กิจการของอัครทูต 25:23-27, กิจการของอัครทูต 26:1-23 TNCV

กิจการของอัครทูต 25:23-27

เปาโลต่อหน้าอากริปปา

(กจ.9:3-8; 22:6-11)

วันรุ่งขึ้นกษัตริย์อากริปปากับพระนางเบอร์นิสเสด็จเข้ามายังห้องพิจารณาคดีอย่างโอ่อ่าตระการพร้อมข้าราชการระดับสูงและชนชั้นผู้นำของเมืองนั้น เฟสทัสสั่งเบิกตัวเปาโลเข้ามา เฟสทัสกล่าวว่า “กษัตริย์อากริปปาและท่านทั้งหลายซึ่งอยู่กับเราที่นี่ ท่านก็ได้เห็นชายผู้นี้แล้ว! ชุมนุมชนชาวยิวทั้งปวงได้ร้องขอต่อข้าพเจ้าเกี่ยวกับตัวเขาทั้งในกรุงเยรูซาเล็มและในเมืองซีซารียาแห่งนี้ พวกเขาร้องตะโกนว่าชายผู้นี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าพเจ้าพบว่าเขาไม่ได้ทำสิ่งใดที่สมควรกับโทษประหาร แต่เพราะเขาได้ถวายฎีกาถึงองค์จักรพรรดิข้าพเจ้าจึงตัดสินใจส่งเขาไปโรม แต่ข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดแน่ชัดที่จะเขียนเป็นรายงานถวายถึงองค์จักรพรรดิเกี่ยวกับชายผู้นี้ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงนำตัวเขามาอยู่ต่อหน้าท่านทั้งหลายโดยเฉพาะต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์กษัตริย์อากริปปา เพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้ข้อมูลที่จะถวายรายงานจากผลการไต่สวนครั้งนี้ เพราะข้าพเจ้าคิดว่าหากส่งตัวนักโทษไปโดยไม่ได้ระบุข้อหาที่แน่ชัดก็จะเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล”

Read More of กิจการของอัครทูต 25

กิจการของอัครทูต 26:1-23

แล้วกษัตริย์อากริปปาจึงตรัสกับเปาโลว่า “เจ้าได้รับอนุญาตให้พูดแก้คดีเองได้”

ดังนั้นเปาโลจึงโบกมือของตนและเริ่มแก้คดีว่า “ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ข้าพระบาทถือเป็นโอกาสดีที่ได้ยืนแก้ข้อกล่าวหาทั้งปวงของพวกยิวอยู่เฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาทในวันนี้ ที่ข้าพระบาทรู้สึกเช่นนี้ก็เพราะฝ่าพระบาททรงคุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมและข้อขัดแย้งต่างๆ ทั้งมวลของชาวยิวเป็นอย่างดี ฉะนั้นขอทรงอดทนฟังข้าพระบาทเถิด

“ชาวยิวล้วนทราบแนวทางการดำเนินชีวิตของข้าพระบาทมาตั้งแต่เด็ก นับแต่ถือกำเนิดในบ้านเมืองของข้าพระบาทเองและทั้งในกรุงเยรูซาเล็มด้วย พวกเขาได้รู้จักข้าพระบาทมาเนิ่นนาน และหากพวกเขายินยอมพวกเขาก็สามารถเป็นพยานได้ว่าข้าพระบาทใช้ชีวิตตามนิกายที่เคร่งครัดที่สุดในศาสนาของพวกข้าพระบาทคือเป็นฟาริสี และบัดนี้ที่ข้าพระบาทถูกไต่สวนในวันนี้ก็เพราะข้าพระบาทมีความหวังในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับเหล่าบรรพบุรุษ เป็นพระสัญญาที่พวกข้าพระบาทสิบสองตระกูลคาดหวังว่าจะเป็นจริง ขณะพากเพียรปรนนิบัติพระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืน ข้าแต่กษัตริย์ เพราะความหวังนี้เองพวกยิวจึงกล่าวหาข้าพระบาท เหตุใดพวกท่านจึงเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะทรงให้คนตายเป็นขึ้นมา?

