เยเรมีย์ 27:1-22, เยเรมีย์ 28:1-17, เยเรมีย์ 29:1-23 TNCV

เยเรมีย์ 27:1-22

ยูดาห์จะปรนนิบัติเนบูคัดเนสซาร์

ในต้นรัชกาลเศเดคียาห์27:1 สำเนาต้นฉบับภาษาฮีบรูส่วนใหญ่ว่าเยโฮยาคิม(ดู 27:3,12 และ 18:1)โอรสกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ความว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงทำแอกจากไม้พร้อมสายรัดแล้วคล้องคอเจ้าไว้ และฝากข้อความไปถึงกษัตริย์เอโดม โมอับ อัมโมน ไทระ และไซดอนผ่านทางบรรดาทูตซึ่งมาเฝ้ากษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ที่เยรูซาเล็ม ให้ไปทูลเจ้านายของตนว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “จงไปบอกนายของเจ้าว่า เราได้สร้างโลก มนุษย์ และสัตว์ต่างๆ ในโลกนี้ โดยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และมือที่เงื้ออยู่ และเรายกสิ่งเหล่านี้แก่ใครก็ได้ที่เราพอใจ บัดนี้เราจะมอบแผ่นดินทั้งปวงของพวกเจ้าให้แก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรา แม้แต่สัตว์ป่าเราก็จะทำให้ยอมสยบต่อเขา ประชาชาติทั้งปวงจะรับใช้เขาและลูกหลานของเขาจนกว่าจะหมดเวลาของเขา จากนั้นประชาชาติต่างๆ และเหล่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะพิชิตบาบิโลน

“ ‘ “แต่หากชนชาติใดหรืออาณาจักรใดไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน หรือไม่ยอมอยู่ใต้แอกของเขา เราจะลงโทษชนชาตินั้นด้วยสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด จนกว่าเราจะทำลายชาตินั้นให้สิ้นไปด้วยมือเนบูคัดเนสซาร์ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น เพราะฉะนั้นอย่าไปฟังผู้พยากรณ์ หมอดู ผู้ทำนายฝัน คนทรง และหมอผีของพวกเจ้า ผู้ที่บอกว่า ‘เจ้าจะไม่ต้องเป็นข้ารับใช้กษัตริย์บาบิโลน’ พวกเขาพยากรณ์เท็จให้เจ้าฟัง ซึ่งมีแต่จะทำให้เจ้าพลัดพรากจากดินแดนของเจ้า เราจะเนรเทศเจ้าไปและเจ้าจะพินาศ แต่ถ้าชาติใดยอมค้อมคออยู่ใต้แอกของกษัตริย์บาบิโลนและปรนนิบัติรับใช้เขา เราจะอนุญาตให้ชาตินั้นคงอยู่ในดินแดนของตน ทำไร่ไถนาอาศัยอยู่ต่อไป องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น” ’ ”

ข้าพเจ้าได้แจ้งข้อความเดียวกันแก่กษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์คือ “จงค้อมคออยู่ใต้แอกของกษัตริย์บาบิโลน ปรนนิบัติรับใช้เขากับราษฎรของเขา แล้วท่านจะมีชีวิตรอด ทำไมท่านกับเหล่าประชากรจะต้องตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ว่าจะตกอยู่แก่ชนชาติใดก็ตามที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์บาบิโลนเล่า? อย่าไปฟังบรรดาผู้พยากรณ์ที่บอกกับท่านว่า ‘พวกเจ้าจะไม่ต้องรับใช้กษัตริย์บาบิโลน’ เพราะพวกเขาพยากรณ์เท็จให้เจ้าฟัง องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘เราไม่ได้ส่งพวกเขามา เขาพยากรณ์เท็จให้เจ้าฟังโดยอ้างนามของเรา ฉะนั้นเราจะเนรเทศเจ้าไปและเจ้าจะพินาศ ทั้งเจ้าและบรรดาผู้เผยพระวจนะซึ่งพยากรณ์ให้เจ้าฟัง’ ”

แล้วข้าพเจ้ากล่าวแก่บรรดาปุโรหิตและประชากรทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า อย่าไปฟังถ้อยคำต่างๆ ที่ผู้พยากรณ์กล่าวว่า ‘ในไม่ช้าภาชนะซึ่งถูกริบจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้คืนมาจากบาบิโลน’ พวกเขากำลังพยากรณ์เท็จให้เจ้าฟัง อย่าไปฟังเลย จงยอมรับใช้กษัตริย์บาบิโลน แล้วพวกท่านจะรักษาชีวิตไว้ได้ จะยอมให้เมืองนี้เป็นซากปรักหักพังไปทำไม? หากคนเหล่านั้นเป็นผู้เผยพระวจนะและมีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้พวกเขาอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ให้ภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ ที่เหลืออยู่ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในวังของกษัตริย์ยูดาห์ และในเยรูซาเล็มต้องถูกริบไปบาบิโลน เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสเกี่ยวกับเสาหาน ขันสาคร แท่นเคลื่อนที่ และเครื่องตกแต่งอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ในเมืองนี้ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนไม่ได้ริบไป เมื่อครั้งที่เยโฮยาคีน27:20 ภาษาฮีบรูว่าเยโคนิยาห์เป็นอีกรูปหนึ่งของเยโฮยาคีนโอรสกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลนพร้อมกับบรรดาเจ้าขุนมูลนายของยูดาห์และเยรูซาเล็มนั้น พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เหลืออยู่ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าในราชวังกษัตริย์ยูดาห์และในเยรูซาเล็มไว้ดังนี้ ‘สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะถูกริบไปไว้ที่บาบิโลนจนกว่าจะถึงวันที่เรามาเยือน แล้วเราจึงจะนำมันกลับมายังที่เดิม’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น”

