2พงศาวดาร 5:2-14, 2พงศาวดาร 6:1-42, 2พงศาวดาร 7:1-10 TNCV

2พงศาวดาร 5:2-14

อัญเชิญหีบพันธสัญญาเข้าสู่พระวิหาร

(1พกษ.8:1-21)

จากนั้นโซโลมอนทรงเรียกบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอล หัวหน้าเผ่าต่างๆ และหัวหน้าครอบครัวทั้งหมดของชนอิสราเอลมาเข้าเฝ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากศิโยนเมืองดาวิด แล้วผู้ชายอิสราเอลทุกคนก็พากันมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ในช่วงเทศกาลในเดือนที่เจ็ด

เมื่อผู้อาวุโสทั้งปวงของอิสราเอลมาถึงแล้ว คนเลวีก็ยกหีบพันธสัญญาขึ้น บรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นคนเลวีหามหีบมา พร้อมทั้งเต็นท์นัดพบ และภาชนะเครื่องใช้อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงในนั้น กษัตริย์โซโลมอนและชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวงที่มาชุมนุมกันหน้าหีบพันธสัญญาได้ถวายแกะและวัวเป็นเครื่องบูชาจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน

จากนั้นปุโรหิตอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่สถานนมัสการชั้นในของพระวิหารคืออภิสุทธิสถาน และตั้งไว้ใต้ปีกของเครูบ เครูบทั้งสองกางปีกเหนือที่ตั้งหีบพันธสัญญาและปกเหนือหีบกับคานหาม คานหามซึ่งยื่นออกมาจากหีบนี้ยาวมากจนมองเห็นปลายได้จากด้านหน้าของสถานนมัสการชั้นใน แต่มองไม่เห็นจากด้านนอกของวิสุทธิสถาน และคานนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ ในหีบนั้นไม่มีสิ่งใดนอกจากศิลาสองแผ่นซึ่งโมเสสได้ใส่ไว้เมื่ออยู่ที่ภูเขาโฮเรบ ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับชนอิสราเอลหลังจากพวกเขาออกมาจากอียิปต์

ปุโรหิตทั้งหลายจึงออกมาจากวิสุทธิสถาน ปุโรหิตทั้งหมดในที่นั้นได้ชำระตนให้บริสุทธิ์แล้ว ไม่ว่าจะประจำอยู่หมู่เหล่าใด คนเลวีทั้งปวงซึ่งเป็นนักดนตรีได้แก่ อาสาฟ เฮมาน เยดูธูนและบุตรกับญาติพี่น้องของพวกเขาแต่งกายด้วยผ้าลินินเนื้อดียืนอยู่ทางทิศตะวันออกของแท่นบูชา พวกเขาตีฉาบ บรรเลงพิณใหญ่และพิณเขาคู่ มีปุโรหิต 120 คนเป่าแตร นักแตรและนักร้องได้ประสานกันอย่างกลมกลืนเป็นเสียงเดียวกัน ถวายสรรเสริญและขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยเสียงแตร ฉาบ และเครื่องดนตรีต่างๆ พวกเขาเปล่งเสียงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและร้องเพลงว่า

“พระองค์ประเสริฐ

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

แล้วมีเมฆมาปกคลุมทั่วพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า บรรดาปุโรหิตไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เพราะเมฆนั้น เนื่องจากพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมอยู่ทั่วทั้งพระวิหารของพระเจ้า

Read More of 2พงศาวดาร 5

2พงศาวดาร 6:1-42

แล้วโซโลมอนตรัสว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ว่าพระองค์จะประทับในเมฆทึบ ข้าพระองค์ได้สร้างพระวิหารอันสง่างามถวายเพื่อพระองค์จะประทับอยู่นิรันดร์”

