2พงศ์กษัตริย์ 12:1-21, 2พงศ์กษัตริย์ 13:1-25, 2พงศ์กษัตริย์ 14:1-22 TNCV

2พงศ์กษัตริย์ 12:1-21

โยอาชทรงซ่อมแซมพระวิหาร

(2พศด.24:1-14; 24:23-27)

โยอาชขึ้นเป็นกษัตริย์ตรงกับปีที่เจ็ดของรัชกาลกษัตริย์เยฮู พระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็มอยู่สี่สิบปี ราชมารดาคือศิบียาห์จากเบเออร์เชบา โยอาชทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดหลายปีที่มีปุโรหิตเยโฮยาดาคอยถวายคำปรึกษา แต่สถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายยังไม่ถูกทำลาย ประชากรยังคงไปถวายเครื่องบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่น

โยอาชตรัสกับเหล่าปุโรหิตว่า “จงรวบรวมเงินที่ผู้คนนำมาถวายที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า คือเงินที่เรียกเก็บรายบุคคลจากการทำสำมะโนประชากร เงินถวายตามคำปฏิญาณ และเงินถวายตามความสมัครใจให้แก่พระวิหาร ให้ปุโรหิตทุกคนรับเงินจากผู้ดูแลรักษาเงินคนใดคนหนึ่ง แล้วใช้เงินนั้นซ่อมแซมพระวิหารส่วนที่ชำรุด”

แต่จนถึงปีที่ยี่สิบสามแห่งรัชกาลโยอาช บรรดาปุโรหิตก็ยังไม่ได้ซ่อมแซมพระวิหาร โยอาชจึงเรียกเยโฮยาดาและปุโรหิตอื่นๆ มาเข้าเฝ้าและตรัสถามว่า “เหตุใดท่านทั้งหลายจึงยังไม่ได้ซ่อมแซมพระวิหารส่วนที่ชำรุด? ต่อแต่นี้ไปอย่ารับเงินจากผู้ดูแลรักษาเงินอีกเลย แต่จงมอบไว้สำหรับการบูรณะซ่อมแซมพระวิหาร” บรรดาปุโรหิตจึงตกลงกันว่าจะไม่รับเงินจากประชาชนอีกต่อไป และจะไม่ดำเนินการซ่อมแซมพระวิหารเอง

ปุโรหิตเยโฮยาดาเจาะรูไว้ที่ฝาหีบใหญ่ และนำหีบมาตั้งไว้ที่ข้างขวาแท่นบูชา ตรงทางเข้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ปุโรหิตที่เฝ้าประตูจะนำเงินถวายทั้งหมดที่คนนำมาถวายที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าหย่อนลงในหีบ เมื่อใดก็ตามที่เห็นว่าในหีบมีเงินมากแล้ว ราชเลขาและมหาปุโรหิตจะนับเงินที่นำมาถวายในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเก็บใส่ถุง หลังจากจัดสรรเงินที่นับแล้วก็นำไปมอบให้ผู้ควบคุมการก่อสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจ่ายให้ช่างไม้ ช่างก่อสร้าง ช่างก่อ ช่างสกัดหิน เพื่อซื้อไม้ซุงและหินสกัด และเพื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการซ่อมแซมพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เงินถวายนี้ไม่ได้ใช้สำหรับทำอ่างเงิน กรรไกรตัดไส้ตะเกียง อ่างประพรม แตร หรือภาชนะเงินหรือทองในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่จ่ายให้กับคนงานเพื่อการซ่อมแซมพระวิหารเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีรายงานบัญชีจากผู้ควบคุมการก่อสร้างเหล่านี้ เพราะพวกเขาทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง ส่วนเงินที่นำมาถวายเป็นเครื่องบูชาลบมลทินและเครื่องบูชาไถ่บาปนั้นให้เป็นของปุโรหิต ไม่ต้องนำมาในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ครั้งนั้นกษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมมาโจมตีเมืองกัทและยึดเมืองไว้ได้ แล้วเคลื่อนทัพมุ่งหน้าจะมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็ม แต่กษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์นำสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ซึ่งบรรพบุรุษ คือเยโฮชาฟัท เยโฮรัม และกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งยูดาห์ได้ถวาย พร้อมทั้งสิ่งของที่โยอาชเองได้ถวาย รวมถึงทองคำทั้งหมดในคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและของพระราชวัง ส่งไปให้กษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัม ฮาซาเอลจึงถอนทัพจากเยรูซาเล็ม

เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของโยอาช และพระราชกิจทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ? ข้าราชการของโยอาชสมคบกันปลงพระชนม์พระองค์ที่เบธมิลโลบนเส้นทางจะไปสิลลา ผู้ปลงพระชนม์คือโยซาบาดบุตรชิเมอัท และเยโฮซาบาดบุตรโชเมอร์ โยอาชสิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้ร่วมกับบรรพบุรุษในเมืองดาวิด แล้วอามาซิยาห์โอรสของพระองค์ก็ขึ้นครองราชย์แทน

Read More of 2พงศ์กษัตริย์ 12

2พงศ์กษัตริย์ 13:1-25

กษัตริย์เยโฮอาหาสแห่งอิสราเอล

เยโฮอาหาสโอรสของเยฮูขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในสะมาเรียตรงกับปีที่ยี่สิบสามของรัชกาลกษัตริย์โยอาชโอรสของอาหัสยาห์แห่งยูดาห์ พระองค์ทรงครองราชย์อยู่สิบเจ็ดปี เยโฮอาหาสทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตามอย่างบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม พระองค์ไม่ได้ทรงเลิกทำบาปนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งนัก และทรงให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมและเบนฮาดัดราชโอรสเป็นเวลานาน

แล้วเยโฮอาหาสอธิษฐานวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังเพราะทรงทอดพระเนตรเห็นว่ากษัตริย์อารัมกดขี่ข่มเหงอิสราเอลยิ่งนัก องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงประทานผู้กอบกู้ซึ่งช่วยอิสราเอลพ้นจากอำนาจของอารัม ดังนั้นชนอิสราเอลจึงได้อยู่ในบ้านเรือนของตนเหมือนแต่ก่อน แต่พวกเขายังไม่ได้หันหนีจากบาปของราชวงศ์เยโรโบอัมซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม พวกเขายังคงดำเนินในบาปนั้น เสาเจ้าแม่อาเชราห์13:6 คือ สัญลักษณ์ของเจ้าแม่อาเชราห์ เช่นเดียวกับที่อื่นๆใน 2พงศ์กษัตริย์ยังคงอยู่ในสะมาเรีย

กองทัพของเยโฮอาหาสเหลือเพียงพลม้าห้าสิบคน รถม้าศึกสิบคัน และพลเดินเท้าหนึ่งหมื่นคน เนื่องจากถูกกษัตริย์อารัมทำลายจนเป็นเหมือนฝุ่นละอองเวลานวดข้าว

เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลเยโฮอาหาส พระราชกิจ และความสำเร็จทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? เยโฮอาหาสทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ที่สะมาเรีย แล้วเยโฮอาช13:9 ภาษาฮีบรูว่าโยอาชเป็นอีกรูปหนึ่งของเยโฮอาชเช่นเดียวกับข้อ 12,13,14,25; 14:1,13,23,27โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอล

เยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในสะมาเรีย ตรงกับปีที่สามสิบเจ็ดของรัชกาลกษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์ พระองค์ทรงครองราชย์สิบหกปี เยโฮอาชทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่ได้เลิกทำบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม พระองค์ยังคงดำเนินในบาปนั้น

เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของเยโฮอาช พระราชกิจ และความสำเร็จทั้งปวง รวมทั้งการสงครามกับกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? เยโฮอาชทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในสะมาเรียร่วมกับบรรดากษัตริย์อิสราเอล แล้วเยโรโบอัมขึ้นครองราชย์แทน

เมื่อเอลีชาป่วยหนักใกล้ตาย กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลเสด็จมาเยี่ยมและทรงกันแสงต่อหน้าเขา และคร่ำครวญว่า “ท่านบิดา! ท่านบิดาของข้าพเจ้า! ผู้เป็นราชรถและพลม้าแห่งอิสราเอล!”