Read More of เยเรมีย์ 27

เยเรมีย์ 28:1-17

ฮานันยาห์ผู้พยากรณ์เท็จ

ในเดือนที่ห้าปีเดียวกันนั้น ซึ่งเป็นปีที่สี่ของรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ผู้พยากรณ์ฮานันยาห์บุตรอัสซูร์ซึ่งมาจากกิเบโอน กล่าวกับข้าพเจ้าในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าบรรดาปุโรหิตและประชากรทั้งปวงว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘เราจะหักแอกของกษัตริย์บาบิโลน เราจะนำภาชนะต่างๆ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนริบจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปไว้ที่บาบิโลนนั้นกลับคืนมาที่นี่ภายในสองปี และเราจะนำเยโฮยาคีนโอรสของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ กับบรรดาเชลยจากยูดาห์ซึ่งไปยังบาบิโลนนั้นกลับมาที่นี่อีก เพราะเราจะทำลายแอกของกษัตริย์บาบิโลน’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น”

แล้วผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์กล่าวกับฮานันยาห์ต่อหน้าปุโรหิตและประชากรทั้งปวงซึ่งยืนอยู่ในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขากล่าวว่า “อาเมน! ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเช่นนั้นเถิด! ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้เป็นไปตามคำพยากรณ์ของท่าน ที่พระองค์จะทรงนำภาชนะประจำพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเชลยทั้งปวงจากบาบิโลนคืนสู่แผ่นดินนี้ แต่ขอจงฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องกล่าวให้ท่านและประชาชนทั้งปวงได้ยินคือ ตั้งแต่กาลก่อนบรรดาผู้เผยพระวจนะก่อนหน้าท่านและข้าพเจ้าได้พยากรณ์ถึงสงคราม ภัยพิบัติ และโรคระบาด ซึ่งจะเกิดขึ้นในหลายประเทศและอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย แต่ผู้เผยพระวจนะซึ่งพยากรณ์ถึงสันติภาพนั้นจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้มาจริงๆ ก็ต่อเมื่อคำพยากรณ์ของเขาเป็นจริง”

แล้วผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ จึงปลดแอกจากคอของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์แล้วหักทิ้งเสีย แล้วกล่าวต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ในทำนองเดียวกัน เราจะทำลายแอกของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนออกจากคอของบรรดาประชาชาติภายในสองปี’ ” ถึงตอนนี้ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ก็เดินจากไป

ไม่นานหลังจากที่ผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ได้ทำลายแอกจากคอของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาถึงเยเรมีย์ว่า “จงไปบอกฮานันยาห์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าหักแอกไม้ออก แต่เจ้าจะได้แอกเหล็กแทน พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราจะวางแอกเหล็กบนคอของประชาชาติเหล่านี้ และให้พวกเขาปรนนิบัติรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และพวกเขาจะรับใช้เนบูคัดเนสซาร์ แม้แต่สัตว์ป่า เราก็จะทำให้สยบต่อเนบูคัดเนสซาร์ด้วยเช่นกัน’ ”

แล้วผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์กล่าวแก่ผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ว่า “ฮานันยาห์ จงฟัง! องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ใช้ท่านมา แต่ท่านก็ยังโน้มน้าวชนชาตินี้ให้เชื่อคำโกหกพกลม ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เราจะกำจัดเจ้าไปจากพื้นโลก เจ้าจะตายในปีนี้ เพราะเจ้าได้สอนให้กบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า’ ”

ในเดือนที่เจ็ดของปีนั้นเองผู้เผยพระวจนะฮานันยาห์ก็สิ้นชีวิต

Read More of เยเรมีย์ 28

เยเรมีย์ 29:1-23

จดหมายถึงเหล่าเชลย

ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งจากเยรูซาเล็มถึงบรรดาผู้อาวุโส ปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ และประชากรทั้งปวงซึ่งถูกกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยที่บาบิโลน (หลังจากที่กษัตริย์เยโฮยาคีน29:2 ภาษาฮีบรูว่าเยโคนิยาห์เป็นอีกรูปหนึ่งของเยโฮยาคีน ราชมารดา และข้าราชสำนัก บรรดาผู้นำยูดาห์และเยรูซาเล็ม ช่างเหล็กและช่างฝีมือทั้งหลายถูกกวาดต้อนจากกรุงเยรูซาเล็มไปเป็นเชลย) เขาส่งจดหมายฉบับนี้ไปกับเอลาสาห์บุตรชาฟาน และเกมาริยาห์บุตรฮิลคียาห์ ซึ่งกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ให้ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ในบาบิโลน จดหมายนั้นมีใจความว่า