กษัตริย์ทรงหันกลับมาตรัสอวยพรชุมนุมประชากรอิสราเอลซึ่งยืนอยู่ที่นั่น แล้วตรัสว่า

“สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงกระทำตามพระสัญญาที่ได้ตรัสไว้กับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า ‘นับแต่วันที่เรานำประชากรของเราออกมาจากอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองของเผ่าใดเผ่าหนึ่งของอิสราเอลเพื่อสร้างวิหารขึ้นสถาปนานามของเรา หรือเลือกใครขึ้นมาเป็นผู้นำปกครองอิสราเอลประชากรของเรา แต่บัดนี้เราได้เลือกเยรูซาเล็มเป็นที่สถาปนานามของเรา และได้เลือกดาวิดให้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา’

“ดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าตั้งพระทัยจะสร้างพระวิหารถวายแด่พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับดาวิดราชบิดาว่า ‘ที่เจ้ามีใจจะสร้างวิหารเพื่อนามของเรานั้นก็ดีอยู่ ถึงกระนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้สร้างวิหาร แต่บุตรชายผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าจะเป็นผู้สร้างวิหารเพื่อนามของเรา’

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำตามพระสัญญาคือ ให้ข้าพเจ้าได้ครองราชบัลลังก์อิสราเอลสืบต่อจากดาวิดราชบิดาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระวิหารนี้เพื่อพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล เป็นที่ตั้งหีบพันธสัญญา ซึ่งภายในบรรจุพันธสัญญาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้ไว้กับประชากรอิสราเอล”

โซโลมอนอธิษฐานถวายพระวิหาร

(1พกษ.8:22-53; สดด.132:8-10)

จากนั้นโซโลมอนประทับยืนอยู่หน้าแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งหมดและทรงชูพระหัตถ์ขึ้น พระองค์ได้ทรงสร้างยกพื้นทองสัมฤทธิ์กว้างยาวด้านละ 5 ศอก6:13 คือ ประมาณ 2.3 เมตร และสูง 3 ศอก6:13 คือ ประมาณ 1.3 เมตร ตั้งไว้ตรงกลางลานชั้นนอก พระองค์ประทับยืนอยู่บนยกพื้น จากนั้นทรงคุกเข่าลงต่อหน้าชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวง แล้วทรงชูพระหัตถ์ขึ้นฟ้าสวรรค์ พระองค์ตรัสว่า

“ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทั่วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกไม่มีพระอื่นใดเสมอเหมือนพระองค์ ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งยังคงดำเนินในทางของพระองค์อย่างสุดใจ พระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญาต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาด้วยพระโอษฐ์และทรงกระทำให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ดังเช่นทุกวันนี้

“และบัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอทรงรักษาคำมั่นสัญญาที่ทรงมีต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ที่ว่า ‘หากวงศ์วานของเจ้าใส่ใจทำทุกอย่างและดำเนินอยู่ต่อหน้าเราตามบทบัญญัติของเราเหมือนที่เจ้าได้ทำ เจ้าก็จะไม่ขาดคนที่จะขึ้นครองบัลลังก์อิสราเอลต่อหน้าเรา’ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล บัดนี้ขอทรงโปรดให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ทรงให้ไว้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด

“แต่พระเจ้าจะประทับในโลกนี้ร่วมกับมนุษย์จริงๆ หรือ? ในเมื่อฟ้าสวรรค์สูงสุดยังไม่อาจรับพระองค์ไว้ได้ พระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นจะยิ่งเล็กน้อยกว่านั้นสักเท่าใด! ถึงกระนั้นข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและตอบคำวิงวอนขอพระเมตตาซึ่งผู้รับใช้กำลังกราบทูลอยู่ต่อหน้าพระองค์ในวันนี้ ขอพระองค์ทอดพระเนตรพระวิหารแห่งนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน พระวิหารซึ่งพระองค์ตรัสว่าจะเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ ขอพระองค์สดับฟังเมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ เมื่อผู้รับใช้และประชากรอิสราเอลของพระองค์อธิษฐานวิงวอนตรงต่อที่แห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และเมื่อทรงสดับแล้ว ขอทรงโปรดยกโทษ

