อิสยาห์ 20:1-6
คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์และคูช
ในปีที่กษัตริย์ซาร์กอนแห่งอัสซีเรียส่งแม่ทัพสูงสุดมาโจมตีอัชโดดและยึดเมืองได้ ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์บุตรอาโมศว่า “เจ้าจงถอดเสื้อผ้ากระสอบออกจากกาย และถอดรองเท้าออก” อิสยาห์ก็ปฏิบัติตาม เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า
แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เช่นเดียวกับที่อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือยกายและเท้าเปล่าตลอดสามปี ซึ่งเป็นหมายสำคัญและลางร้ายแก่อียิปต์และคูช20:3 คือ ตอนบนของลุ่มแม่น้ำไนล์ เช่นเดียวกับข้อ 4 และ 5 กษัตริย์อัสซีเรียจะจับตัวชาวอียิปต์และคูชไปเป็นนักโทษและเป็นเชลย ให้เดินเปลือยกายและเท้าเปล่าไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ กับเปลือยก้นยังความอัปยศมาสู่อียิปต์ บรรดาคนที่พึ่งคูชและโอ้อวดเรื่องอียิปต์จะหวาดกลัวและอับอาย ในวันนั้นประชาชนที่อาศัยตามชายฝั่งทะเลจะกล่าวว่า ‘ดูสิ ขนาดผู้ที่เราพึ่งพาและหนีมาขอความช่วยเหลือให้พ้นมือจากกษัตริย์อัสซีเรียยังเป็นไปถึงเพียงนี้ แล้วเราจะหนีรอดไปได้อย่างไร?’”
อิสยาห์ 21:1-17
คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน
พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลน21:1 ภาษาฮีบรูว่าถิ่นกันดารใกล้ทะเลมีดังนี้ว่า
ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร
จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว
เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้
ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ
ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง
เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง
เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น
ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด
ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน
งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น
หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น
ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง
พวกเขาตั้งโต๊ะ
ยกพรมมาปู
เขากินและดื่ม!
นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด
เอาน้ำมันทาโล่!
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า
“จงวางยามไว้คอยดูแล
และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น
เมื่อเขาเห็นรถรบ
ฝูงม้า
คนขี่ลา
หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา
ให้เขาตื่นตัว
และเพ่งดู”
แล้วยาม21:8 ฉบับ MT. ว่าสิงโตร้องบอกว่า
“นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา
และมีม้ามาเป็นฝูง
เขาตอบกลับมาว่า
‘บาบิโลนล่มแล้ว!
เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน
แตกกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น!’ ”
พี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเอ๋ย ผู้ถูกบดขยี้ในลานนวดข้าว
ข้าพเจ้าก็บอกท่านถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน
จากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
จากพระเจ้าแห่งอิสราเอล
คำพยากรณ์กล่าวโทษเอโดม
พระดำรัสเกี่ยวกับดูมาห์21:11 แปลว่าความเงียบหรือความนิ่งสงบเป็นการเล่นคำกับคำว่าเอโดมมีดังนี้ว่า
มีคนร้องเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า
“คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?
คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?”
ยามตอบว่า
“จะเช้าแล้ว แต่ก็จะมืดด้วย
ถ้าจะถามก็ถามมาเถิด
แล้วค่อยกลับมาถามใหม่”
คำพยากรณ์กล่าวโทษอาระเบีย
พระดำรัสเกี่ยวกับอาระเบียมีดังนี้ว่า
เจ้าพวกกองคาราวานชาวเดดาน
ผู้ตั้งค่ายในดงทึบแห่งอาระเบีย
จงนำน้ำมาให้ผู้กระหาย
ประชากรเทมาเอ๋ย
และนำอาหารมาให้ผู้ลี้ภัยเถิด
พวกเขาหนีจากดาบ
ดาบที่ชักออกจากฝัก
หนีจากคันธนูซึ่งโก่งอยู่
และจากสงครามอันดุเดือด
