อิสยาห์ 41:1-29, อิสยาห์ 42:1-25 TNCV

อิสยาห์ 41:1-29

องค์พระผู้ช่วยแห่งอิสราเอล

“เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงเงียบและฟังเรา!

ให้ประชาชาติต่างๆ ฟื้นกำลังขึ้นใหม่!

ให้พวกเขาก้าวออกมาพูดข้างหน้านี้

ให้เรามาพบกันในสถานพิพากษา

“ใครหนอดลใจบุคคลผู้นี้จากตะวันออก

ให้มาทำหน้าที่ของตนอย่างชอบธรรม41:2 หรือผู้พบความมีชัยทุกฝีก้าว?

พระองค์ทรงมอบประชาชาติต่างๆ แก่เขา

และสยบบรรดากษัตริย์ต่อหน้าเขา

พระองค์ทรงใช้ดาบของเขาฟาดฟันกษัตริย์เหล่านั้นเป็นธุลี

คันธนูของเขาทำให้กษัตริย์เหล่านั้นเหมือนแกลบปลิวฟุ้งไป

เขาตามล่าคนเหล่านั้นไปโดยไม่ได้รับอันตราย

ตามเส้นทางซึ่งเขาไม่เคยเหยียบย่างมาก่อน

ใครหนอกระทำเช่นนี้จนสำเร็จ

ที่เป็นผู้เรียกคนในชั่วอายุต่างๆ มาตั้งแต่ต้น?

เรา พระยาห์เวห์เป็นปฐมและอวสาน

เราคือผู้นั้น”

เกาะทั้งหลายเห็นแล้วก็หวาดกลัว

สุดปลายแผ่นดินโลกสั่นสะท้าน

พวกเขาเข้ามาใกล้และออกมาข้างหน้า

ต่างช่วยเหลือกัน

และกล่าวแก่พี่น้องของตนว่า “เข้มแข็งเข้าไว้!”

ช่างฝีมือให้กำลังใจช่างทอง

ผู้ใช้ค้อนก็ให้กำลังใจผู้ตีทั่ง

เขากล่าวถึงงานบัดกรีว่า “ดี”

เขาเอาตะปูตอกรูปเคารพ มันจะได้ไม่ล้มคว่ำลง

“ส่วนเจ้า อิสราเอลผู้รับใช้ของเรา

ยาโคบผู้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้

เจ้าผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมสหายของเรา

เราพาเจ้ามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก

เราเรียกเจ้ามาจากมุมไกลโพ้นที่สุด

เราบอกเจ้าว่า ‘เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา’

เราได้เลือกสรรเจ้า และไม่เคยทอดทิ้งเจ้า

ดังนั้น อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า

อย่าท้อแท้ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า

เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้นและจะช่วยเจ้า

เราจะชูเจ้าไว้ด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา

“บรรดาผู้ที่เกรี้ยวกราดต่อเจ้า

จะอับอายขายหน้าและอัปยศอดสูอย่างแน่นอน

ผู้ที่ต่อต้านเจ้า

จะสิ้นค่าและพินาศไป

ถึงแม้เจ้าจะมองหาศัตรู

เจ้าก็จะไม่พบ

บรรดาผู้ที่รบกับเจ้า

จะหมดค่าอย่างสิ้นเชิง

เพราะเราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า

ผู้จับมือขวาของเจ้าไว้

และบอกกับเจ้าว่า อย่ากลัวเลย

เราจะช่วยเจ้า

อย่ากลัวเลย เจ้าหนอนยาโคบเอ๋ย

อิสราเอลน้อยๆ เอ๋ย

เพราะเราเองจะช่วยเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ไถ่เจ้า

“ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นดั่งเลื่อนนวดข้าว

ที่ใหม่และคม มีฟันหลายซี่

เจ้าจะนวดและบดขยี้ภูเขาต่างๆ

ทำให้เนินเขาทั้งหลายเป็นเหมือนแกลบ

เจ้าจะซัดมัน ลมจะหอบมันขึ้น

และพายุจะพัดมันกระจายไป

ส่วนเจ้าจะปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และภาคภูมิใจในองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