“เมื่อผู้ใดทำผิดต่อเพื่อนบ้านและต้องสาบาน และเขามาสาบานหน้าแท่นบูชาในพระวิหารนี้ ขอพระองค์ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และวินิจฉัย ขอทรงตัดสินความระหว่างผู้รับใช้ทั้งหลายของพระองค์ ขอทรงลงโทษคนผิดและให้สิ่งที่เขาทำตกแก่ตัวเขาเอง ส่วนผู้บริสุทธิ์ขอทรงประกาศว่าเขาไม่ผิด เป็นอันพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

“เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ทำบาปต่อพระองค์และถูกศัตรูพิชิต หากเขาหันกลับมาหาพระองค์ ร้องทูลออกพระนามของพระองค์ อธิษฐานและทูลวิงวอนต่อพระองค์ในวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ และอภัยบาปของเหล่าประชากรอิสราเอลของพระองค์ และนำเขากลับมายังดินแดนซึ่งพระองค์ประทานแก่พวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขา

“เมื่อท้องฟ้าถูกปิดและไม่มีฝนเพราะประชากรของพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ ร้องทูลออก พระนามของพระองค์ และหันจากบาปของตนเพราะพระองค์ได้ทรงลงโทษเขาแล้ว ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และอภัยบาปของประชากรอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงสอนหนทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และประทานฝนแก่ดินแดนซึ่งทรงยกให้เป็นมรดกของเหล่าประชากร

“หากเกิดการกันดารอาหารหรือโรคระบาดในดินแดน หรือโรคพืช หรือโรคราน้ำค้าง หรือตั๊กแตนบุกมาทำลาย หรือเหล่าศัตรูมาล้อมเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือภัยพิบัติใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น เมื่อมีคำอธิษฐานหรือคำทูลวิงวอนจากผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่ประชากรอิสราเอลของพระองค์ ซึ่งแต่ละคนย่อมรู้ถึงความทุกข์ใจและความเจ็บปวดของตนดี และชูมือขึ้นตรงต่อพระวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ ขอทรงอภัยโทษและทรงจัดการกับแต่ละคนตามการกระทำของเขาเนื่องจากพระองค์ทรงรู้จักจิตใจของเขา (เพราะพระองค์เท่านั้นทรงทราบจิตใจมนุษย์) เพื่อเขาจะยำเกรงพระองค์และดำเนินในทางของพระองค์ตลอดเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเรา

“ส่วนคนต่างชาติซึ่งไม่ใช่อิสราเอลประชากรของพระองค์ แต่ได้มาจากแดนไกลเนื่องด้วยพระนามอันยิ่งใหญ่ พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระกรที่เหยียดออกของพระองค์ เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ และขอทรงตอบคำอธิษฐานที่คนต่างชาติผู้นั้นได้ทูลขอต่อพระองค์ เพื่อมวลประชาชาติในโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์และยำเกรงพระองค์ เช่นเดียวกับอิสราเอลประชากรของพระองค์เอง และรู้ว่าข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศแห่งนี้เพื่อพระนามของพระองค์

“เมื่อพระองค์ทรงใช้ประชากรของพระองค์ออกไปรบกับศัตรูไม่ว่าที่ใด และเขาอธิษฐานต่อพระองค์มุ่งตรงมายังนครนี้ที่ทรงเลือกสรรไว้ และยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำทูลวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์และขอทรงช่วยเหลือเขา

“หากพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ (เพราะมีใครบ้างที่ไม่ทำบาปเลย) แล้วพระองค์ทรงพระพิโรธเขา และยอมให้ศัตรูพิชิตเขานำเขาไปเป็นเชลยในต่างแดนไม่ว่าใกล้หรือไกล และถ้าเขากลับใจได้ในแดนเชลย สำนึกผิด ทูลวิงวอนต่อพระองค์ในดินแดนนั้น และทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพระองค์ทั้งหลายผิดไปแล้วและได้ประพฤติชั่ว’ และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ก็ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงช่วยเหลือเขาและอภัยโทษแก่ประชากรของพระองค์ผู้ได้ทำบาปต่อพระองค์

