1ซามูเอล 8:1-22, 1ซามูเอล 9:1-27, 1ซามูเอล 10:1-8 TNCV

1ซามูเอล 8:1-22

อิสราเอลขอกษัตริย์

เมื่อซามูเอลชราแล้ว เขาแต่งตั้งบุตรชายขึ้นเป็นผู้นำ8:1 หรือผู้วินิจฉัยของอิสราเอล บุตรชายหัวปีของเขาชื่อโยเอล บุตรคนที่สองชื่ออาบียาห์ ทั้งสองทำหน้าที่อยู่ในเบเออร์เชบา แต่บุตรทั้งสองของเขาไม่ดำเนินตามอย่างบิดาเพราะโลภเงินทอง รับสินบน และบิดเบือนความยุติธรรม

ผู้อาวุโสทั้งหมดของอิสราเอลจึงรวมตัวกันมาพบซามูเอลที่รามาห์ พวกเขากล่าวว่า “ท่านชราแล้ว บุตรของท่านก็ไม่ได้ดำเนินตามอย่างท่าน บัดนี้ขอให้แต่งตั้งกษัตริย์ขึ้นมานำ8:5 โดยปกติแปลว่า วินิจฉัย เช่นเดียวกับข้อ 6 และ 20เราเหมือนประชาชาติอื่นๆ ทั้งปวง”

แต่เมื่อเขากล่าวว่า “ขอแต่งตั้งกษัตริย์ขึ้นมานำเรา” ซามูเอลก็รู้สึกไม่พอใจ จึงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงฟังทุกสิ่งที่พวกเขาบอกเถิด เพราะพวกเขาไม่ได้ทอดทิ้งเจ้าแต่ทอดทิ้งเรา และไม่ต้องการให้เราเป็นกษัตริย์ของพวกเขา นับตั้งแต่เราพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์จวบจนบัดนี้ พวกเขาทอดทิ้งเราอยู่เสมอและหันไปปรนนิบัติพระอื่นๆ พวกเขาก็กำลังทำกับเจ้าอย่างเดียวกัน บัดนี้จงรับฟังพวกเขา แต่จงกำชับเตือนพวกเขาให้รู้ว่ากษัตริย์ที่จะมาปกครองพวกเขานั้นจะทำสิ่งใดบ้าง”

ซามูเอลจึงแจ้งพระดำรัสทั้งหมดขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่บรรดาประชาชนที่ขอให้มีกษัตริย์ เขากล่าวว่า “กษัตริย์ที่จะปกครองพวกท่านจะทำดังนี้คือ เขาจะเกณฑ์บรรดาบุตรชายของท่านให้เป็นพลรถรบ พลม้า และวิ่งนำขบวนรถม้าศึกของเขา เขาจะให้บางคนเป็นนายทัพดูแลกองพัน กองห้าสิบ ให้บางคนไถนาและเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ของเขา ให้บางคนทำอาวุธและอุปกรณ์รถม้าศึกของเขา เขาจะเกณฑ์บุตรสาวของพวกท่านไปทำครัว ทำขนม และปรุงน้ำหอม เขาจะริบพืชผลส่วนที่ดีที่สุดจากทุ่งนา จากสวนองุ่น และสวนมะกอกของท่าน แล้วยกให้ข้าราชบริพารของเขา เขาจะยึดหนึ่งในสิบของพืชผลและเหล้าองุ่นของท่านไปแจกจ่ายให้บรรดาข้าราชบริพาร เขาจะเกณฑ์คนรับใช้ชายหญิงของท่าน และเอาวัวลาที่ดีที่สุดของท่านไปใช้สอย เขาจะเรียกเอาหนึ่งในสิบจากฝูงสัตว์เลี้ยงของท่าน และท่านเองจะตกเป็นทาสของเขา เมื่อถึงวันนั้นท่านจะวอนขอการปลดปล่อยจากกษัตริย์ที่ท่านเลือก แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงตอบ”

แต่ประชากรไม่ฟังคำเตือนของซามูเอล พวกเขายืนกรานว่า “เราต้องการกษัตริย์ปกครอง เราจะได้เหมือนชาติอื่นๆ ทั้งปวงที่มีกษัตริย์นำไปรบทัพจับศึก”

ฉะนั้นซามูเอลจึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าตามเนื้อความที่ประชากรได้กล่าว องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงฟังเขาและตั้งกษัตริย์ให้เขา”

ซามูเอลจึงกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า “ทุกคนจงกลับไปยังเมืองของตน”

