เยเรมีย์ 7:30-34
หุบเขาแห่งการประหัตประหาร
“ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ชนยูดาห์ทำชั่วในสายตาของเรา พวกเขาได้ตั้งเทวรูปอันน่าชิงชังในนิเวศซึ่งใช้ชื่อของเรา และทำให้ที่นั่นเป็นมลทิน พวกเขาได้สร้างสถานบูชาบนที่สูงต่างๆ ของโทเฟทขึ้นในหุบเขาเบนฮินโนม เพื่อเผาลูกชายลูกสาวของตนเป็นเครื่องบูชายัญ นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยสั่ง ไม่เคยเข้ามาในความคิดของเราเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ดังนั้นจงระวัง เพราะจะถึงเวลาที่ผู้คนจะไม่เรียกหุบเขาแห่งนั้นว่าโทเฟทหรือหุบเขาเบนฮินโนมอีกต่อไป แต่เรียกว่า “หุบเขาแห่งการเข่นฆ่า” เพราะพวกเขาจะฝังคนตายในโทเฟทจนไม่มีที่เหลืออีก แล้วซากศพของชนชาตินี้จะเป็นอาหารของนกในอากาศและสัตว์ต่างๆ บนพื้นดิน และไม่มีใครมาไล่พวกมันไป เราจะหยุดเสียงรื่นเริงบันเทิงใจ เสียงสุขหรรษาของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในเมืองทั้งหลายของยูดาห์ และตามถนนหนทางในเยรูซาเล็ม เพราะดินแดนแห่งนี้จะกลายเป็นที่ร้าง
เยเรมีย์ 8:1-22
“‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่าเมื่อถึงเวลานั้นกระดูกของบรรดากษัตริย์และขุนนางของยูดาห์ กระดูกของเหล่าปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ และกระดูกของชาวเยรูซาเล็มจะถูกขุดออกมาจากหลุมฝังศพ และถูกทิ้งกระจัดกระจายไว้กลางแจ้งภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และมวลหมู่ดาวแห่งฟ้าสวรรค์ซึ่งพวกเขารักและปรนนิบัติ ติดตามขอคำปรึกษาและนมัสการ กระดูกของพวกเขาจะไม่ถูกเก็บรวบรวมขึ้นมาอีกหรือถูกฝังไว้ แต่จะเป็นเหมือนขยะที่ทิ้งไว้บนพื้น และบรรดาผู้ที่ยังเหลือรอดอยู่ในหมู่ประชาชาติชั่วร้ายนี้ จะเรียกหาความตายมากกว่ามีชีวิตอยู่ในที่ซึ่งเราจะเนรเทศพวกเขาไปนั้น พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนี้’
บาปและโทษทัณฑ์
“จงไปบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“ ‘เมื่อคนล้มลง เขาจะไม่ลุกขึ้นหรือ?
เมื่อเขาไปผิดทาง เขาจะไม่ย้อนกลับมาหรือ?
แล้วทำไมประชากรเหล่านี้หันไปทางอื่น?
เหตุใดเยรูซาเล็มจึงหันไปทางอื่นเสมอ?
พวกเขายึดติดกับความหลอกลวง
พวกเขาไม่ยอมหันกลับมา
เราตั้งใจฟัง
แต่พวกเขาไม่ได้พูดสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่มีใครกลับตัวกลับใจจากความชั่วร้ายของตน
และกล่าวว่า “ข้าได้ทำอะไรลงไป?”
แต่ละคนไปตามทางของตนเอง
เหมือนม้าทะยานออกศึก
แม้แต่นกกระสาในท้องฟ้า
ยังรู้กำหนดฤดูกาล
เช่นเดียวกับนกพิราบ นกกระเรียน และนกนางแอ่น
ยังรู้จักสังเกตว่าได้เวลาอพยพ
แต่ประชากรของเรา
ไม่รู้ข้อกำหนดต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
“ ‘เจ้าพูดออกมาได้อย่างไรว่า “เราเฉลียวฉลาด
เพราะเรามีบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ในเมื่อปากกามุสาของเหล่าอาลักษณ์
ได้บิดเบือนบทบัญญัตินั้น?
