อพยพ 39:1-43, อพยพ 40:1-38 TNCV

อพยพ 39:1-43

เครื่องแต่งกายปุโรหิต

เขาใช้ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงทอเครื่องแต่งกายเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถานนมัสการและเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์สำหรับอาโรนตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

เอโฟด

(อพย.28:6-14)

พวกเขา39:2 หรือเขาเช่นเดียวกับข้อ 7,8 และ 22ทำเอโฟดโดยใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดี พวกเขาเอาทองมาตีแผ่จนบาง ตัดเป็นเส้นๆ เพื่อจะทอเข้าไปกับผ้าลินินเนื้อดี ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง นี่เป็นผลงานของช่างฝีมือผู้ชำนาญ พวกเขาทำแถบสองชิ้นที่บ่าสำหรับเอโฟดไว้โยงมุมสำหรับผูกเข้าด้วยกัน ทำสายคาดเอวอย่างประณีตด้วยทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีทอเข้าเป็นชิ้นเดียวกับเอโฟดตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

พวกเขานำโกเมนสองชิ้นฝังบนเรือนทองและสลักชื่อบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอลเหมือนกรรมวิธีสลักแหวนตรา แล้วพวกเขาติดเข้ากับแถบบ่าของเอโฟด เป็นหินอนุสรณ์ถึงประชากรอิสราเอลตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

ทับทรวง

(อพย.28:15-28)

พวกเขาทำทับทรวงโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญโดยใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีเหมือนกับที่ใช้ทำเอโฟด เป็นผืนสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างยาวด้านละหนึ่งคืบ39:9 คือ กว้างยาวด้านละประมาณ 22 เซนติเมตร พับเป็นสองทบ แล้วพวกเขาฝังอัญมณีสี่แถวเข้ากับทับทรวง แถวแรกได้แก่ ทับทิม บุษราคัม และนิล แถวที่สองได้แก่ พลอยขี้นกการเวก ไพฑูรย์ และมรกต แถวที่สามได้แก่ พลอยสีม่วง โมรา และเพทายม่วง แถวที่สี่ได้แก่ เพทาย โกเมน และมณีโชติ ทั้งหมดนี้ฝังไว้บนเรือนทอง อัญมณีสิบสองเม็ดนี้แต่ละเม็ดสลักชื่อบุตรชายแต่ละคนของอิสราเอลแทนทั้งสิบสองเผ่าเหมือนสลักตรา

พวกเขายังได้ทำสร้อยเกลียวทองคำบริสุทธิ์ลักษณะคล้ายเชือกสำหรับทับทรวง และทำเรือนทองสองเรือนกับห่วงทองคำสองห่วง ติดห่วงทองคำทั้งสองเข้ากับมุมทั้งสองของทับทรวง เขาคล้องสร้อยเกลียวทองสองสายเข้ากับห่วงที่มุมทับทรวง และติดปลายอีกด้านของสร้อยเกลียวเข้ากับเรือนทองทั้งสอง แล้วติดเข้ากับแถบบ่าทั้งสองของเอโฟดตรงด้านหน้า เขาทำห่วงทองคำสองห่วงติดกับอีกสองมุมของทับทรวงตรงขอบด้านในชิดกับเอโฟด และทำห่วงทองคำอีกสองห่วงติดที่ปลายล่างของแถบบ่าตรงด้านหน้าของเอโฟด ชิดกับตะเข็บเหนือสายคาดเอวของเอโฟด เขาผูกห่วงของทับทรวงเข้ากับห่วงของเอโฟดโดยใช้ด้ายถักสีน้ำเงินติดเข้ากับสายคาดเอว เพื่อไม่ให้ทับทรวงเลื่อนหลุดจากเอโฟด ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

เครื่องแต่งกายของปุโรหิตชิ้นอื่นๆ

(อพย.28:31-43)

พวกเขาทอเสื้อคลุมเข้าชุดกับเอโฟดด้วยผ้าสีน้ำเงินทั้งตัว มีช่องตรงกลางเป็นคอเสื้อ39:23 ในภาษาฮีบรูคำนี้มีความหมายไม่ชัดเจนสำหรับสวมหัว มีแถบทอขลิบริมเพื่อไม่ให้ขาดลุ่ย แล้วทำผลทับทิมด้วยด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีไว้รอบชายเสื้อคลุม และเขาทำลูกพรวนทองคำบริสุทธิ์ติดสลับกับผลทับทิมรอบชายเสื้อคลุม เสื้อคลุมที่ชายล่างติดผลทับทิมสลับลูกพรวนนี้ สำหรับอาโรนใช้สวมเวลาปฏิบัติหน้าที่ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

