เยเรมีย์ 40:7-16, เยเรมีย์ 41:1-18, เยเรมีย์ 42:1-22 TNCV

เยเรมีย์ 40:7-16

เกดาลิยาห์ถูกฆ่า

(2พกษ.25:22-26)

เมื่อบรรดาแม่ทัพนายกองและคนของเขาซึ่งยังคงอยู่ในทุ่งโล่งได้ยินข่าวว่ากษัตริย์บาบิโลนทรงแต่งตั้งเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมให้เป็นผู้ว่าการปกครองผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ซึ่งเป็นคนยากจนข้นแค้นที่สุดในดินแดนและไม่ถูกนำตัวไปเป็นเชลยที่บาบิโลน พวกเขาก็พากันมาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ คนเหล่านี้ได้แก่อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ โยฮานัน และโยนาธานบุตรคาเรอาห์ เสไรอาห์บุตรทันหุเมท บุตรทั้งหลายของเอฟายจากเนโทฟาห์ และยาอาซันยาห์40:8 ภาษาฮีบรูว่าเยซันยาห์เป็นอีกรูปหนึ่งของยาอาซันยาห์บุตรชาวมาอาคาห์กับคนของเขา เกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟานกล่าวสาบานกับคนเหล่านั้นว่า “อย่ากลัวที่จะปรนนิบัติรับใช้ชาวบาบิโลน40:9 หรือชาวเคลเดียเช่นเดียวกับข้อ 10เลย จงตั้งรกรากในแผ่นดินและรับใช้กษัตริย์บาบิโลน แล้วท่านจะอยู่เย็นเป็นสุข ข้าพเจ้าเองจะอยู่ที่มิสปาห์ เป็นตัวแทนให้พวกท่านติดต่อกับชาวบาบิโลนซึ่งจะมาหาเรา ส่วนพวกท่านจงเก็บองุ่น ผลไม้ฤดูร้อน และน้ำมัน สะสมไว้และอาศัยอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ซึ่งพวกท่านยึดครองเถิด”

เมื่อชาวยิวทั้งปวงในโมอับ อัมโมน เอโดมและประเทศอื่นๆ ทั้งปวงได้ข่าวว่ากษัตริย์บาบิโลนทรงเหลือคนจำนวนหนึ่งไว้ในยูดาห์ และแต่งตั้งเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟานเป็นผู้ว่าการปกครองพวกเขา พวกเขาทั้งหมดได้กลับจากทุกประเทศที่พวกเขากระจัดกระจายไปมายังดินแดนยูดาห์ มาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ แล้วพวกเขาก็เก็บเกี่ยวองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนได้มากมาย

โยฮานันบุตรคาเรอาห์และบรรดาแม่ทัพนายกองซึ่งยังอยู่ตามทุ่งโล่งมาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ และเตือนว่า “ท่านไม่รู้หรือว่ากษัตริย์บาอาลิสของชาวอัมโมนได้ส่งอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์มาเอาชีวิตของท่าน?” แต่เกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมไม่เชื่อเขา

แล้วโยฮานันบุตรคาเรอาห์กล่าวกับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์เป็นการส่วนตัวว่า “ข้าพเจ้ารับอาสาไปฆ่าอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์โดยไม่ให้ใครรู้ เรื่องอะไรจะปล่อยให้เขามาเอาชีวิตท่าน และเป็นเหตุให้ชาวยิวทั้งปวงที่อยู่รอบตัวท่านต้องกระจัดกระจายไป และคนยูดาห์ที่เหลืออยู่ต้องพินาศ?”

แต่เกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมกล่าวแก่โยฮานันบุตรคาเรอาห์ว่า “อย่าทำเช่นนั้น! สิ่งที่ท่านพูดเกี่ยวกับอิชมาเอลไม่เป็นความจริง”