เอลีชาสั่งว่า “เอาคันธนูกับลูกศรมาสิ” เยโฮอาชก็ทรงทำตาม เขาบอกกษัตริย์อิสราเอลว่า “หยิบธนูขึ้นมาเถิด” เมื่อกษัตริย์ทรงหยิบธนูแล้ว เอลีชาก็วางมือบนพระหัตถ์ของกษัตริย์

เขากล่าวว่า “จงเปิดหน้าต่างด้านตะวันออก” พระองค์ก็ทรงเปิด เอลีชาสั่งว่า “จงยิงออกไป!” พระองค์ก็ทรงยิง เอลีชาประกาศว่า “ลูกศรแห่งชัยชนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ลูกศรแห่งชัยชนะเหนืออารัม! เจ้าจะทำลายชาวอารัมที่อาเฟคจนหมดสิ้น”

แล้วเขากล่าวว่า “หยิบลูกศรขึ้นมา” กษัตริย์ก็ทรงหยิบ เอลีชาสั่งว่า “ฟาดลงกับพื้น” พระองค์ก็ทรงฟาดสามครั้งแล้วก็หยุด คนของพระเจ้าไม่พอใจและกล่าวว่า “ท่านน่าจะฟาดพื้นสักห้าหรือหกครั้ง จะได้ฟาดฟันอารัมให้สิ้นไป นี่ท่านจะชนะอารัมแค่สามครั้งเท่านั้น”

เอลีชาสิ้นชีวิตและถูกฝังไว้

ครั้งนั้นกองโจรของชาวโมอับเคยมาบุกรุกดินแดนทุกฤดูใบไม้ผลิ ครั้งหนึ่งคนอิสราเอลกำลังฝังร่างของคนคนหนึ่ง ทันทีที่เห็นกองโจรก็โยนร่างเข้าไปในอุโมงค์ฝังศพของเอลีชา เมื่อร่างนั้นแตะกับโครงกระดูกของเอลีชาก็กลับมีชีวิตลุกขึ้นยืน

กษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมกดขี่ข่มเหงอิสราเอลตลอดรัชกาลของเยโฮอาหาส แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกรุณาพวกเขา ทรงสงสารและทรงห่วงใยพวกเขาเพราะเห็นแก่พันธสัญญาที่ทรงให้ไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ แม้บัดนี้ก็ไม่ได้ทรงประสงค์จะทำลายหรือเนรเทศพวกเขาให้พ้นพระพักตร์ไป

กษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมสิ้นพระชนม์ เบนฮาดัดโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน แล้วเยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสทรงยึดหัวเมืองต่างๆ คืนจากเบนฮาดัดโอรสของฮาซาเอลซึ่งยึดไปตั้งแต่สมัยเยโฮอาหาสผู้เป็นราชบิดา เยโฮอาชรบชนะเบนฮาดัดสามครั้ง ดังนั้นพระองค์จึงได้หัวเมืองอิสราเอลคืนมา

Read More of 2พงศ์กษัตริย์ 13

2พงศ์กษัตริย์ 14:1-22

กษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์

(2พศด.25:1-4,11-12,17—26:2)

อามาซิยาห์โอรสกษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์ขึ้นครองราชย์ตรงกับปีที่สองของรัชกาลกษัตริย์เยโฮอาช โอรสกษัตริย์เยโฮอาหาสแห่งอิสราเอล ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุ 25 พรรษา พระองค์ทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม 29 ปี ราชมารดาคือเยโฮอัดดีนจากเยรูซาเล็ม อามาซิยาห์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า แม้จะไม่เทียบเท่าดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษ พระองค์ทรงดำเนินตามแบบอย่างทั้งสิ้นของโยอาชราชบิดา แต่ไม่ได้ทำลายสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย ประชากรยังคงถวายเครื่องบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่น

ทันทีที่อามาซิยาห์ทรงกุมอำนาจเหนือราชอาณาจักร ก็ทรงประหารชีวิตข้าราชสำนักที่ปลงพระชนม์พระราชบิดาซึ่งเป็นกษัตริย์ แต่ไม่ได้ประหารลูกของเขาตามที่เขียนไว้ในหนังสือบทบัญญัติของโมเสสซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งไว้ว่า “อย่าประหารบิดาเพราะบาปของบุตร หรือประหารบุตรเพราะบาปของบิดา แต่ละคนจะต้องตายเพราะบาปของตนเอง”14:6 ฉธบ.24:16