เขาทอเสื้อตัวในด้วยผ้าลินินเนื้อดีสำหรับอาโรนและบรรดาบุตรชาย แถบคาดหน้าผาก ผ้าโพกศีรษะ และเครื่องแต่งกายชั้นใน ล้วนทำจากผ้าลินินเนื้อดีแบบเดียวกันนี้ สายคาดเอวทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ปักอย่างวิจิตรโดยใช้ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

เขาทำแผ่นทองคำบริสุทธิ์สำหรับคาดหน้าผากสลักข้อความเหมือนสลักตราว่า “บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วเขาใช้ด้ายสีน้ำเงินผูกแผ่นทองคำนี้ติดกับผ้าโพกศีรษะ ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส

โมเสสตรวจงานพลับพลา

(อพย.35:10-19)

ดังนั้นงานทุกชิ้นสำหรับการสร้างพลับพลาหรือเต็นท์นัดพบก็สำเร็จสมบูรณ์ ชนอิสราเอลได้ทำทุกสิ่งตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ทุกประการ พวกเขานำส่วนประกอบทั้งหมดมามอบแก่โมเสสดังนี้คือ พลับพลา อุปกรณ์ประกอบทุกอย่าง ตะขอ ไม้ฝาพลับพลา คานขวาง เสา ฐานรองรับ เครื่องคลุมพลับพลาที่ทำจากหนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดงและที่ทำจากหนังพะยูน ม่านกั้นทางเข้า หีบพันธสัญญาพร้อมคานหาม และพระที่นั่งกรุณา โต๊ะพร้อมภาชนะทุกอย่างและขนมปังเบื้องพระพักตร์ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์พร้อมตะเกียง เครื่องใช้ประกอบทุกอย่าง และน้ำมันสำหรับจุดประทีป แท่นทองคำ น้ำมันเจิม เครื่องหอม ม่านกั้นทางเข้าเต็นท์ แท่นทองสัมฤทธิ์พร้อมตะแกรงทองสัมฤทธิ์ และคานหาม และเครื่องใช้ทุกอย่าง อ่างชำระพร้อมฐานรอง ม่านกั้นลานพลับพลาพร้อมเสาและฐานรองรับ และม่านกั้นทางเข้าลานพลับพลา เชือก และหลักหมุด สำหรับลานพลับพลา เครื่องตบแต่งทั้งหมด สำหรับพลับพลาหรือเต็นท์นัดพบ ทั้งเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์ที่ทอขึ้นสวมใส่เมื่อรับใช้ในสถานนมัสการสำหรับปุโรหิตอาโรนและบรรดาบุตรชายสวมขณะปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิต

ชนอิสราเอลทั้งปวงปฏิบัติตามทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส โมเสสตรวจตราผลงานทั้งหมดและกล่าวอวยพรพวกเขา เพราะทุกสิ่งเรียบร้อยตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

Read More of อพยพ 39

อพยพ 40:1-38

การตั้งพลับพลา

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงตั้งพลับพลาคือเต็นท์นัดพบขึ้นในวันแรกของเดือนที่หนึ่ง ตั้งหีบพันธสัญญาในพลับพลา ขึงม่านกั้นบังหีบไว้ ยกโต๊ะเข้ามาตั้งวางภาชนะต่างๆ ลงบนโต๊ะ ตั้งคันประทีป แล้วตั้งตะเกียง วางแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอมตรงหน้าหีบพันธสัญญา ขึงม่านกั้นทางเข้าพลับพลา

“จงวางแท่นเผาเครื่องบูชาตรงหน้าทางเข้าพลับพลาหรือเต็นท์นัดพบ วางอ่างล้างระหว่างเต็นท์นัดพบกับแท่นบูชา ใส่น้ำไว้ในอ่าง ตั้งลานพลับพลาโดยรอบ ขึงม่านตรงทางเข้าลานพลับพลา

