อพยพ 11:1-10, อพยพ 12:1-51 TNCV

อพยพ 11:1-10

ภัยพิบัติมาถึงบุตรหัวปี

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เราจะส่งภัยพิบัติอีกอย่างหนึ่งมายังฟาโรห์และดินแดนอียิปต์ หลังจากนั้นเขาจะยอมปล่อยเจ้าไปจากที่นี่ เขาจะเสือกไสพวกเจ้าออกไปจนหมด จงบอกชนอิสราเอลทั้งชายหญิงให้เตรียมขอเครื่องเงินเครื่องทองของมีค่าจากเพื่อนบ้านไว้” (องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ชาวอียิปต์ชื่นชอบชาวอิสราเอลมาก และโมเสสเองก็เป็นที่นับหน้าถือตาอย่างสูงในอียิปต์ ทั้งข้าราชการของฟาโรห์และประชาชนอียิปต์ล้วนเคารพยำเกรงเขา)

ดังนั้นโมเสสจึงกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ประมาณเที่ยงคืนเราจะไปทั่วอียิปต์ แล้วลูกชายหัวปีทุกคนในอียิปต์จะต้องตาย ตั้งแต่โอรสหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนบัลลังก์ ไปจนถึงลูกชายหัวปีของทาสหญิงที่กำลังโม่แป้ง และแม้แต่ลูกหัวปีของสัตว์ด้วย เสียงร่ำไห้จะดังระงมไปทั่วแดนอียิปต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีเกิดขึ้นอีก แต่ท่ามกลางชนอิสราเอลจะไม่มีอะไรมากล้ำกราย ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ไม่มีแม้แต่เสียงสุนัขเห่า’ แล้วฝ่าพระบาทจะได้ทรงทราบว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดข้อแตกต่างระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ บรรดาข้าราชการของฝ่าพระบาทจะรีบมาหาข้าพระบาท และกราบกรานอ้อนวอนว่า ‘กรุณาออกไปเถิด พาผู้คนทั้งหมดไปกับท่านด้วย’ เมื่อนั้นข้าพระบาทจึงจะไป” แล้วโมเสสก็ทูลลาฟาโรห์ไปด้วยความโกรธ

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับโมเสสไว้แล้วว่า “ฟาโรห์จะไม่ฟังเจ้า เพื่อว่าการอัศจรรย์ของเราจะได้เพิ่มทวียิ่งขึ้นในอียิปต์” โมเสสและอาโรนได้ทำการอัศจรรย์ทั้งหมดนี้ต่อหน้าฟาโรห์ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ฟาโรห์มีพระทัยแข็งกระด้างและไม่ยอมปล่อยชนอิสราเอลออกจากอียิปต์

Read More of อพยพ 11

อพยพ 12:1-51

ปัสกา

(ลนต.23:4-8; กดว.28:16-25; ฉธบ.16:1-8)

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในอียิปต์ว่า “นับแต่นี้ไป ให้เดือนนี้เป็นเดือนแรกของเจ้า เป็นเดือนแรกของปีสำหรับเจ้า จงแจ้งแก่ชุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า ในวันที่สิบของเดือนนี้ แต่ละครอบครัวจะคัดลูกแกะ12:3 คำภาษาฮีบรูสามารถหมายถึงลูกแกะหรือลูกสัตว์ก็ได้ เช่นเดียวกับข้อ 4ตัวหนึ่ง หรือหากเป็นครอบครัวเล็กมีคนน้อยกินลูกแกะตัวหนึ่งไม่หมด ก็ให้รวมกับเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กันที่สุด เลือกลูกแกะให้เหมาะกับจำนวนคนที่จะกินและตามปริมาณที่แต่ละคนจะกินได้ สัตว์ที่เจ้าเลือกนี้อาจจะเอามาจากฝูงแกะหรือแพะ และต้องเป็นตัวผู้อายุหนึ่งปีไม่มีตำหนิ จงดูแลมันไว้จนถึงเย็นวันที่สิบสี่ของเดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ประชากรของชุมชนอิสราเอลทั้งปวงจะต้องฆ่าลูกแกะในตอนพลบค่ำ แล้วให้พวกเขาเอาเลือดบางส่วนทาที่ด้านข้างและด้านบนของวงกบประตูบ้านที่เขากินลูกแกะนั้น คืนวันนั้นทุกคนจงกินแกะหรือแพะย่าง ขนมปังไม่ใส่เชื้อ และผักรสขม อย่ากินเนื้อทั้งดิบๆ หรือเนื้อต้ม แต่จงย่างทั้งหัว ขา และเครื่องใน หากกินไม่หมดในคืนวันนั้น วันรุ่งขึ้นจงเผาส่วนที่เหลือทิ้ง ในการกินเลี้ยงนี้ จงสวมชุดเดินทาง คาดเข็มขัด ใส่รองเท้า และถือไม้เท้าไว้ จงกินอย่างเร่งรีบ การฉลองนี้คือปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