คนฉลาดเหล่านั้นจะต้องอับอายขายหน้า
พวกเขาจะหวาดกลัวท้อแท้และติดกับ
เนื่องจากได้ละทิ้งพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เขามีสติปัญญาประเภทไหนกัน?
ฉะนั้นเราจะยกภรรยาของพวกเขาให้ชายอื่น
และยกที่นาของพวกเขาให้เจ้าของคนใหม่
ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด
ล้วนโลภมุ่งกำไร
พวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตก็ไม่ต่างกัน
ล้วนโกหกหลอกลวง
พวกเขาทำแผลให้ประชากรของเรา
ราวกับว่าไม่สาหัสรุนแรงเท่าไร
พวกเขากล่าวว่า “สันติสุข สันติสุข”
ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุข
พวกเขาละอายใจในความประพฤติอันน่าขยะแขยงของตนบ้างหรือเปล่า?
เปล่าเลย พวกเขาไม่ละอายสักนิด
ไม่รู้เลยว่าการมียางอายนั้นเป็นอย่างไร
ฉะนั้นพวกเขาจะล้มลงในหมู่ผู้ที่ล้มลง
เขาจะตกต่ำลงเมื่อเราลงโทษเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
“ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
เราจะริบผลิตผลของเขาไป
จะไม่มีผลองุ่นติดอยู่บนเถา
ไม่มีมะเดื่อบนต้น
ใบของมันจะเหี่ยวเฉาไป
อะไรที่เราให้พวกเขาไว้
จะถูกยึดไป8:13 ในภาษาฮีบรูประโยคนี้มีความหมายไม่ชัดเจน’ ”
“เราจะมานั่งรอความตายอยู่ที่นี่ทำไม?
มาเถิด ไปด้วยกัน!
ให้เราหนีไปยังหัวเมืองป้อมปราการต่างๆ
ไปตายเสียที่นั่น!
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้กำหนดให้เราพินาศย่อยยับแล้ว
และทรงยื่นถ้วยยาพิษให้เราดื่ม
เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
เรามุ่งหวังสันติสุข
แต่มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
เรามุ่งหวังเวลาแห่งการเยียวยารักษา
ก็มีแต่เพียงความสยดสยอง
เสียงหายใจฟืดฟาดของม้าฝ่ายศัตรู
ได้ยินมาจากเมืองดาน
ทั่วทั้งดินแดนสั่นสะท้าน
ด้วยเสียงม้าศึก
ศัตรูกำลังมาเขมือบ
ทั้งดินแดนนี้และทุกสิ่งที่นี่
ไม่ว่านครหรือผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น”
“ดูเถิด เราจะส่งงูพิษมาในหมู่พวกเจ้า
งูพิษซึ่งไม่มีใครสะกดได้
จะมาฉกเจ้า”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
โอ ข้าแต่องค์ผู้ทรงปลอบโยน8:18 ในภาษาฮีบรูคำนี้มีความหมายไม่ชัดเจนข้าพเจ้าในยามโศกเศร้า
ดวงใจของข้าพเจ้าอ่อนระโหยอยู่ภายในข้าพเจ้า
ฟังเสียงร่ำไห้ของพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า
จากแดนไกลโพ้นเถิด
พวกเขาถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในศิโยนหรือ?
องค์กษัตริย์แห่งศิโยนไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วหรือ?”
“ทำไมหนอพวกเขาจึงยั่วโทสะเราด้วยรูปเคารพ
และด้วยเหล่าเทวรูปต่างชาติอันไร้ค่า?”
“ฤดูเก็บเกี่ยวผ่านพ้นไป
ฤดูร้อนก็หมดไป
และยังไม่มีใครช่วยเราให้รอด”
เพราะว่าพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าถูกบดขยี้ ดวงใจของข้าพเจ้าจึงแหลกสลาย
ข้าพเจ้าคร่ำครวญอาดูรและความสยดสยองเกาะกุมข้าพเจ้า
ในกิเลอาดไม่มียาหรือ?
ที่นั่นไม่มีแพทย์เลยหรือ?
ทำไมจึงไม่มีการเยียวยาบาดแผล
ของพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าให้หาย?