“คนยากไร้และขัดสนเสาะหาน้ำดื่ม แต่ไม่มีเลย

ลิ้นของเขาแห้งผากด้วยความกระหาย

แต่เรา พระยาห์เวห์จะตอบเขา

เรา พระเจ้าแห่งอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาเลย

เราจะทำให้แม่น้ำไหลบนที่สูงซึ่งแห้งแล้ง

และให้มีธารน้ำพุในหุบเขา

เราจะเปลี่ยนถิ่นกันดารเป็นสระน้ำ

และเปลี่ยนผืนดินแตกระแหงให้กลายเป็นธารน้ำพุ

เราจะปลูกต้นสนซีดาร์และต้นกระถินเทศ

ต้นน้ำมันเขียวและต้นมะกอกในทะเลทราย

และเราจะปลูกต้นสนชนิดต่างๆ ไว้ในถิ่นกันดาร

ทั้งสนเฟอร์และสนไซเปรสด้วย

เพื่อคนทั้งปวงจะเห็นและรู้

จะพิเคราะห์และเข้าใจ

ว่าพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำการนี้

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลทรงสร้างมันขึ้น”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเสนอคดีความของเจ้า”

องค์กษัตริย์ของยาโคบตรัสว่า “จงแสดงข้อพิสูจน์ของเจ้ามาเถิด”

“จงนำบรรดารูปเคารพของเจ้าเข้ามาบอกพวกเรา

ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

จงเล่าความเป็นไปแต่เดิม

เพื่อเราจะพิจารณาและรับรู้จุดจบ

หรือจะเล่าให้พวกเราฟังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น

จงบอกพวกเรามาเถิดว่าอนาคตจะมีอะไรบ้าง

เพื่อเราจะรู้ว่าพวกเจ้าเป็นเทพเจ้า

ทำอะไรสักอย่างสิ จะดีหรือชั่วก็ได้

เพื่อเราจะได้ท้อแท้และหวาดหวั่น

แต่พวกเจ้าต่ำต้อยด้อยค่ายิ่งกว่าศูนย์

และผลงานของเจ้าล้วนไร้ค่า

ผู้ที่เลือกเจ้าก็น่าชิงชัง

“เราได้เรียกบุคคลผู้หนึ่งจากทางเหนือ และเขาก็มา

เขามาจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาร้องเรียกนามของเรา

เขาเหยียบย่ำบรรดาผู้ปกครองเหมือนย่ำปูน

ราวกับช่างปั้นย่ำดินเหนียว

ใครเล่าบอกถึงสิ่งนี้ให้เรารู้มาตั้งแต่ต้น

หรือบอกไว้ตั้งแต่แรก เราจึงพูดได้ว่า ‘ถูกอย่างที่เขาบอก’?

ไม่มีใครพูดไว้

ไม่มีใครแจ้งไว้ก่อน

ไม่มีใครได้ยินอะไรจากเจ้าเลย

เราเป็นคนแรกที่บอกศิโยนว่า ‘ดูเถิด พวกเขามาแล้ว!’

เรามอบทูตแห่งข่าวดีให้เยรูซาเล็ม

เรามองดูแต่ไม่มีใครสักคน

ไม่มีแม้สักคนเดียวในพวกเขาที่จะให้คำปรึกษาแนะนำ

ไม่มีใครตอบเมื่อเราถาม

ดูเถิด พวกเขาล้วนแต่จอมปลอม!

การกระทำของเขาล้วนไร้ค่า

เทวรูปต่างๆ ของเขาเป็นเพียงลมและความสับสน

Read More of อิสยาห์ 41

อิสยาห์ 42:1-25

ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

“นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู

ผู้ที่เราเลือกสรรไว้ ซึ่งเราชื่นชม

เราจะส่งวิญญาณของเราลงมาเหนือเขา

และเขาจะนำความยุติธรรมไปถึงบรรดาประชาชาติ

เขาจะไม่ตะโกนหรือส่งเสียงร้อง

ไม่ส่งเสียงดังกลางถนน

ไม้อ้อช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก

ไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ เขาจะไม่ดับ

เขาจะนำความยุติธรรมมาอย่างซื่อสัตย์

เขาจะไม่สะดุดหรือท้อถอย

จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมขึ้นในโลก

หมู่เกาะจะฝากความหวังไว้ที่บทบัญญัติของเขา”

นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าพระยาห์เวห์

พระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และคลี่มันออก

ผู้ทรงแผ่แผ่นดินโลกและสรรพสิ่งที่บังเกิดจากโลก

ผู้ประทานลมปราณแก่มนุษย์

และประทานชีวิตแก่ทุกคนในโลก

“เรา พระยาห์เวห์ ได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม

เราจะจับมือเจ้าไว้

เราจะคุ้มครองเจ้า

และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับเหล่าประชากร

และเป็นแสงสว่างแก่บรรดาชนต่างชาติ

ให้เบิกตาของคนตาบอด

ปลดปล่อยเชลยจากคุก

และช่วยนำผู้ที่นั่งอยู่ในความมืดออกจากที่คุมขัง

“เราคือพระยาห์เวห์ นี่เป็นนามของเรา!

