กันดารวิถี 4:1-49, กันดารวิถี 5:1-10 TNCV

กันดารวิถี 4:1-49

คนโคฮาท

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “จงทำบัญชีรายชื่อคนโคฮาทซึ่งเป็นเชื้อสายหนึ่งของคนเลวีตามตระกูลและตามครอบครัวของเขา จงนับผู้ชายทุกคนซึ่งมีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปีซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ

“ภารกิจของคนโคฮาทในเต็นท์นัดพบคือ ดูแลสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด เมื่อโยกย้ายค่ายพัก อาโรนกับบุตรชายจะเข้าไปปลดม่านกั้นอภิสุทธิสถานลงมาคลุมหีบพันธสัญญา จากนั้นเอาหนังพะยูนคลุมทับม่าน ใช้ผ้าสีน้ำเงินคลุมทับหนังพะยูนอีกชั้นหนึ่ง แล้วสอดคานหามหีบพันธสัญญา

“ให้พวกเขาคลี่ผ้าสีน้ำเงินคลุมโต๊ะเครื่องถวายเบื้องพระพักตร์ วางจาน ชาม เหยือก และขนมปังซึ่งต้องตั้งไว้เสมอบนโต๊ะนั้น เอาผ้าสีแดงคลุมทับสิ่งเหล่านั้น แล้วใช้หนังพะยูนคลุมทับไว้ และสอดคานหามเข้าที่ห่วงของโต๊ะ

“จากนั้นเอาผ้าสีน้ำเงินคลุมคันประทีป ตะเกียง กรรไกรแต่งไส้ตะเกียง ถาด และภาชนะทั้งหมดสำหรับบรรจุน้ำมันมะกอกเพื่อใช้เติมตะเกียง แล้วใช้หนังพะยูนห่อทับอีกรอบ นำทั้งห่อขึ้นไปวางบนแคร่หาม

“จากนั้นคลี่ผ้าสีน้ำเงินคลุมแท่นบูชาทองคำ คลุมด้วยหนังพะยูนอีกชั้น แล้วสอดคานลอดห่วงของแท่น

“พวกเขาต้องใช้ผ้าสีน้ำเงินห่อภาชนะเครื่องใช้ทั้งหมดที่ใช้ในสถานนมัสการ คลุมทับด้วยหนังพะยูน แล้วนำไปวางบนแคร่หาม

“ให้เขาเอาขี้เถ้าออกจากแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ และใช้ผ้าสีม่วงคลุมแท่น แล้วเอาภาชนะเครื่องใช้ประจำแท่นทั้งหมดได้แก่ ถาดรองไฟ ขอเกี่ยว ทัพพี อ่างประพรม และภาชนะอื่นๆ วางบนผ้านั้น แล้วคลุมด้วยหนังพะยูน เอาคานสอดประจำที่

“เมื่ออาโรนและบรรดาบุตรชายคลุมเครื่องตกแต่งอันบริสุทธิ์และเครื่องใช้บริสุทธิ์เหล่านี้ทั้งหมดแล้ว และเมื่อทั้งค่ายพร้อมจะเคลื่อนย้าย คนโคฮาทจะเข้ามาหามสิ่งเหล่านี้ แต่พวกเขาจะแตะต้องสิ่งบริสุทธิ์ไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องตาย งานของคนโคฮาทคือการแบกหามสิ่งต่างๆ ในเต็นท์นัดพบ

“ปุโรหิตเอเลอาซาร์บุตรชายของอาโรนจะรับผิดชอบเรื่องน้ำมันเติมประทีป เครื่องหอม ธัญบูชาประจำวัน และน้ำมันเจิม เขามีหน้าที่ตรวจตราดูแลพลับพลาและของทั้งหมดในพลับพลา รวมทั้งเครื่องใช้และเครื่องตกแต่งอันบริสุทธิ์ของพลับพลา”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “อย่าปล่อยให้บรรดาคนตระกูลโคฮาทถูกตัดขาดจากเผ่าเลวี เพื่อป้องกันไม่ให้เขาต้องตายเมื่อเข้ามาใกล้สิ่งบริสุทธิ์ เจ้าจงทำดังนี้คือ อาโรนกับบรรดาบุตรชายจะเข้ามาในสถานนมัสการ คอยกำกับว่าให้แต่ละคนทำอะไรและต้องแบกหามสิ่งใดบ้าง แต่คนโคฮาทจะต้องไม่เข้าไปมองสิ่งบริสุทธิ์แม้ชั่วอึดใจ มิฉะนั้นจะต้องตาย”

คนเกอร์โชน

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงขึ้นทะเบียนคนเกอร์โชนตามครอบครัวและตามตระกูลของเขา จงนับชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบถึงห้าสิบปี ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ

