กิจการของอัครทูต 19:14-41 TNCV

กิจการของอัครทูต 19:14-41

บุตรชายเจ็ดคนของเสวาหัวหน้าปุโรหิตชาวยิวก็ทำเช่นนี้ วันหนึ่งวิญญาณชั่วตอบพวกเขาว่า “พระเยซูน่ะข้ารู้จักและข้าก็เคยได้ยินเรื่องเปาโลแต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?” แล้วคนที่มีวิญญาณชั่วสิงก็กระโจนเข้าใส่และเอาชนะพวกเขาทั้งหมด คนนั้นทุบตีพวกเขาจนต้องเผ่นหนีจากบ้านทั้งๆ ที่เปลือยกายและเลือดไหล

เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูชาวยิวและชาวกรีกในเมืองเอเฟซัสพวกเขาทั้งปวงพากันเกรงกลัวจับใจและพระนามขององค์พระเยซูเจ้าก็เป็นที่ยกย่องอย่างสูง บัดนี้หลายคนที่เชื่อมาสารภาพการกระทำที่ชั่วร้ายอย่างเปิดเผย คนที่ใช้เวทมนตร์คาถานำม้วนตำราของตนมาเผาทิ้งต่อหน้าสาธารณชน ตำราเหล่านั้นรวมแล้วคิดเป็นเงินถึง 50,000 แดรกมา19:19 1 แดรกมาคือเหรียญเงิน 1 เหรียญมีค่าเท่ากับค่าแรง 1 วัน โดยเหตุนี้พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงแพร่ออกไปอย่างกว้างไกลและเกิดผลมากยิ่งขึ้น

ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้เปาโลตกลงใจว่าจะไปกรุงเยรูซาเล็มโดยผ่านทางแคว้นมาซิโดเนียและอาคายา เขากล่าวว่า “หลังจากได้ไปที่นั่นแล้วเราต้องไปเยี่ยมกรุงโรมด้วย” เปาโลส่งผู้ช่วยของเขาสองคนคือทิโมธีกับเอรัสทัสไปแคว้นมาซิโดเนียขณะที่เขาอยู่ในแคว้นเอเชียต่ออีกหน่อยหนึ่ง

การจลาจลในเมืองเอเฟซัส

ครั้งนั้นเกิดเหตุวุ่นวายครั้งใหญ่เกี่ยวกับ “ทางนั้น” ช่างเงินคนหนึ่งชื่อเดเมตริอัสเป็นคนทำรูปจำลองสถานบูชาของเทวีอารเทมิสด้วยเงิน ซึ่งทำรายได้ให้พวกช่างฝีมือไม่น้อย เขาเรียกประชุมช่างเหล่านั้นกับคนงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาและกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ท่านย่อมทราบอยู่ว่าธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้เราอย่างมาก ท่านก็ได้เห็นและได้ยินที่เปาโลคนนี้ชักจูงผู้คนมากมายให้หลงทางทั้งในเอเฟซัสนี้กับทั่วแคว้นเอเชียก็ว่าได้ เขาพูดว่ารูปเคารพที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้เป็นเทพเจ้าเลย สิ่งนี้เป็นอันตรายเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้การค้าของเราเสียชื่อ ยังทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธาในวิหารของเทวีอารเทมิสผู้ยิ่งใหญ่ด้วย และเทวีเองที่ผู้คนกราบไหว้ทั่วแคว้นเอเชียและทั่วโลกจะถูกปล้นความยิ่งใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางไป”

เมื่อพวกเขาทั้งหลายได้ยินดังนั้นก็โกรธจัดและเริ่มตะโกนว่า “เทวีอารเทมิสของชาวเอเฟซัสนั้นยิ่งใหญ่!” ไม่ช้าทั่วทั้งเมืองก็โกลาหล ผู้คนจับกายอัสกับอาริสทารคัสผู้เป็นเพื่อนร่วมทางของเปาโลจากแคว้นมาซิโดเนียและพากันกรูเข้าไปในที่ซึ่งคนทั้งเมืองใช้ประชุมกัน เปาโลอยากจะแสดงตัวต่อหน้าฝูงชนแต่พวกสาวกไม่ยอม แม้แต่เจ้าหน้าที่บางคนของแคว้นนั้นซึ่งเป็นเพื่อนของเปาโลยังส่งข่าวมาขอร้องไม่ให้เขาเข้าไปในสถานที่นั้น

ที่ประชุมวุ่นวายมากบางคนตะโกนว่าอย่างนี้บางคนว่าอย่างนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปที่นั่นทำไม พวกยิวผลักอเล็กซานเดอร์ให้ออกไปข้างหน้าและบางคนในฝูงชนก็ตะโกนแนะว่าเขาควรพูดอะไร เขาโบกมือให้เงียบเพื่อจะแก้ต่างต่อหน้าประชาชน แต่เมื่อพวกนั้นเห็นว่าเขาเป็นยิวก็ร้องเป็นเสียงเดียวกันราวสองชั่วโมงว่า “เทวีอารเทมิสของชาวเอเฟซัสนั้นยิ่งใหญ่!”

เจ้าหน้าที่ของเมืองนั้นทำให้ฝูงชนเงียบแล้วกล่าวว่า “ชนชาวเอเฟซัส ใครๆ ก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเมืองเอเฟซัสคือผู้ดูแลวิหารของเทวีอารเทมิสผู้ยิ่งใหญ่ตลอดจนเทวรูปของพระนางซึ่งตกลงมาจากฟ้าสวรรค์? ฉะนั้นในเมื่อข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่อาจปฏิเสธได้ท่านทั้งหลายก็ควรนิ่งสงบ ไม่ทำอะไรวู่วาม พวกท่านนำตัวคนเหล่านี้มาที่นี่ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ได้ปล้นวิหารต่างๆ หรือลบหลู่เทวีของเรา แล้วถ้าเดเมตริอัสกับพวกพ้องช่างฝีมือมีเรื่องจะร้องทุกข์เกี่ยวกับใครคนใดคนหนึ่งศาลก็เปิดอยู่และผู้ตรวจการก็มี พวกเขาสามารถฟ้องร้องได้ หากท่านมีข้อหาอื่นใดก็ต้องตกลงกันในที่ประชุมตามกฎหมาย เหตุการณ์วันนี้ทำให้เราเสี่ยงต่อการตกเป็นผู้ก่อการจลาจลเพราะเราไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายความวุ่นวายครั้งนี้” หลังจากกล่าวเช่นนี้แล้วเขาก็ให้เลิกชุมนุม

Read More of กิจการของอัครทูต 19