มัทธิว 8:23-34, มัทธิว 9:1-13 TNCV

มัทธิว 8:23-34

พระเยซูทรงห้ามพายุ

(มก.4:36-41; ลก.8:22-25)

แล้วพระองค์เสด็จลงเรือและเหล่าสาวกของพระองค์ตามพระองค์ไป ทันใดนั้นเกิดพายุร้ายกลางทะเลสาบ คลื่นซัดท่วมเรือ แต่พระเยซูบรรทมอยู่ เหล่าสาวกมาปลุกพระองค์พร้อมทั้งทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า ช่วยเราด้วย! เรากำลังจะจมน้ำตายอยู่แล้ว!”

พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่านผู้มีความเชื่อน้อย เหตุใดจึงตื่นตกใจถึงเพียงนี้?” แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้นห้ามลมและคลื่น มันก็สงบราบเรียบ

เหล่าสาวกประหลาดใจและพูดกันว่า “พระองค์ทรงเป็นใครกันหนอ? แม้แต่ลมและคลื่นก็ยังเชื่อฟังพระองค์!”

การรักษาคนถูกผีสิงสองคน

(มก.5:1-17; ลก.8:26-37)

เมื่อข้ามฟากมาถึงแดนกาดารา8:28 หรือเกราซาชายสองคนซึ่งมีผีสิงออกจากอุโมงค์ฝังศพมาหาพระองค์ ทั้งสองดุร้ายมากจนไม่มีใครกล้าผ่านเข้าไปแถวนั้น ชายทั้งสองตะโกนว่า “พระบุตรของพระเจ้าพระองค์ต้องการอะไรจากเราหรือ? ทรงมาที่นี่เพื่อทรมานเราก่อนถึงกำหนดเวลาหรือ?”

ไม่ไกลจากที่นั่นมีสุกรฝูงใหญ่หากินอยู่ ผีนั้นจึงทูลอ้อนวอนพระเยซูว่า “ถ้าจะทรงขับพวกเราออก ขอให้เราไปสิงในสุกรฝูงนั้นเถิด”

พระองค์ตรัสสั่งพวกมันว่า “ไป!” ผีนั้นจึงเข้าไปสิงในสุกร สุกรทั้งฝูงก็กระโจนจากหน้าผาลงทะเลสาบจมน้ำตายหมด บรรดาคนเลี้ยงสุกรวิ่งเข้าไปในเมืองเล่าเรื่องทั้งหมดรวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดกับคนที่มีผีสิงทั้งสองคนนั้น แล้วคนทั้งเมืองออกมาหาพระเยซูและเมื่อพวกเขาพบพระองค์ก็ทูลขอร้องให้ทรงออกจากเขตแดนของเขา

Read More of มัทธิว 8

มัทธิว 9:1-13

พระเยซูทรงรักษาคนเป็นอัมพาต

(มก.2:3-12; ลก.5:18-26)

พระเยซูจึงเสด็จลงเรือข้ามฟากไปยังเมืองของพระองค์ มีผู้หามคนเป็นอัมพาตซึ่งนอนอยู่บนที่นอนมาหาพระเยซู เมื่อทรงเห็นความเชื่อของพวกเขาก็ตรัสกับคนเป็นอัมพาตนั้นว่า “ลูกเอ๋ยจงชื่นใจเถิด บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว”

พวกธรรมาจารย์บางคนได้ยินเช่นนั้นก็คิดในใจว่า “ชายคนนี้กำลังพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า!”

พระเยซูทรงทราบความคิดของเขาจึงตรัสว่า “เหตุใดพวกท่านจึงคิดชั่วอยู่ในใจ? ที่จะพูดว่า ‘บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว’ กับ ‘จงลุกขึ้นเดินไป’ อย่างไหนจะง่ายกว่ากัน? แต่ทั้งนี้ก็เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าบุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะอภัยบาป” แล้วพระองค์ตรัสกับคนเป็นอัมพาตว่า “จงลุกขึ้นแบกที่นอนกลับไปบ้านเถิด” และชายคนนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปบ้าน เมื่อฝูงชนเห็นดังนี้ก็ยำเกรงและสรรเสริญพระเจ้าผู้ประทานสิทธิอำนาจเช่นนี้แก่มนุษย์

ทรงเรียกมัทธิว

(มก.2:14-17; ลก.5:27-32)

เมื่อพระเยซูเสด็จจากที่นั่น พระองค์ทรงเห็นชายคนหนึ่งชื่อ มัทธิวนั่งอยู่ที่ด่านเก็บภาษี จึงตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามา” มัทธิวก็ลุกขึ้นติดตามพระองค์ไป

ขณะพระเยซูเสวยพระกระยาหารที่บ้านของมัทธิว คนเก็บภาษีและ “คนบาป” หลายคนมาร่วมรับประทานกับพระองค์และเหล่าสาวก เมื่อพวกฟาริสีเห็นเช่นนั้นก็ถามสาวกของพระองค์ว่า “ทำไมอาจารย์ของท่านจึงรับประทานอาหารร่วมกับคนเก็บภาษีและ ‘คนบาป’?”

เมื่อพระเยซูทรงได้ยินเช่นนี้จึงตรัสว่า “คนสุขภาพดีไม่ต้องการหมอ แต่คนป่วยต้องการ จงไปศึกษาให้เข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา’9:13 ฮชย. 6:6 เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป”

Read More of มัทธิว 9