“จงเอาน้ำมันเจิมพลับพลาและเจิมของทุกอย่างในพลับพลา เจิมภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อชำระให้บริสุทธิ์ แล้วพลับพลานั้นจะบริสุทธิ์ แล้วเจิมแท่นบูชาและภาชนะเครื่องใช้ประจำแท่นเพื่อชำระแท่นนั้น และแท่นนั้นจะบริสุทธิ์ที่สุด เจิมอ่างชำระและฐานรอง เป็นการชำระให้บริสุทธิ์

“จงนำอาโรนและบุตรชายของเขามาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ เอาน้ำชำระกายพวกเขา จากนั้นให้อาโรนสวมเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์ เจิมเขา และชำระเขาให้บริสุทธิ์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา จงนำบรรดาบุตรชายของเขาเข้ามาและให้สวมเสื้อตัวใน เจิมพวกเขาเช่นเดียวกับที่เจิมอาโรน เพื่อพวกเขาจะปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา การเจิมนี้เป็นการสถาปนาความเป็นปุโรหิตสืบไปทุกชั่วอายุ” โมเสสก็ทำทุกสิ่งตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

ดังนั้นพวกเขาจึงได้ตั้งพลับพลาขึ้นในวันแรกของเดือนที่หนึ่งปีที่สอง โมเสสตั้งพลับพลาขึ้นโดยวางฐาน เอาไม้ฝาตั้งขึ้นแล้วสอดคานขวางและตั้งเสา จากนั้นคลี่ผ้าเต็นท์และเครื่องคลุมเหนือพลับพลาตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เขาเอาแผ่นจารึกพันธสัญญาใส่ไว้ในหีบพันธสัญญา สอดคานหามเข้ากับหีบ และเอาพระที่นั่งกรุณาปิดหีบ แล้วเขานำหีบพันธสัญญาไปตั้งในพลับพลา และขึงม่านกั้นปิดหีบพันธสัญญาไว้ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

โมเสสวางโต๊ะในเต็นท์นัดพบข้างนอกม่านที่ด้านทิศเหนือของพลับพลา และตั้งขนมปังไว้บนโต๊ะต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

เขาตั้งคันประทีปตรงกันข้ามกับโต๊ะในเต็นท์นัดพบทางด้านทิศใต้ของพลับพลา และตั้งตะเกียงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

โมเสสวางแท่นทองคำไว้ในเต็นท์นัดพบตรงหน้าม่าน แล้วเผาเครื่องหอมบนแท่นนั้น ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาไว้ จากนั้นเขากั้นม่านตรงทางเข้าพลับพลา

แล้วเขาวางแท่นบูชาใกล้ทางเข้าพลับพลาหรือเต็นท์นัดพบ จากนั้นจึงถวายเครื่องเผาบูชา เครื่องธัญบูชาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา

เขาวางอ่างชำระระหว่างเต็นท์นัดพบกับแท่นบูชา ใส่น้ำเพื่อชำระล้าง โมเสสและอาโรนกับบรรดาบุตรชายล้างมือและเท้าที่นั่น คราวใดที่พวกเขาเข้าใกล้แท่นบูชาหรือเข้าไปในเต็นท์นัดพบ ก็ล้างมือและเท้าตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้

แล้วโมเสสกั้นลานรอบพลับพลาและแท่น จากนั้นขึงม่านตรงทางเข้าลานพลับพลา เป็นอันว่าโมเสสทำงานเสร็จเรียบร้อย

พระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า

แล้วมีเมฆเคลื่อนลงมาปกคลุมเต็นท์นัดพบ และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพลับพลา โมเสสไม่สามารถเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพราะที่นั่นมีเมฆหนา และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพลับพลา

ตลอดการเดินทาง เมื่อใดที่เมฆซึ่งอยู่เหนือพลับพลาลอยขึ้น ชนอิสราเอลก็ออกเดินทาง แต่ถ้าเมฆนั้นไม่ลอยขึ้น พวกเขาก็ไม่ออกเดินทางจนกว่าเมฆจะเคลื่อน เมฆขององค์พระผู้เป็นเจ้าลอยอยู่เหนือพลับพลาในยามกลางวัน และในยามกลางคืนก็มีไฟอยู่ในเมฆ ประจักษ์แก่ตาชนอิสราเอลทั้งปวงตลอดการเดินทาง

Read More of อพยพ 40