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีตามปีของสัญญาว่าจ้างแรงงานนั้น ความโอ่อ่าตระการของเคดาร์จะสิ้นสุดลง นักธนูและนักรบของเคดาร์จะเหลืออยู่ไม่กี่คน” พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ตรัสไว้
อิสยาห์ 22:1-25
คำพยากรณ์กล่าวโทษเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม
พระดำรัสเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิตมีดังนี้ว่า
เกิดอะไรขึ้นนี่
ทุกคนถึงได้วิ่งขึ้นบนหลังคา
โอ เมืองอันเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม
นครแห่งการจลาจลและความสำมะเลเทเมา
ผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าด้วยคมดาบ
ทั้งไม่ได้ตายในสงคราม
พวกผู้นำของเจ้าหนีไปกันหมด
พวกเขายอมจำนนโดยไม่ได้หยิบธนูขึ้นต่อสู้
ทุกคนที่ถูกจับได้ต้องกลายเป็นนักโทษ
เป็นคนที่พ่ายหนีตั้งแต่ศัตรูยังอยู่แต่ไกล
ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “ปล่อยข้าพเจ้า
ร้องไห้อยู่คนเดียวเถอะ
อย่าพยายามปลอบข้าพเจ้าเลย
ปล่อยให้ข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาเพราะหายนะของพี่น้องร่วมชาติ”
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กำหนดวันหนึ่งไว้
เป็นวันชุลมุนวุ่นวาย ยุ่งเหยิง สยดสยอง
ในหุบเขาแห่งนิมิต
วันแห่งการทลายกำแพง
และการป่าวร้องแก่ภูเขาทั้งหลาย
เอลามหยิบแล่งธนู
มีพลรถรบและม้า
คีร์ถือโล่มา
หุบเขาที่ดีที่สุดของท่านเต็มไปด้วยรถรบ
และพลม้าประจำอยู่ที่ประตูเมือง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำจัดเครื่องป้องกันของยูดาห์ออกไป
ในวันนั้นท่านมองหาอาวุธ
ในตำหนักพนาเลบานอน
ท่านเห็นแนวป้องกันของเมืองดาวิด
มีช่องโหว่หลายแห่ง
ท่านเก็บน้ำ
ไว้ที่สระล่าง
ท่านนับอาคารบ้านเรือนในเยรูซาเล็ม
และรื้อเรือนมาเสริมกำแพง
ท่านสร้างที่กักเก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงทั้งสอง
เพื่อรับน้ำของบ่อเดิม
แต่ท่านไม่ได้มุ่งมองพระองค์ผู้ทรงทำสิ่งนี้
ไม่ใส่ใจพระองค์ผู้ทรงดำริสิ่งนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ตรัสเรียกท่านในวันนั้น
ให้ร่ำไห้และคร่ำครวญ
ให้ทึ้งผมและสวมเสื้อผ้ากระสอบ
แต่ดูเถิดกลับกลายเป็นว่ามีแต่ความบันเทิง
และการสำมะเลเทเมา
มีการล้มวัวล้มแกะ กินเนื้อ ดื่มเหล้าองุ่น!
ท่านกล่าวว่า “ให้เรากินและดื่ม
เพราะพรุ่งนี้เราก็ตายแล้ว!”
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงเปิดเผยโดยให้ข้าพเจ้าได้ยินว่า “บาปนี้จะไม่ได้รับการอภัยจวบจนวันตายของเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า
“จงไปบอกเชบนาห์ผู้เป็นกรมวังว่า
เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่?
ใครอนุญาตให้เจ้าสกัดอุโมงค์ฝังศพ
ให้ตัวเองบนที่สูงนี้
และสกัดศิลาทำเป็นที่พักของเจ้า?
“ระวังไว้เถิด เจ้าผู้ยิ่งใหญ่
องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะจับเจ้าไว้และเหวี่ยงออกไป
พระองค์จะทรงขยำเจ้าไว้ในพระหัตถ์เหมือนลูกบอล
และทรงเหวี่ยงเจ้าไปยังดินแดนกว้างขวาง
เจ้าจะตายที่นั่น เหลือไว้แต่รถรบคันงามของเจ้า
เจ้าผู้ก่อความอัปยศแก่เรือนของนาย!
เราจะถอดเจ้าจากหน้าที่ของเจ้า
และเจ้าจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง
“ในวันนั้นเราจะเรียกเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ผู้รับใช้ของเรามา เราจะสวมเสื้อคลุมและผูกสายรัดเอวของเจ้าให้แก่เขา และมอบสิทธิอำนาจของเจ้าแก่เขา เขาจะเป็นบิดาของชาวเยรูซาเล็มและชาวยูดาห์ทั้งปวง เราจะวางกุญแจแห่งราชวงศ์ดาวิดไว้เหนือบ่าของเขา สิ่งที่เขาเปิดจะไม่มีผู้ใดปิดได้ และสิ่งที่เขาปิดจะไม่มีผู้ใดเปิดได้ เราจะตอกเขาเหมือนตอกหมุดในที่มั่น เขาจะเป็นบัลลังก์22:23 หรือที่นั่งแห่งเกียรติสำหรับวงศ์วานบิดา ศักดิ์ศรีทั้งปวงแห่งครอบครัวของเขาจะแขวนอยู่บนเขา อยู่บนลูกหลานและหน่อเนื้อเชื้อไข หรือแม้แต่ผู้เล็กน้อยของครอบครัวของเขา”
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ในวันนั้น หมุดที่ตอกเข้ากับที่มั่นจะหลุดร่วงลงมา และสิ่งที่อยู่บนนั้นจะถูกตัดทิ้ง” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
อิสยาห์ 23:1-18
คำพยากรณ์กล่าวโทษไทระ
พระดำรัสเกี่ยวกับเมืองไทระมีดังนี้ว่า
จงร่ำไห้เถิด เหล่านาวาแห่งทารชิช!
