อพยพ 19:1-25, อพยพ 20:1-26 TNCV

อพยพ 19:1-25

ที่ภูเขาซีนาย

ในเดือนที่สามหลังจากชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ ในวันนั้นพวกเขาก็มาถึงถิ่นกันดารซีนาย เมื่อเขาเดินทางออกจากเรฟีดิมแล้ว พวกเขาก็เข้าเขตถิ่นกันดารซีนายและชาวอิสราเอลตั้งค่ายหน้าภูเขาซีนาย

แล้วโมเสสขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกเขาจากภูเขานั้นและตรัสว่า “เจ้าจงบอกพงศ์พันธุ์ของยาโคบและจงกล่าวแก่ประชากรอิสราเอลว่า ‘พวกเจ้าเองได้เห็นสิ่งที่เรากระทำแก่ชาวอียิปต์แล้ว และเห็นวิธีที่เราพาเจ้ามาเหมือนลูกนกอินทรีบนปีกแม่ของมัน และนำเจ้ามาถึงเรา บัดนี้หากเจ้าทั้งหลายเชื่อฟังเราอย่างหมดใจและรักษาพันธสัญญาของเรา เจ้าก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ล้ำค่าของเราจากประชาชาติทั้งปวงทั่วโลก ถึงแม้ทั้งโลกนี้เป็นของเรา แต่เจ้า19:5,6 หรือประชาชาติทั้งปวงทั่วโลก เพราะทั้งโลกนี้เป็นของเรา 6เจ้าจะเป็นอาณาจักรแห่งปุโรหิตและเป็นชนชาติที่บริสุทธิ์สำหรับเรา’ เจ้าจงบอกชนชาติอิสราเอลตามนี้”

โมเสสจึงกลับลงมาจากภูเขา แล้วเรียกประชุมผู้อาวุโสของอิสราเอลมาแจ้งให้พวกเขาทราบทุกถ้อยคำที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้เขากล่าว ประชากรทั้งปวงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราจะทำทุกสิ่งตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่ง” โมเสสจึงนำคำตอบของพวกเขามากราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราจะมาหาเจ้าในเมฆหนาทึบ เพื่อเหล่าประชากรจะได้ยินเสียงเราพูดกับเจ้า และเขาจะได้ไว้วางใจในตัวเจ้าเสมอไป” โมเสสจึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าตามคำของประชากร

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงไปหาเหล่าประชากร ชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ทั้งวันนี้และวันพรุ่งนี้ ให้เขาซักเสื้อผ้า และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันที่สาม เพราะในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะลงมาที่ภูเขาซีนายต่อหน้าประชากรทั้งปวง จงกำหนดเขตห้ามประชากรล่วงล้ำเข้ามาบริเวณภูเขา บอกเขาว่า ‘จงระวังให้ดี อย่าให้ใครขึ้นมาบนภูเขาหรือแตะต้องเชิงเขานั้น ใครแตะต้องภูเขานั้นจะมีโทษถึงตาย อย่าให้มือของใครแตะต้องผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น แต่ให้เอาหินขว้างเขาหรือยิงด้วยลูกธนูจนตาย ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ เมื่อฝ่าฝืนจะต้องตาย’ และประชาชนจะขึ้นไปบนภูเขาได้ก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์เป็นสัญญาณยาวหนึ่งครั้งแล้วเท่านั้น”

จากนั้นโมเสสจึงลงจากภูเขามาหาเหล่าประชากร เขาชำระประชากรให้บริสุทธิ์และให้พวกเขาซักเสื้อผ้าของตนให้สะอาด แล้วเขาบอกกับประชากรว่า “จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันที่สาม จงงดเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้”

เช้าวันที่สามมีฟ้าแลบฟ้าร้องน่าสะพรึงกลัวและมีเมฆทะมึนปกคลุมภูเขานั้น แล้วมีเสียงเป่าแตรดังก้อง ทุกคนในค่ายตกใจกลัวจนตัวสั่น โมเสสจึงนำพวกเขาออกจากค่ายพักมาเข้าเฝ้าพระเจ้า พวกเขายืนอยู่ที่เชิงเขา มีควันหนาทึบปกคลุมภูเขาซีนาย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาโดยไฟ ควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหมือนควันจากเตาหลอม ทั้งภูเขา19:18 สำเนาต้นฉบับภาษาฮีบรูบางฉบับ และ LXX. ว่าประชากรทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงแตรดังก้องขึ้นเรื่อยๆ โมเสสจึงทูลพระเจ้า และมีพระสุรเสียงของพระองค์ตรัสตอบเขา19:19 หรือและพระเจ้าตรัสตอบเขาเป็นเสียงฟ้าร้อง

องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาที่ยอดเขาซีนายและตรัสเรียกโมเสสขึ้นบนยอดเขา โมเสสก็ขึ้นไป องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงกลับลงไปเตือนประชากรไม่ให้รุกล้ำเขตขึ้นมาเพราะอยากเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้ามิฉะนั้นพวกเขาจะต้องตาย แม้แต่บรรดาปุโรหิตซึ่งเข้าใกล้องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ต้องชำระตนให้บริสุทธิ์ มิฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำลายพวกเขา”

โมเสสกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ประชาชนทั้งหลายจะขึ้นมาบนภูเขาซีนายไม่ได้ เพราะพระองค์เองทรงเตือนข้าพระองค์ทั้งหลายไว้ว่า ‘ให้กำหนดเขตรอบภูเขาแยกไว้เป็นเขตบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์’ ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบว่า “จงลงไปพาอาโรนขึ้นมาด้วย แต่อย่าให้บรรดาปุโรหิตหรือประชากรรุกล้ำเขตเพื่อหาทางขึ้นมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้ามิฉะนั้นเราจะลงโทษพวกเขา”

ดังนั้นโมเสสจึงลงไปแจ้งแก่ประชากร

Read More of อพยพ 19

อพยพ 20:1-26

บัญญัติสิบประการ

(ฉธบ.5:6-21)

พระเจ้าตรัสถ้อยคำเหล่านี้ว่า

“เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์ ออกจากแดนทาส

“อย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา20:3 หรือนอกเหนือจากเรา

“อย่าสร้างแบบจำลองให้กับตนเอง เป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน แผ่นดินโลกเบื้องล่าง หรือท้องน้ำเบื้องลึก อย่ากราบไหว้หรือนมัสการสิ่งเหล่านั้น เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าผู้หึงหวง เราจะลงโทษลูกหลานของผู้ที่เกลียดชังเราไปสามสี่ชั่วอายุเพราะบาปของเขา แต่เราจะรักลูกหลานของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามคำสั่งของเราตลอดพันชั่วอายุคน

“อย่ายกพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ามาอ้างอย่างไม่สมควร เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่อ้างพระนามของพระองค์เช่นนั้น

“จงระลึกถึงวันสะบาโตโดยการทำให้วันนั้นบริสุทธิ์ จงทำงานทั้งสิ้นของเจ้าในหกวัน แต่ในวันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโต20:10 แปลว่าพักแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า อย่าทำงานใดๆ ในวันนั้นไม่ว่าตัวเจ้า บุตรชาย บุตรสาว ทาสชายหญิง วัว ลา สัตว์ใดๆ แม้แต่คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเจ้า เพื่อทาสชายหญิงของเจ้าจะได้พักเช่นเดียวกับเจ้า เพราะในหกวัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างฟ้าและโลก ทะเลและสรรพสิ่งในนั้น แต่ทรงหยุดพักในวันที่เจ็ด ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงอวยพรวันสะบาโตและตั้งให้เป็นวันบริสุทธิ์

“จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนยาวในดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังยกให้เจ้า

“อย่าฆ่าคน

“อย่าล่วงประเวณี

“อย่าลักขโมย

“อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน

“อย่าโลภอยากได้บ้านเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภอยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้านหรือคนรับใช้ชายหญิงของเขา วัวหรือลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ที่เป็นของเพื่อนบ้านของเจ้า”

เมื่อประชากรทั้งปวงเห็นฟ้าแลบฟ้าร้องและควันทึบพุ่งขึ้นจากภูเขา ได้ยินเสียงฟ้าคำรนและเสียงเป่าแตร ก็ยืนอยู่แต่ไกล หวาดกลัวจนตัวสั่น และกล่าวกับโมเสสว่า “ขอให้ท่านแจ้งสิ่งที่พระเจ้าตรัสแก่เราเถิด เราจะรับฟัง แต่อย่าให้พระเจ้าตรัสกับพวกเราตรงๆ เลย ไม่เช่นนั้นเราคงต้องตาย”

โมเสสกล่าวกับประชากรว่า “อย่ากลัวเลย พระเจ้าเสด็จมาทดสอบท่าน เพื่อที่ความยำเกรงพระเจ้าจะอยู่กับท่าน เพื่อปกป้องท่านจากการทำบาป”

ขณะที่เหล่าประชากรยืนอยู่ห่างๆ โมเสสก้าวเข้าไปใกล้ที่มืดทึบซึ่งพระเจ้าประทับอยู่

รูปเคารพกับแท่นบูชา

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘พวกเจ้าเองก็เห็นแล้วว่าเราได้พูดกับเจ้าจากฟ้าสวรรค์ เจ้าอย่าสร้างรูปเคารพใดๆ ขึ้นมาเทียบเคียงเรา อย่าสร้างรูปเคารพที่ทำด้วยเงินหรือทองไว้สำหรับตนเอง

“ ‘จงสร้างแท่นบูชาสำหรับเราด้วยดิน เพื่อถวายแกะ แพะ และวัวเป็นเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาแก่เราบนแท่นนั้น ที่ใดซึ่งเรากำหนดให้เป็นที่เทิดทูนนามของเรา เราจะมาหาและอวยพรเจ้าทั้งหลายที่นั่น ถ้าเจ้าทำแท่นบูชาสำหรับเราด้วยหิน อย่าใช้หินที่ตัดแต่งแล้ว อย่าตัดหรือแต่งก้อนหินด้วยเครื่องมือ เพราะจะทำให้แท่นเป็นมลทิน อย่าขึ้นไปยังแท่นของเราทางบันได เกรงว่าบางคนอาจจะเงยหน้าขึ้นมองเห็นความเปลือยของเจ้า’

Read More of อพยพ 20