Read More of เยเรมีย์ 40

เยเรมีย์ 41:1-18

ในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์บุตรของเอลิชามา ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งและเคยเป็นขุนนางมาก่อน กับคนอีกสิบคนมาพบเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมที่มิสปาห์ ขณะที่กำลังรับประทานอาหารด้วยกัน อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์และคนทั้งสิบที่อยู่กับเขาก็ลุกขึ้นชักดาบออกมาฆ่าเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมบุตรชาฟานซึ่งกษัตริย์บาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการ อิชมาเอลยังได้ฆ่าชาวยิวทั้งปวงที่อยู่กับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ และทหารบาบิโลน41:3 หรือทหารชาวเคลเดียซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เกดาลิยาห์ถูกฆ่าและยังไม่มีใครทราบเรื่อง ก็มีชายแปดสิบคนจากเชเคม ชิโลห์ และสะมาเรีย โกนหนวดเครา ฉีกเสื้อผ้า และกรีดเนื้อตัวเอง นำธัญบูชาและเครื่องหอมมายังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ออกจากเมืองมิสปาห์ไปพบพวกเขา เดินพลางร้องไห้พลางและเมื่อเขาพบคนเหล่านั้นก็กล่าวว่า “เชิญมาพบเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมเถิด” เมื่อคนเหล่านั้นเข้ามาในเมืองแล้วอิชมาเอลกับพวกก็ฆ่าพวกเขาและโยนศพลงในที่ขังน้ำ แต่มีสิบคนในพวกนั้นกล่าวกับอิชมาเอลว่า “อย่าฆ่าเราเลย เรามีข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ น้ำมัน และน้ำผึ้งซ่อนไว้ในทุ่งนา” อิชมาเอลจึงปล่อยเขาไป ไม่ฆ่าทิ้งเหมือนคนอื่นๆ ที่ขังน้ำซึ่งอิชมาเอลโยนศพคนที่เขาสังหารพร้อมกับเกดาลิยาห์นั้น เป็นที่ซึ่งกษัตริย์อาสาสร้างขึ้นเป็นปราการส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันการโจมตีของกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้โยนศพลงไปจนเต็มที่ขังน้ำนั้น

บรรดาธิดาของกษัตริย์พร้อมทั้งประชาชนอื่นๆ ซึ่งเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ให้อยู่ภายใต้การปกครองของเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมที่เมืองมิสปาห์ ถูกอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์จับเป็นเชลย คุมตัวมุ่งหน้าจะไปยังดินแดนของชาวอัมโมน

เมื่อโยฮานันบุตรคาเรอาห์และแม่ทัพนายกองทั้งปวงที่อยู่ด้วยได้ยินข่าวอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ก่อการร้าย ก็นำกำลังคนทั้งหมดไปสู้รบกับอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ พวกเขาตามมาทันอิชมาเอลที่สระน้ำใหญ่ในกิเบโอน เมื่อประชาชนทั้งปวงที่อิชมาเอลพามาเห็นโยฮานันบุตรคาเรอาห์และแม่ทัพนายกองที่อยู่กับเขา พวกเขาก็ยินดี คนทั้งปวงที่อิชมาเอลจับเป็นเชลยที่มิสปาห์ได้หันไปหาโยฮานันบุตรคาเรอาห์ แต่อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์และคนของเขาอีกแปดคนหลบหนีจากโยฮานันไปหาชาวอัมโมนได้

หนีไปยังอียิปต์

แล้วโยฮานันบุตรคาเรอาห์และเหล่าแม่ทัพนายกองก็นำบรรดาคนเหลือรอดจากมิสปาห์ ซึ่งพวกตนกอบกู้มาจากมืออิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ผู้สังหารเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมกลับมาจากกิเบโอน ผู้ที่เหลือรอดนั้นมีทั้งทหาร ผู้หญิง เด็ก และข้าราชสำนัก พวกเขาเดินทางต่อไป และแวะพักที่เกรูธคิมฮัมใกล้เบธเลเฮมบนเส้นทางที่จะไปยังอียิปต์ เพื่อหลบหนีจากชาวบาบิโลน41:18 หรือชาวเคลเดียซึ่งพวกเขากลัว เพราะอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้สังหารเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัมซึ่งกษัตริย์บาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการปกครองดินแดน

Read More of เยเรมีย์ 41

เยเรมีย์ 42:1-22

แล้วบรรดาแม่ทัพนายกองรวมทั้งโยฮานันบุตรคาเรอาห์ เยซันยาห์42:1 ฉบับ LXX. ว่าอาซาริยาห์(ดู 43:2)บุตรโฮชายาห์ และประชากรทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยพากันมาหาผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว โปรดอธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกเราด้วยว่าควรไปที่ไหนและควรทำอะไร”

ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ท่านขอร้องอย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะบอกท่านทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส จะไม่ปิดบังสิ่งใดจากพวกท่านเลย”

แล้วพวกเขากล่าวกับเยเรมีย์ว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานที่ซื่อตรงเที่ยงแท้ลงโทษเราเถิด หากเราไม่ยอมประพฤติตามทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้ท่านมาบอกเรา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราผู้ซึ่งเราขอให้ท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อจะเป็นประโยชน์สุขแก่เราเพราะเราจะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา”

สิบวันหลังจากนั้น มีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ ดังนั้นเขาจึงเรียกโยฮานันบุตรคาเรอาห์ บรรดาแม่ทัพนายกอง และประชาชนทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยมาชุมนุมกัน แล้วเขากล่าวแก่คนทั้งหลายว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งพวกท่านใช้ให้ข้าพเจ้าไปทูลอ้อนวอนนั้นตรัสว่า ‘หากพวกเจ้าคงอยู่ในดินแดนนี้ เราจะสร้างเจ้าขึ้นไม่ใช่รื้อลง จะปลูกเจ้าไว้ ไม่ใช่ถอนราก เพราะเราเศร้าใจกับภัยพิบัติซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่เจ้า อย่ากลัวกษัตริย์บาบิโลนที่พวกเจ้ากลัวอยู่ในขณะนี้ อย่ากลัวเขาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ อย่ากลัวเขาเลยเพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะช่วยเจ้าและกอบกู้เจ้าจากมือของเขา เราจะสำแดงความเมตตาแก่เจ้า เพื่อเขาจะเอ็นดูสงสารเจ้าและให้เจ้ากลับคืนสู่ดินแดนของเจ้า’

“แต่หากพวกท่านกล่าวว่า ‘เราจะไม่ยอมอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้’ ซึ่งเป็นการไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และถ้าท่านกล่าวว่า ‘เราจะไปอาศัยอยู่ในอียิปต์ จะได้ไม่ต้องเห็นสงคราม หรือได้ยินเสียงแตรศึก หรือหิวโหย’ ก็จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ชนหยิบมือที่เหลือแห่งยูดาห์เอ๋ย พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘หากพวกเจ้าตั้งใจไปอียิปต์และตั้งรกรากอยู่ที่นั่น เมื่อนั้นสงครามและการกันดารอาหารที่เจ้ากลัวจะตามติดประชิดเจ้าไปถึงอียิปต์ และเจ้าจะตายที่นั่น คนทั้งปวงที่ตั้งใจไปตั้งรกรากที่อียิปต์จะตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด จะไม่มีสักคนที่รอดพ้นภัยพิบัติซึ่งเราจะนำมายังพวกเขา’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เช่นเดียวกับที่ความโกรธและโทสะของเราโหมกระหน่ำลงเหนือประชากรเยรูซาเล็ม เราก็จะระบายความโกรธลงเหนือเจ้าเมื่อเจ้าไปยังอียิปต์ เจ้าจะตกเป็นเป้าของการแช่งด่าและความสยดสยอง เป้าของคำสาปแช่งและตำหนิติเตียน เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นสถานที่นี้อีก’

“ชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์เอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งพวกท่านแล้วว่า ‘อย่าไปที่อียิปต์’ จงมั่นใจในข้อนี้ คือข้าพเจ้าขอเตือนท่านในวันนี้ ท่านทำผิดอย่างร้ายแรงถึงตาย42:20 หรือเจ้าทำผิดอยู่ในใจเมื่อให้ข้าพเจ้าไปหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและกล่าวว่า ‘จงอธิษฐานเผื่อเราต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา จงบอกทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส แล้วเราจะทำตาม’ ในวันนี้ข้าพเจ้าก็ได้แจ้งท่านแล้ว แต่ท่านกลับไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ไม่ทำตามทุกสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาแจ้งท่าน ฉะนั้นขอให้มั่นใจได้เลยว่าท่านจะตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาดในสถานที่ซึ่งท่านตั้งใจจะไปตั้งรกรากอยู่”

Read More of เยเรมีย์ 42