“ข้าพระบาทเองก็เคยเชื่อว่าควรทำทุกวิถีทางเท่าที่เป็นไปได้เพื่อต่อต้านพระนามของพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ และนั่นแหละคือสิ่งที่ข้าพระบาทได้ทำในกรุงเยรูซาเล็ม ข้าพระบาทได้จับประชากรของพระเจ้าหลายคนเข้าคุกโดยอาศัยสิทธิอำนาจของพวกหัวหน้าปุโรหิต และเมื่อพวกนั้นถูกฆ่าข้าพระบาทก็เห็นดีด้วย หลายครั้งข้าพระบาทไปตามธรรมศาลาต่างๆ เพื่อลงโทษคนพวกนั้นและพยายามบีบบังคับให้เขากล่าวคำหมิ่นประมาทพระเยซู ข้าพระบาทโกรธเกลียดเขายิ่งนักถึงกับตามไปข่มเหงพวกเขาที่เมืองต่างๆ ในดินแดนอื่นๆ

“ในการเดินทางคราวหนึ่ง ข้าพระบาทกำลังจะไปยังเมืองดามัสกัสโดยได้รับสิทธิอำนาจและการมอบหมายจากพวกหัวหน้าปุโรหิต ข้าแต่กษัตริย์ ประมาณเที่ยงวันขณะอยู่ระหว่างทางข้าพระบาทเห็นแสงสว่างจากฟ้าสวรรค์ แสงนั้นเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ส่องรอบข้าพระบาทกับเพื่อนร่วมทาง พวกข้าพระบาททั้งหมดล้มลงกับพื้น และข้าพระบาทได้ยินเสียงหนึ่งพูดกับข้าพระบาทเป็นภาษาอารเมค26:14 หรือภาษาฮีบรู ว่า ‘เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม? เป็นการยากที่เจ้าจะขัดขืนความประสงค์ของเรา26:14 ภาษากรีกว่าเป็นการยากที่เจ้าจะถีบปฏัก

“แล้วข้าพระบาทถามว่า ‘พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด?’

“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า ‘เราคือเยซูผู้ที่เจ้ากำลังข่มเหง บัดนี้จงลุกขึ้นยืนเถิด เราได้ปรากฏแก่เจ้าก็เพื่อแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้รับใช้และเป็นพยานถึงสิ่งที่เจ้าได้เห็นเกี่ยวกับเราและสิ่งที่เราจะสำแดงแก่เจ้า เราจะช่วยเจ้าให้รอดพ้นจากพี่น้องร่วมชาติของเจ้าเองและจากชาวต่างชาติ เราจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา เพื่อเปิดตาของพวกเขาและหันพวกเขาจากความมืดมาสู่ความสว่างและจากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษบาปและได้อยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยความเชื่อในเรา’

“นับแต่นั้น ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ข้าพระบาทจึงไม่ขัดขืนต่อนิมิตจากสวรรค์นั้น เริ่มแรก ข้าพระบาทประกาศแก่คนทั้งหลายในเมืองดามัสกัส จากนั้นแก่คนทั้งหลายในกรุงเยรูซาเล็มและทั่วแคว้นยูเดียและแก่ชาวต่างชาติด้วย ข้าพระบาทประกาศว่าพวกเขาควรกลับใจใหม่ หันมาหาพระเจ้า และพิสูจน์การกลับใจใหม่ด้วยการกระทำของตน ด้วยเหตุนี้เองพวกยิวจึงจับกุมข้าพระบาทที่ลานพระวิหารและพยายามจะฆ่าข้าพระบาท แต่เพราะพระเจ้าทรงช่วยข้าพระบาทมาจนถึงทุกวันนี้ข้าพระบาทจึงได้มายืนอยู่ที่นี่และเป็นพยานต่อทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าพระบาทไม่ได้พูดเรื่องอื่นใดนอกเหนือจากสิ่งที่บรรดาผู้เผยพระวจนะและโมเสสกล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้น คือที่พระคริสต์26:23 หรือพระเมสสิยาห์ จะต้องทนทุกข์ทรมานและจะทรงสำแดงความสว่างแก่ประชากรของพระองค์เองและแก่คนต่างชาติในฐานะที่ทรงเป็นผู้แรกซึ่งเป็นขึ้นจากตาย”

Read More of กิจการของอัครทูต 26