เยเรมีย์ 9:1-16
โอ ถ้าศีรษะของข้าพเจ้าเป็นเหมือนแหล่งน้ำ
และตาของข้าพเจ้าเป็นเหมือนบ่อน้ำพุแห่งน้ำตา!
ข้าพเจ้าจะได้ร่ำไห้ทั้งวันทั้งคืน
เพื่อพี่น้องร่วมชาติซึ่งถูกสังหาร
โอ ข้าพเจ้าอยากมีที่พักแรม
สำหรับคนเดินทางในถิ่นกันดารนัก
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไปให้พ้น
จากพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า
เพราะพวกเขาล้วนเป็นคนล่วงประเวณี
เป็นฝูงชนที่ไม่ซื่อสัตย์
“พวกเขาโก่งลิ้นเหมือนคันศร
เพื่อยิงคำโกหกออกมา
ความเท็จจึงมีชัย
เหนือความจริง9:3 หรือพวกเขาไม่ได้ยืนหยัดอย่างกล้าหาญเพื่อความจริงในแผ่นดิน
พวกเขาทำบาปอย่างหนึ่ง
แล้วก็แล่นไปสู่บาปอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาไม่ยอมรับเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“จงระวังเพื่อนของเจ้า
และอย่าไว้ใจพี่น้องของเจ้า
เพราะว่าพี่น้องทุกคนเป็นคนหลอกลวง9:4 หรือเป็นยาโคบผู้หลอกลวง
และเพื่อนทุกคนเป็นนักใส่ร้ายป้ายสี
เพื่อนหลอกลวงเพื่อน
และไม่มีใครพูดความจริง
พวกเขาฝึกลิ้นตัวเองให้โกหก
ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าด้วยการทำบาป
เจ้า9:6 คือ เยเรมีย์ (ในภาษาฮีบรูคำนี้เป็นคำเอกพจน์)อาศัยอยู่ท่ามกลางการหลอกลวง
เพราะความหลอกลวงของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ยอมรับเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะถลุงและทดสอบพวกเขา
เพราะนอกจากนี้เราจะทำสิ่งอื่นใดได้อีก
เนื่องจากบาปที่ประชากรของเราได้ทำ?
ลิ้นของพวกเขาเป็นลูกศรคร่าชีวิต
พูดจาตลบตะแลง
ทุกคนพูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านของเขา
แต่ในใจคิดวางแผนเล่นงานเขา
ไม่ควรหรือที่เราจะลงโทษพวกเขาเพราะเหตุนี้?”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“ไม่ควรหรือที่เราจะแก้แค้น
ชนชาติที่เป็นเช่นนี้?”
ข้าพเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญเพื่อภูเขาทั้งหลาย
และเปล่งคำคร่ำครวญเรื่องทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ถูกทิ้งร้าง
มันถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสัญจรไปมา
ไม่ได้ยินเสียงสัตว์ร้อง
ทั้งนกในอากาศและสัตว์ทั้งปวง
ก็หนีไปหมด
“เราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง
เป็นถิ่นที่อยู่ของหมาใน
และเราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่รกร้าง
เพื่อจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น”
ใครหนอฉลาดพอที่จะเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้? ใครบ้างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนและอธิบายได้? เหตุใดดินแดนจึงถูกทำให้ย่อยยับและถูกทิ้งร้างเหมือนถิ่นกันดารที่ไม่มีใครผ่านไปมา?
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ก็เพราะพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ซึ่งเราตั้งไว้ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาไม่ได้เชื่อฟังเรา หรือทำตามบทบัญญัติของเรา พวกเขากลับทำตามใจดื้อดึงของตน เขานมัสการพระบาอัลตามที่บรรพบุรุษสอน” ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “ดูเถิดเราจะทำให้ชนชาตินี้กินอาหารขมและดื่มน้ำซึ่งมีพิษ เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ ซึ่งพวกเขาเองหรือบรรพบุรุษไม่เคยรู้จักมาก่อน เราจะถือดาบไล่ล่าพวกเขาจนกว่าเราจะได้ทำลายล้างพวกเขาให้สิ้น”