เพราะไทระล่มจมแล้ว
ไม่เหลือบ้านเรือนและท่าเรืออีก
มีข่าวจากดินแดนไซปรัส23:1 ภาษาฮีบรูว่าคิททิม
มาถึงพวกเขา
จงนิ่งเถิด ชาวเกาะ
และพวกพ่อค้าแห่งไซดอน
ผู้มั่งคั่งจากเรือเดินทะเล
เมล็ดข้าวจากชิโหร์
เดินทางข้ามมหาสมุทรมา
ผลผลิตแห่งแม่น้ำไนล์23:2,3 ฉบับ DSS. ว่าไซดอน / ผู้ข้ามทะเลมา / กองเรือของเจ้า 3อยู่บนห้วงสมุทร / เมล็ดข้าวของชิโหร์ / ผลผลิตของแม่น้ำไนล์เป็นรายได้ของไทระ
ซึ่งกลายเป็นตลาดของประชาชาติ
จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย และเจ้าผู้เป็นที่มั่นแห่งท้องทะเล
เพราะทะเลกล่าวว่า
“เราไม่เคยเจ็บท้องและไม่เคยคลอด
อีกทั้งไม่เคยเลี้ยงดูลูกชายลูกสาว”
เมื่ออียิปต์ได้ยินข่าวจากไทระ
พวกเขาจะทุกข์โศกยิ่งนัก
จงข้ามไปทารชิชเถิด
ชาวเกาะเอ๋ย จงร่ำไห้
นี่หรือนครแห่งความสนุกสนานบันเทิง?
นครเก่าแก่
ซึ่งเท้าพามันไป
ตั้งรกรากยังแดนไกล
ใครหนอวางแผนเล่นงานไทระ
ผู้ซึ่งให้มงกุฎ
ผู้ซึ่งพ่อค้าได้เป็นเจ้านาย
ผู้ซึ่งนายวาณิชเลื่องชื่อในโลก?
คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นั่นเอง
ทรงดำริไว้ที่จะทำให้ความภาคภูมิแห่งศักดิ์ศรีทั้งปวงตกต่ำลง
และทำให้บรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงของโลกเจียมเนื้อเจียมตัว
จงพรวน23:10 ฉบับMT. ว่าจงไปทั่วที่ดินของเจ้าเหมือนอย่างที่ดินริมแม่น้ำไนล์
ธิดาแห่งทารชิช23:10 คือ เมืองทารชิช หรือ ชาวไทระเอ๋ย
เพราะเจ้าไม่มีท่าเรืออีกแล้ว
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกเหนือท้องทะเล
ทรงเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย
พระองค์ทรงมีประกาศิต
ให้ทลายป้อมปราการต่างๆ ของฟีนิเซีย23:11 ภาษาฮีบรูว่าคานาอัน
พระองค์ตรัสว่า “ไม่มีความสนุกสนานบันเทิงอีกต่อไปแล้ว
โอ ธิดาพรหมจารีแห่งไซดอน23:12 คือ ชาวไซดอนซึ่งบัดนี้แหลกลาญ!
“ขึ้นไปสิ ข้ามไปไซปรัส23:12 ภาษาฮีบรูว่าคิททิมสิ
แม้แต่ที่นั่นเจ้าก็ไม่ได้พักสงบ”
จงมองดูดินแดนของชาวบาบิโลน23:13 หรือเคลเดีย
ชนชาติซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจแล้ว!
ชาวอัสซีเรียได้ทำ
ให้มันกลายเป็นที่สิงสถิตของสัตว์ป่า
พวกเขาก่อเชิงเทิน
ทลายป้อมปราการ
และทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง
จงคร่ำครวญเถิด เหล่านาวาแห่งทารชิชเอ๋ย
ป้อมปราการของเจ้าถูกทำลายแล้ว!
ครั้งนั้นผู้คนจะลืมไทระไปเจ็ดสิบปี อันเป็นช่วงพระชนม์ชีพของกษัตริย์องค์หนึ่ง แต่ในตอนปลายของช่วงเจ็ดสิบปีนั้น ไทระจะเป็นเหมือนในเนื้อเพลงของหญิงโสเภณีที่ว่า
“โอ หญิงโสเภณีที่ถูกลืม
หยิบพิณขึ้นเถิด แล้วเดินไปทั่วเมือง
เล่นพิณให้ไพเราะ ร้องเพลงหลายๆ เที่ยว
เพื่อคนจะจำเจ้าได้”
ปลายช่วงเจ็ดสิบปี องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงจัดการกับไทระ จะกลับมีคนว่าจ้างไทระราวกับเป็นโสเภณี และจะติดต่อค้าขายกับอาณาจักรทั้งปวงของโลก แต่ผลกำไรและรายได้ของไทระจะถูกกันไว้เพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จะไม่เก็บหรือสะสมไว้เอง แต่จะมอบผลกำไรแก่ผู้ที่ใช้ชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านั้นจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์และมีเสื้อผ้าดีๆ