“นี่คือหน้าที่ของคนตระกูลเกอร์โชนในการทำงานและขนสัมภาระ พวกเขาจะต้องขนม่านพลับพลา เต็นท์นัดพบ เครื่องคลุมต่างๆ และเครื่องคลุมชั้นนอกที่ทำจากหนังพะยูน ม่านตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ ม่านกั้นลานพลับพลาและแท่นบูชา ม่านสำหรับทางเข้า เชือก และอุปกรณ์อื่นๆ คนเกอร์โชนจะต้องรับผิดชอบงานที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด อาโรนและบุตรชายต้องกำกับดูแล และมอบหมายงานทุกอย่างไม่ว่าในงานแบกหามหรือ งานอื่นๆ ให้คนเกอร์โชน นี่คืองานของตระกูลเกอร์โชนที่เต็นท์นัดพบ โดยมีปุโรหิตอิธามาร์บุตรชายของอาโรนคอยกำกับดูแล

คนเมรารี

“จงนับคนเมรารีตามตระกูลและตามครอบครัวของเขา จงนับชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปี ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ นี่เป็นหน้าที่ที่เขาจะต้องทำที่เต็นท์นัดพบคือ ขนไม้ฝาของพลับพลา คานขวาง เสา ฐานรองรับ เสาของลานพลับพลาพร้อมทั้งฐานรองรับ หลักหมุด เชือก เครื่องใช้ และเครื่องประกอบอื่นๆ ทั้งหมด จงมอบหน้าที่แบกหามอย่างเจาะจงให้แต่ละคน นี่คืองานรับใช้ของตระกูลเมรารีที่เต็นท์นัดพบ โดยมีปุโรหิตอิธามาร์บุตรชายของอาโรนคอยกำกับดูแล”

การนับจำนวนคนในตระกูลเลวี

โมเสส อาโรนและบรรดาผู้นำชุมชนได้นับคนโคฮาทตามตระกูลและตามครอบครัวต่างๆ ของเขา ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปี ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ นับตามตระกูลได้ 2,750 คน นี่คือยอดรวมจำนวนตระกูลโคฮาทซึ่งรับใช้ในเต็นท์นัดพบ โมเสสกับอาโรนได้นับจำนวนพวกเขาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาผ่านทางโมเสส

เขาได้นับคนเกอร์โชนตามตระกูลและตามครอบครัวของเขา ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปีซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ นับตามตระกูลและตามครอบครัวได้ 2,630 คน นี่คือยอดรวมจำนวนคนตระกูลเกอร์โชนซึ่งรับใช้ที่เต็นท์นัดพบ โมเสสกับอาโรนนับจำนวนพวกเขาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

เขาได้นับคนเมรารีตามตระกูลและตามครอบครัวของเขา ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปี ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้ในเต็นท์นัดพบ นับตามตระกูลของพวกเขาได้ 3,200 คน นี่คือยอดรวมจำนวนคนตระกูลเมรารี โมเสสกับอาโรนนับจำนวนพวกเขาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาผ่านทางโมเสส

ดังนั้นโมเสส อาโรน และบรรดาผู้นำของอิสราเอลได้นับจำนวนคนเลวีทั้งหมดตามตระกูลและตามครอบครัวของพวกเขา ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สามสิบปีถึงห้าสิบปีซึ่งมีคุณสมบัติที่จะมารับใช้และขนย้ายเต็นท์นัดพบ รวมทั้งสิ้น 8,580 คน แต่ละคนได้รับมอบหมายหน้าที่และรายการสิ่งที่ต้องขนย้ายตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าผ่านทางโมเสส

ดังนั้นพวกเขาจึงนับจำนวนคนเลวีตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาโมเสสไว้

Read More of กันดารวิถี 4

กันดารวิถี 5:1-10

ความบริสุทธิ์ของค่าย

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงสั่งประชากรอิสราเอลให้ส่งคนที่เป็นโรคผิวหนัง5:2 โดยปกติแปลว่า โรคเรื้อน แต่คำภาษาฮีบรูอาจหมายถึงโรคผิวหนังชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงโรคเรื้อนเท่านั้นผู้มีสิ่งที่หลั่งออกหรือผู้ที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีเพราะไปแตะต้องซากศพ ออกไปจากค่าย ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จงส่งคนเหล่านี้ออกไปนอกค่าย เพื่อไม่ให้เป็นมลทินแก่ค่ายพักซึ่งเราอยู่ท่ามกลางพวกเขา” ชาวอิสราเอลก็ปฏิบัติตามโดยส่งคนเหล่านั้นออกไปนอกค่ายตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

การชดใช้เมื่อทำผิด

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘เมื่อหญิงหรือชายใดทำผิดต่อคนอื่นอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้นั้นย่อมมีความผิดเพราะไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะต้องสารภาพบาปและชดใช้เต็มจำนวนตามความเสียหาย และชดใช้เพิ่มอีกหนึ่งในห้าให้แก่ผู้เสียหาย แต่หากผู้เสียหายไม่มีญาติสนิทที่จะรับแทน ค่าชดใช้นั้นเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าและต้องนำไปมอบแก่ปุโรหิตพร้อมด้วยแกะตัวผู้สำหรับขออภัยโทษบาปให้เขา ของถวายอันบริสุทธิ์ทั้งหมดที่ประชากรอิสราเอลนำมามอบแก่ปุโรหิตถือเป็นของปุโรหิต ของถวายอันบริสุทธิ์ของแต่ละคนเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาเอง แต่สิ่งที่ยกให้ปุโรหิตจะเป็นของปุโรหิต’ ”

Read More of กันดารวิถี 5