เกียรติสิริของเรา เราจะไม่ยกให้ใครอื่น

และคำสรรเสริญยกย่องของเรา เราจะไม่ให้แก่รูปเคารพต่างๆ

ดูเถิด สิ่งที่เราลั่นวาจาไว้ตั้งแต่แรกได้เกิดขึ้นแล้ว

และเราประกาศสิ่งใหม่ๆ

ตั้งแต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น

เราก็ประกาศแก่พวกเจ้าทั้งหลายแล้ว”

เพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

จงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายแผ่นดินโลก

ท่านผู้ไปยังทะเล และสรรพสิ่งในทะเล

เกาะแก่งทั้งหลาย และคนทั้งปวงผู้อาศัยอยู่ที่นั่น

ถิ่นกันดารและเมืองต่างๆ จงเปล่งเสียง

ถิ่นฐานทั้งหลายที่ชาวเคดาร์อาศัยอยู่จงชื่นบาน

ชาวเสลาจงร้องเพลงเบิกบาน

ให้พวกเขาโห่ร้องจากยอดเขา

ให้พวกเขาถวายพระเกียรติสิริแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

และเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์ในเกาะแก่งทั้งหลาย

องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาเยี่ยงบุรุษผู้เกรียงไกร

พระองค์ทรงกระตือรือร้นเฉกเช่นนักรบ

ทรงโห่ร้องเอาชัย

และพิชิตเหล่าศัตรูของพระองค์

“เรานิ่งอั้นไว้นานแล้ว

เราเงียบอยู่และสะกดใจไว้

แต่บัดนี้ เราร้องออกมาดั่งหญิงคลอดลูก

เราหายใจถี่และหอบ

เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาต่างๆ

ให้พืชพันธุ์ทั้งหลายในที่เหล่านั้นเหี่ยวแห้ง

เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ

และให้สระทั้งหลายแห้งเหือด

เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก

เราจะพาพวกเขาไปตามเส้นทางที่พวกเขาไม่คุ้นเคย

เราจะเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างต่อหน้าพวกเขา

และทำที่ขรุขระให้ราบเรียบ

เราจะทำสิ่งเหล่านี้

เราจะไม่ทอดทิ้งเขาเลย

ส่วนบรรดาผู้ที่วางใจในรูปเคารพ

ผู้ที่พูดกับเทวรูปว่า ‘ท่านเป็นเทพเจ้าของเรา’

เราจะทำให้เขาหันกลับไปอย่างน่าอัปยศอดสูที่สุด

อิสราเอลตาบอดหูหนวก

“ฟังเถิด คนหูหนวกเอ๋ย

มองเถิด คนตาบอดเอ๋ย และจงเห็น!

ใครเล่าตาบอดนอกจากผู้รับใช้ของเรา?

ใครเล่าหูหนวกเหมือนผู้สื่อสารที่เราส่งไป?

ใครเล่าตาบอดเหมือนผู้ที่ถวายตัวต่อเรา?

ใครเล่าตาบอดเหมือนผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า?

เจ้าได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่ใส่ใจ

หูเจ้าเปิดกว้าง แต่ไม่ได้ยินอะไร”

องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

ที่จะทำให้บทบัญญัติของพระองค์ยิ่งใหญ่และมีเกียรติ

เพื่อเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์

แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกปล้นและตกเป็นเชลย

พวกเขาล้วนตกอยู่ในหลุมพราง

หรือหลบซ่อนอยู่ในคุก

พวกเขาถูกปล้น

โดยไม่มีใครช่วย

พวกเขาตกเป็นเชลย

โดยไม่มีใครพูดว่า “ปล่อยพวกเขากลับไป”

ใครบ้างในพวกท่านจะรับฟังเรื่องนี้

หรือใส่ใจกับอนาคตที่จะมาถึง?

ใครเล่ายอมให้ยาโคบตกเป็นเชลย

และให้อิสราเอลถูกปล้น?

ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ซึ่งพวกเราทำบาปต่อพระองค์หรอกหรือ?

เพราะพวกเขาไม่ทำตามวิถีทางของพระองค์

ไม่เชื่อฟังบทบัญญัติของพระองค์

ดังนั้นพระองค์จึงทรงระบายพระพิโรธอันรุนแรง

คือสงครามอันดุเดือดให้ตกแก่เขา

ให้เขาตกอยู่ในเปลวไฟ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ

ไฟเผาผลาญเขา แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ

Read More of อิสยาห์ 42