Read More of 1ซามูเอล 8

1ซามูเอล 9:1-27

ซามูเอลเจิมตั้งซาอูล

มีชายเผ่าเบนยามินคนหนึ่งซึ่งเป็นคนมีฐานะชื่อคีช เป็นบุตรอาบีเอล ผู้เป็นบุตรเศโรร์ ผู้เป็นบุตรเบโครัท ผู้เป็นบุตรอาฟียาห์แห่งเบนยามิน บุตรชายคนหนึ่งของเขาชื่อซาอูล เป็นคนสง่างามที่สุดในอิสราเอล เขาสูงกว่าคนอื่นๆ ราวหนึ่งช่วงศีรษะ

วันหนึ่งฝูงลาของคีชบิดาของซาอูลหายไป เขาจึงสั่งซาอูลบุตรชายว่า “จงออกตามหาลา และเอาคนรับใช้คนหนึ่งไปด้วย” ทั้งสองเดินทางทั่วแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ผ่านดินแดนชาลิชา ชาอาลิม และทั่วเขตเบนยามินแต่ก็ไม่พบลาเลย

เมื่อมาถึงดินแดนศูฟ ซาอูลพูดกับคนรับใช้ที่มาด้วยว่า “กลับบ้านกันเถอะ เกรงว่าป่านนี้พ่อคงจะเลิกห่วงลา หันมากังวลใจเรื่องเราแทน”

แต่คนรับใช้นั้นตอบว่า “ดูเถิด ในเมืองนี้มีคนของพระเจ้าอยู่คนหนึ่ง ผู้คนเคารพนับถือมาก เขากล่าวอะไรก็เป็นไปตามนั้นทุกประการ เราไปหาเขากันเถอะ เขาอาจบอกเราได้ว่าควรไปทางไหน”

ซาอูลกล่าวกับคนรับใช้ว่า “หากเราไป เราจะให้อะไรเขาได้บ้าง? อาหารในถุงเสบียงของเราก็หมดแล้ว เราไม่มีของที่จะมอบให้คนของพระเจ้า เรามีอะไรบ้าง?”

คนรับใช้ตอบว่า “ข้าพเจ้ามีเงินอยู่หนึ่งในสี่เชเขล9:8 1 เชเขล คือเงินหนักประมาณ 11.5 กรัม มีค่าเท่ากับค่าแรงสองเดือนจะมอบให้คนของพระเจ้า เพื่อเขาจะบอกทางแก่เรา” (ในอิสราเอลสมัยนั้นหากมีใครจะไปทูลถามจากพระเจ้า เขาจะพูดว่า “ให้เราไปหาผู้ทำนายกันเถิด” เพราะผู้เผยพระวจนะในปัจจุบันเคยถูกเรียกว่าผู้ทำนาย)

ซาอูลกล่าวกับคนรับใช้ว่า “ดีแล้ว ให้เราไปกันเถิด” พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังเมืองที่คนของพระเจ้าอยู่

เมื่อพวกเขาขึ้นเนินเขาเพื่อไปยังเมืองนั้นก็พบพวกหญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ จึงถามว่า “ผู้ทำนายอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”

หญิงสาวตอบว่า “อยู่เจ้าข้า เขาเพิ่งล่วงหน้าไป รีบๆ เถิด เขาเพิ่งมาถึงเมืองของเราวันนี้เอง เพราะผู้คนจะถวายเครื่องบูชาบนสถานสูง เมื่อพวกท่านไปถึงตัวเมืองก็จะพบเขาก่อนที่เขาจะขึ้นไปรับประทานอาหารบนสถานสูง คนทั้งหลายจะไม่เริ่มรับประทานจนกว่าเขาจะไปถึงเพราะเขาต้องอวยพรเครื่องบูชา หลังจากนั้นคนที่ได้รับเชิญจึงจะรับประทาน พวกท่านรีบไปตอนนี้จะได้พบแน่”

คนทั้งสองจึงไป ขณะกำลังเดินเข้าเมือง พวกเขาก็พบซามูเอลกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเขาตามทางขึ้นไปสถานสูง

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สำแดงแก่ซามูเอลตั้งแต่วันก่อนที่ซาอูลจะมาถึงว่า “วันพรุ่งนี้เวลาประมาณนี้ เราจะส่งชายคนหนึ่งจากเขตแดนเบนยามินมาหาเจ้า จงเจิมคนนั้นให้เป็นผู้นำอิสราเอลประชากรของเรา เขาจะช่วยเหล่าประชากรให้รอดพ้นจากเงื้อมมือชาวฟีลิสเตีย เราเอ็นดูสงสารประชากรของเรา เพราะเสียงร่ำร้องของพวกเขามาถึงเราแล้ว”

เมื่อซามูเอลเห็นซาอูล องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “คนนี้แหละที่เราบอกเจ้าไว้ เขาจะปกครองประชากรของเรา”

ซาอูลเดินเข้ามาหาซามูเอลที่ประตูเมืองและกล่าวว่า “ช่วยบอกทางไปบ้านผู้ทำนายด้วยเถิด”