“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ บัดนี้ขอทรงทอดพระเนตรและเงี่ยพระกรรณฟังคำอธิษฐานทั้งปวงที่ทูลพระองค์ในที่แห่งนี้

“และบัดนี้ข้าแต่พระเจ้าพระยาห์เวห์ ขอทรงลุกขึ้นและเสด็จมายังที่ประทับของพระองค์เถิด

ทั้งพระองค์และหีบพันธสัญญาแห่งฤทธานุภาพของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าพระยาห์เวห์ ขอให้บรรดาปุโรหิตของพระองค์สวมความรอดเป็นอาภรณ์

ขอให้ประชากรของพระองค์ปีติยินดีในความประเสริฐของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าพระยาห์เวห์ ขออย่าทรงปฏิเสธผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้

ขอทรงระลึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทรงสัญญาไว้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์”

Read More of 2พงศาวดาร 6

2พงศาวดาร 7:1-10

การถวายพระวิหาร

(1พกษ.8:62-66)

เมื่อโซโลมอนทรงอธิษฐานจบ ก็มีไฟจากฟ้าสวรรค์ลงมาเผาของถวายและเครื่องเผาบูชา และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพระวิหาร ปุโรหิตไม่สามารถเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ เพราะพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพระวิหาร เมื่อชนอิสราเอลทั้งปวงเห็นไฟลงมาและพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพระวิหาร ก็คุกเข่ากราบลงกับพื้น นมัสการและขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า ทูลว่า

“พระองค์ประเสริฐ

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

จากนั้นกษัตริย์และปวงประชากรก็ถวายเครื่องบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์โซโลมอนทรงถวายวัวผู้ 22,000 ตัว กับแกะและแพะ 120,000 ตัว เป็นอันว่ากษัตริย์และปวงประชากรได้ถวายพระวิหารของพระเจ้า ปุโรหิตทั้งหลายเข้าประจำหน้าที่ เช่นเดียวกับคนเลวีทั้งหลายซึ่งขับร้องบทเพลงขอบพระคุณว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์” โดยใช้เครื่องดนตรีขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งกษัตริย์ดาวิดทรงทำขึ้นเพื่อใช้ในการสรรเสริญและขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าปุโรหิตเป่าแตรอยู่ด้านตรงข้ามคนเลวี ส่วนประชากรทั้งปวงยืนอยู่

โซโลมอนทรงประกอบพิธีชำระส่วนกลางของลานหน้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและถวายเครื่องเผาบูชา และไขมันของเครื่องสันติบูชาที่นั่น เพราะแท่นทองสัมฤทธิ์ที่ทำขึ้นนั้นเล็กเกินไปสำหรับเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และไขมันของเครื่องบูชา

ดังนั้นโซโลมอนทรงร่วมพิธีฉลองกับประชากรอิสราเอลตลอดเจ็ดวัน มหาชนจากทั่วอิสราเอลจากเมืองเลโบฮามัท7:8 หรือทางเข้าสู่ฮามัทจดลำน้ำแห่งอียิปต์ ในวันที่แปดมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เพราะพวกเขาได้ฉลองการถวายแท่นบูชาเจ็ดวัน และฉลองเทศกาลอีกเจ็ดวัน แล้วในวันที่ยี่สิบสามของเดือนที่เจ็ด โซโลมอนทรงส่งประชาชนกลับบ้านด้วยความสุขและชื่นชมยินดีในสิ่งดีงามต่างๆ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อดาวิดและโซโลมอนและอิสราเอลประชากรของพระองค์

Read More of 2พงศาวดาร 7