ้า

พวกเขาก็จะสูญสิ้นไปเหมือนควัน

21คนชั่วขอยืมแล้วไม่ใช้คืน

ส่วนคนชอบธรรมให้ด้วยใจกว้างขวาง

22บรรดาผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพรจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

แต่บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงสาปแช่งจะต้องถูกตัดออก

23ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยทางของคนใด

ก็ทรงให้ย่างก้าวของคนนั้นมั่นคง

24แม้เขาสะดุด เขาจะไม่ล้มลง

เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าค้ำชูเขาไว้

25ข้าพเจ้าเคยเป็นหนุ่มฉกรรจ์ และเดี๋ยวนี้ชราแล้ว

แต่ยังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง

หรือลูกหลานของพวกเขาต้องขอทานเลี้ยงชีพ

26พวกเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสมอและให้ยืมอย่างไม่ตระหนี่

ลูกหลานของพวกเขาก็ได้รับพร

27จงละทิ้งความชั่วและทำความดี

แล้วท่านจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นสืบไปเป็นนิตย์

28เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักคนเที่ยงธรรม

และจะไม่ทอดทิ้งคนซื่อสัตย์ของพระองค์

พระองค์จะทรงปกป้องเขาตลอดไป

แต่พงศ์พันธุ์ของคนชั่วจะถูกตัดออก

29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

และจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป

30ปากของผู้ชอบธรรมเปี่ยมด้วยสติปัญญา

และลิ้นของเขาพูดสิ่งที่ยุติธรรม

31บทบัญญัติของพระเจ้าอยู่ในใจของเขา

ย่างเท้าของเขาจะไม่พลาดพลั้ง

32คนชั่วหมอบคอยคนชอบธรรม

ซุ่มดักเอาชีวิตของเขา

33แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงปล่อยพวกเขาให้อยู่ในกำมือของคนชั่ว

หรือให้คนชอบธรรมถูกตัดสินลงโทษเมื่อขึ้นศาล

34จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า และดำเนินตามทางของพระองค์

พระองค์จะทรงเชิดชูท่านให้ได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

ท่านจะเห็นคนชั่วร้ายถูกทำลาย

35ข้าพเจ้าเห็นคนชั่วร้ายอำมหิตเจริญรุ่งเรือง

ดั่งต้นไม้เขียวขจีในถิ่นฐานของมัน

36แต่ไม่ช้าก็จากไปและดับสูญ

แม้ข้าพเจ้ามองหา ก็ไม่พบเขาอีกเลย

37จงพิจารณาคนที่ไร้ที่ติ สังเกตดูคนเที่ยงธรรม

ผู้ใฝ่สันติจะมีอนาคต37:37 หรือลูกหลานเช่นเดียวกับข้อ 38

38แต่บรรดาคนบาปทุกคนจะถูกทำลายไป

คนชั่วจะไม่มีอนาคต

39ความรอดของคนชอบธรรมมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของพวกเขาในยามทุกข์ยาก

40องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเขาและทรงกอบกู้เขา

พระองค์จะทรงกอบกู้เขาจากคนชั่วและช่วยให้เขาปลอดภัย

เพราะพวกเขาลี้ภัยในพระองค์