“ในคืนเดียวกันนั้นเราจะไปทั่วอียิปต์และประหารลูกหัวปีทั้งหมดไม่ว่าของคนหรือของสัตว์ และจะลงโทษพระทั้งปวงของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์ บ้านที่เจ้าอยู่จะมีเลือดเป็นเครื่องหมายสำหรับเจ้า และเมื่อเรามองเห็นเลือดนั้นเราจะผ่านเจ้าไป จะไม่มีภัยพิบัติใดมาแผ้วพานเจ้าเมื่อเราลงโทษอียิปต์

“นี่คือวันที่เจ้าต้องรำลึก เจ้าจงถือเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ เจ้าต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวัน ในวันแรกเจ้าจงกำจัดเชื้อออกจากบ้านของเจ้า เพราะผู้ใดกินสิ่งใดที่มีเชื้อจากวันแรกจนถึงวันที่เจ็ดจะถูกตัดออกจากอิสราเอล ในวันแรกและวันที่เจ็ดของพิธีฉลอง จัดให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานใดๆ ในสองวันนั้นนอกจากเตรียมอาหารให้ทุกคนรับประทาน นั่นคือทั้งหมดที่เจ้าทำได้

“จงฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ เพราะวันนี้คือวันที่เรานำหมู่เหล่าของเจ้าออกจากอียิปต์ จงเฉลิมฉลองวันนี้ให้เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ ตั้งแต่เย็นวันที่สิบสี่จนถึงเย็นวันที่ยี่สิบเอ็ดของเดือนที่หนึ่ง จงกินแต่ขนมปังไม่ใส่เชื้อ ตลอดเจ็ดวันนี้ อย่าให้มีเชื้อทำขนมปังในบ้านของพวกเจ้า และผู้ที่กินสิ่งที่มีเชื้อจะถูกตัดออกจากชุมชนอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นคนต่างด้าวหรือเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิด ไม่ว่าเจ้าอยู่ที่ใด อย่ากินสิ่งใดที่ใส่เชื้อ จงกินแต่ขนมปังไม่ใส่เชื้อเท่านั้น”

แล้วโมเสสเชิญผู้อาวุโสของอิสราเอลมาทั้งหมดและบอกคนเหล่านั้นว่า “จงไปคัดเลือกลูกแกะหรือลูกแพะจากฝูงมาสำหรับครอบครัวของท่านแล้วฆ่าแกะปัสกานั้น จงเอากิ่งหุสบกำหนึ่งจุ่มลงในเลือดลูกแกะที่รองไว้ในอ่าง แล้วทาที่ขอบบนของประตูและที่วงกบประตูทั้งสองด้าน อย่าให้ผู้ใดออกไปนอกประตูบ้านตราบจนรุ่งเช้า เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จไปทั่วดินแดนเพื่อประหารชาวอียิปต์ จะทรงเห็นเลือดที่ขอบบนและที่วงกบประตูทั้งสองด้าน พระองค์จะเสด็จผ่านประตูนั้นไป ไม่ทรงอนุญาตให้เพชฌฆาตเข้าไปในบ้านประหารพวกท่าน

“จงปฏิบัติตามคำสั่งเหล่านี้โดยถือเป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับท่านและลูกหลานของท่าน เมื่อท่านทั้งหลายเข้าสู่ดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่านตามพระสัญญาแล้ว จงถือปฏิบัติพิธีนี้ และเมื่อลูกหลานของท่านถามว่า ‘พิธีนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับท่าน?’ จงบอกพวกเขาว่า ‘เป็นการเฉลิมฉลองปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงผ่านบ้านของอิสราเอลในอียิปต์ไป เมื่อทรงประหารชาวอียิปต์และทรงละเว้นบ้านของพวกเรา’ ” แล้วประชาชนต่างกราบลงนมัสการ ประชากรอิสราเอลได้ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสกับอาโรนทุกประการ

เที่ยงคืนวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประหารบุตรหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ ตั้งแต่ราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนบัลลังก์ลงมาจนถึงบุตรชายหัวปีของนักโทษในคุก ตลอดจนลูกหัวปีของสัตว์ทั้งหลายด้วย ฟาโรห์และข้าราชการตลอดจนชาวอียิปต์ทั้งปวงตื่นขึ้นมากลางดึก ร้องไห้คร่ำครวญดังระงมไปทั่วอียิปต์เพราะทุกบ้านมีคนตาย

การอพยพ

ฟาโรห์รับสั่งให้ตามตัวโมเสสกับอาโรนมากลางดึกและตรัสว่า “ไป! เจ้ากับพวกอิสราเอล! จงไปให้พ้นพวกเรา จงไปนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่เจ้าขอไว้ เอาฝูงสัตว์ไปอย่างที่ว่าไว้และอวยพรเราด้วย”

ชาวอียิปต์ต่างเร่งชนอิสราเอลให้รีบออกไปจากประเทศ พวกเขาพูดว่า “ไม่เช่นนั้น เราจะล้มตายกันหมด!” ประชากรอิสราเอลเอาแป้งดิบที่ผสมเสร็จแล้วแต่ยังไม่ใส่เชื้อและเอารางนวดแป้งห่อผ้าแบกไปด้วย พวกเขาทำตามที่โมเสสบอก และขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากชาวอียิปต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ชาวอียิปต์ชื่นชอบชาวอิสราเอลและยกข้าวของให้ตามที่พวกเขาขอ ชาวอิสราเอลยึดสิ่งของของชาวอียิปต์ไปด้วยวิธีนี้

คืนนั้นชาวอิสราเอลราวหกแสนคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก เดินเท้าออกจากเมืองราเมเสสไปยังเมืองสุคคท มีชนชาติอื่นๆ มากมายร่วมเดินทางและมีฝูงสัตว์จำนวนมากไปกับพวกเขาด้วย เมื่อพวกเขาหยุดพักรับประทานอาหารก็นำแป้งดิบที่ไม่ใส่เชื้อออกมาปิ้ง ที่ไม่ได้ใส่เชื้อก็เพราะถูกขับออกจากอียิปต์ จึงไม่มีเวลาเตรียมอาหาร

ชนอิสราเอลอาศัยอยู่ในอียิปต์12:40 ฉบับ SamP. และ LXX. ว่าอียิปต์และคานาอัน 430 ปี วันสุดท้ายของ 430 ปีนั้น ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทุกหมู่เหล่าก็ออกจากดินแดนอียิปต์ เพราะว่าในค่ำคืนนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เฝ้าระวังเพื่อนำพวกเขาออกจากอียิปต์ ดังนั้นในคืนวันนี้อิสราเอลทั้งปวงจะเฝ้าระวังอยู่ตลอดคืน เพื่อถวายเกียรติยศแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดทุกชั่วอายุ

กฎของพิธีปัสกา

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “ต่อไปนี้เป็นระเบียบของพิธีปัสกาคือ

“ห้ามชาวต่างชาติกินเนื้อลูกแกะปัสกา แต่ทาสที่เจ้าซื้อมาและเข้าสุหนัตแล้วกินได้ ส่วนลูกจ้างหรือแขกต่างเมืองห้ามกิน

“จงกินแกะอยู่ในบ้าน อย่ายกออกไปนอกบ้าน และอย่าหักกระดูกของมันเลย ชุมชนอิสราเอลทั้งหมดจะต้องฉลองพิธีนี้

“สำหรับคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า หากต้องการเข้าร่วมปัสกาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงให้ผู้ชายทุกคนในครัวเรือนของเขาเข้าสุหนัตแล้วจึงเข้าร่วมพิธีได้เหมือนคนเชื้อชาติเดียวกับพวกเจ้า ชายที่ไม่ได้เข้าสุหนัตจะกินแกะปัสกาไม่ได้ กฎข้อนี้ใช้ได้ทั้งกับคนอิสราเอลโดยกำเนิดและกับคนต่างชาติซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า”

ชนอิสราเอลทั้งปวงก็ปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาโมเสสกับอาโรนไว้ทุกประการ และในวันนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำชนอิสราเอลออกจากดินแดนอียิปต์เป็นหมู่เหล่า

Read More of อพยพ 12