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสแก่คนทั้งปวงผู้ถูกกวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยที่บาบิโลนว่า “จงสร้างบ้านและตั้งรกราก จงเพาะปลูกและกินพืชผลที่ได้ จงแต่งงาน มีลูกชายลูกสาว และหาคู่ครองให้พวกเขา จะได้มีหลานเหลน จงเพิ่มจำนวนพลเมืองขึ้น ไม่ใช่ลดลง ทั้งจงบากบั่นเพื่อสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองของนครซึ่งเราให้เจ้าไปตกเป็นเชลยนั้น จงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อนครนั้น เพราะหากมันเจริญ เจ้าก็เจริญด้วย” ถูกแล้ว พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “อย่ายอมให้บรรดาผู้พยากรณ์และหมอดูในหมู่พวกเจ้าหลอกลวงเจ้า อย่าฟังความฝันที่พวกเจ้าอยากให้พวกเขาฝัน พวกเขากำลังพยากรณ์เท็จในนามของเราให้เจ้าฟัง เราไม่ได้ใช้พวกเขาไป” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เมื่อเป็นเชลยในบาบิโลนจนครบเจ็ดสิบปีแล้ว เราจะมาเยือนเจ้าและทำตามสัญญาแห่งพระคุณที่จะนำเจ้ากลับคืนมาที่นี่” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนการเพื่อทำให้เจ้ารุ่งเรืองไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า เป็นแผนการเพื่อให้ความหวังและอนาคตแก่เจ้า แล้วเจ้าจะร้องเรียกเรา และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า เจ้าจะแสวงหาเราและพบเรา เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสุดใจของเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เจ้าจะพบเรา และเราจะนำเจ้ากลับมาจากการเป็นเชลย29:14 หรือจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดีดังเดิมองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เราจะรวบรวมเจ้าออกมาจากประชาชาติต่างๆ และจากดินแดนทั้งปวงที่เราเนรเทศเจ้าไป ให้กลับคืนมายังภูมิลำเนาเดิมซึ่งเราได้นำเจ้าจากไปเป็นเชลย”

ท่านอาจกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตั้งผู้เผยพระวจนะให้เราในบาบิโลน” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้นั่งบนบัลลังก์ของดาวิด และเกี่ยวกับประชากรทั้งปวงที่ยังคงอยู่ในกรุงนี้คือพี่น้องร่วมชาติซึ่งไม่ได้ไปเป็นเชลยกับท่านนั้นว่า ถูกแล้ว พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะส่งสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาดมายังพวกเขาและทำให้เขาเหมือนมะเดื่อเน่า ซึ่งเน่าจนกินไม่ได้ เราจะตามล่าเขาด้วยสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด และจะทำให้พวกเขาเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์แก่มวลอาณาจักรในโลก เป็นที่น่าสยดสยอง ถูกสาปแช่ง ถูกติเตียน และถูกเย้ยหยันในหมู่ชนชาติต่างๆ ที่เราขับไล่เขาไป” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เพราะเขาไม่ยอมฟังถ้อยคำของเรา ถ้อยคำที่เราใช้ให้ผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราไปพูดกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า และพวกเจ้าเหล่าเชลยก็ไม่ฟังด้วย” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

ฉะนั้นท่านทั้งปวงผู้ต้องจากเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยที่บาบิโลน จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสเกี่ยวกับอาหับบุตรโคลายาห์ และเศเดคียาห์บุตรมาอาเสอาห์ ซึ่งอ้างนามของเรากล่าวเท็จให้พวกเจ้าฟังนั้นว่า “เราจะมอบเขาทั้งสองไว้ในมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และเนบูคัดเนสซาร์จะฆ่าเขาทั้งสองต่อหน้าต่อตาพวกเจ้า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งสองคนนี้ ทำให้เชลยทั้งปวงจากยูดาห์ซึ่งอยู่ในบาบิโลนแช่งด่ากันว่า ‘ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทำกับเจ้าเหมือนเศเดคียาห์และอาหับซึ่งกษัตริย์บาบิโลนได้เผาในกองไฟ’ เพราะพวกเขาได้ทำสิ่งเลวร้ายในอิสราเอล พวกเขาเป็นชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้านและกล่าวเท็จโดยอ้างนามของเราโดยที่เราไม่ได้ใช้เขาไปทำ เรารู้เห็นและเป็นพยานเรื่องนี้” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

Read More of เยเรมีย์ 29