อามาซิยาห์คือผู้พิชิตชาวเอโดมหนึ่งหมื่นคนในหุบเขาเกลือ ทรงตีเมืองเสลาได้ และเปลี่ยนชื่อเป็นโยกเธเอล ซึ่งยังคงเรียกกันอยู่จนทุกวันนี้

แล้วอามาซิยาห์ส่งผู้สื่อสารไปถึงเยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสซึ่งเป็นโอรสกษัตริย์เยฮูแห่งอิสราเอลท้าทายว่า “จงออกมาเผชิญหน้ากัน”

แต่กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลทรงตอบกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ว่า “ต้นหนามในเลบานอนส่งข่าวมาถึงต้นสนซีดาร์ในเลบานอนว่า ‘ยกลูกสาวของท่านให้แต่งงานกับลูกชายของข้าพเจ้าเถิด’ แล้วมีสัตว์ป่าตัวหนึ่งในเลบานอนมาเหยียบย่ำต้นหนามนั้นป่นปี้ ท่านพิชิตเอโดมได้ก็เลยผยอง ขอเชิญภาคภูมิใจในชัยชนะไปเถิด แต่จงอยู่กับบ้าน! จะแกว่งเท้าหาเสี้ยนไปทำไม ทำไมหาเรื่องให้ตัวท่านเองและยูดาห์ย่อยยับไปด้วย?”

แต่ว่าอามาซิยาห์ไม่ทรงฟัง กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลจึงทรงบุกเข้าโจมตี และมาเผชิญหน้ากับกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ที่เบธเชเมชในยูดาห์ แล้วยูดาห์ก็ถูกอิสราเอลรุกไล่ ทุกคนพ่ายหนีกลับบ้านของตน กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลทรงจับกุมกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ซึ่งเป็นโอรสของโยอาชผู้เป็นโอรสของอาหัสยาห์ได้ที่เบธเชเมช เยโฮอาชเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม และทรงทลายกำแพงเมืองเยรูซาเล็มตั้งแต่ประตูเอฟราอิมจนถึงประตูมุมเป็นระยะทาง 400 ศอก14:13 คือ ประมาณ 180 เมตร เยโฮอาชทรงริบเงินและทองทั้งหมดตลอดจนเครื่องใช้ไม้สอยทุกชิ้นที่พบในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและในคลังหลวง พร้อมทั้งทรงจับตัวประกันไป แล้วเสด็จกลับสู่สะมาเรีย

เหตุการณ์ต่างๆ ในรัชกาลเยโฮอาช พระราชกิจ และความสำเร็จทั้งปวง รวมทั้งสงครามกับกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? เยโฮอาชทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในสะมาเรียร่วมกับกษัตริย์องค์อื่นๆ ของอิสราเอล แล้วเยโรโบอัมผู้เป็นโอรสขึ้นครองราชย์แทน

อามาซิยาห์โอรสกษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์มีพระชนม์ยาวนานกว่าเยโฮอาชโอรสกษัตริย์เยโฮอาหาสแห่งอิสราเอลสิบห้าปี เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของอามาซิยาห์มีบันทึกในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?

มีผู้คิดร้ายหมายปลงพระชนม์อามาซิยาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จึงเสด็จหนีไปยังเมืองลาคีช แต่ผู้คิดร้ายเหล่านั้นส่งคนตามไปปลงพระชนม์พระองค์ที่นั่น พระศพถูกนำขึ้นหลังม้ากลับมาและถูกฝังไว้ในกรุงเยรูซาเล็มร่วมกับเหล่าบรรพบุรุษในเมืองดาวิด

แล้วชาวยูดาห์แต่งตั้งอาซาริยาห์14:21 มีอีกชื่อหนึ่งว่าอุสซียาห์ผู้มีพระชนมายุสิบหกพรรษาขึ้นเป็นกษัตริย์แทนอามาซิยาห์ราชบิดา พระองค์ทรงเป็นผู้บูรณะเมืองเอลัทและยึดคืนมาเป็นของยูดาห์ หลังจากที่อามาซิยาห์ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้ว

Read More of 2พงศ์กษัตริย์ 14