ซามูเอลตอบว่า “ข้าพเจ้านี่แหละเป็นผู้ทำนาย เชิญนำหน้าข้าพเจ้าขึ้นไปยังสถานสูง เพราะวันนี้ท่านจะรับประทานอาหารกับข้าพเจ้า แล้วพรุ่งนี้เช้าข้าพเจ้าจะบอกทุกอย่างที่อยู่ในใจของท่านและจะให้ท่านไป ส่วนฝูงลาที่หายไปเมื่อสามวันก่อนนั้น ไม่ต้องห่วง เขาพบแล้ว ใครเล่าที่อิสราเอลปรารถนาเป็นอย่างมาก? ก็คือตัวท่านและครอบครัวของบิดาของท่านนั่นเอง”

ซาอูลตอบว่า “แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นคนเบนยามินซึ่งเป็นเผ่าเล็กน้อยที่สุดของอิสราเอลไม่ใช่หรือ? และตระกูลของข้าพเจ้าก็เล็กที่สุดในบรรดาตระกูลในเผ่าเบนยามินไม่ใช่หรือ? เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าพเจ้าเช่นนั้น?”

ซามูเอลจึงนำซาอูลกับคนรับใช้เข้าไปในห้องโถง และให้นั่งหัวโต๊ะท่ามกลางแขกรับเชิญซึ่งมีราวสามสิบคน ซามูเอลสั่งพ่อครัวว่า “จงนำเนื้อชิ้นที่เราบอกให้เจ้าเก็บไว้ต่างหากออกมา”

พ่อครัวจึงนำเนื้อส่วนขามาวางตรงหน้าซาอูล ซามูเอลกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่เก็บไว้สำหรับท่าน เชิญรับประทานเถิด เพราะเนื้อนี้ได้แยกไว้สำหรับท่านในโอกาสนี้ ตั้งแต่เวลาที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าได้เชิญแขกมาแล้ว’ ” ซาอูลก็รับประทานอาหารร่วมกับซามูเอลในวันนั้น

หลังจากพวกเขากลับจากสถานสูงเข้ามาในเมืองแล้ว ซามูเอลสนทนากับซาอูลบนดาดฟ้าบ้านของเขา วันรุ่งขึ้นเมื่อฟ้าเริ่มสาง ซามูเอลเรียกซาอูลบนดาดฟ้าว่า “จงเตรียมตัว เราจะไปส่ง” เมื่อซาอูลพร้อมแล้ว ทั้งสองก็เดินออกไปด้วยกัน ขณะที่มาถึงสุดเขตเมือง ซามูเอลบอกซาอูลว่า “จงให้คนรับใช้ล่วงหน้าไปก่อน” เมื่อคนรับใช้ไปแล้ว ซามูเอลก็บอกซาอูลว่า “จงรอสักครู่เถิด เพื่อเราจะแจ้งพระดำรัสของพระเจ้าแก่ท่าน”

Read More of 1ซามูเอล 9

1ซามูเอล 10:1-8

แล้วซามูเอลก็เทน้ำมันชโลมศีรษะของซาอูล จูบเขาและกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเจิมตั้งท่านให้เป็นผู้นำอิสราเอลประชากรของพระองค์ไม่ใช่หรือ?10:1 ฉบับ LXX. และ Vulg. ว่าเหนืออิสราเอลประชากรของพระองค์ไม่ใช่หรือ? ท่านจะครอบครองเหนือประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และช่วยพวกเขาให้รอดจากอำนาจของศัตรูที่อยู่แวดล้อม และนี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เจิมตั้งท่านให้เป็นผู้นำเหนือกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ในวันนี้เมื่อท่านจากเราไปแล้ว ท่านจะพบชายสองคนใกล้สุสานของราเชลที่เศลซาห์ชายแดนเบนยามิน เขาจะบอกท่านว่า ‘พบลาที่หายไปแล้ว และบิดาของท่านเลิกห่วงเรื่องลา แต่กังวลว่าท่านหายไปไหน เขาถามว่า “ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรเกี่ยวกับลูกชายของข้าพเจ้า?” ’

“แล้วท่านจะเดินทางต่อจากที่นั่นไปถึงต้นไม้ใหญ่แห่งทาโบร์ จะพบชายสามคนซึ่งกำลังจะไปเข้าเฝ้าพระเจ้าที่เบธเอล คนหนึ่งอุ้มลูกแพะสามตัว อีกคนหนึ่งถือขนมปังสามก้อน คนที่สามถือถุงหนังเหล้าองุ่นหนึ่งถุง เขาทั้งสามจะทักทายท่านและยื่นขนมปังให้ท่านสองก้อนซึ่งท่านจะรับไว้

“หลังจากนั้นท่านจะไปถึงเมืองกิเบอาห์ของพระเจ้าซึ่งมีกองทหารรักษาการณ์ของพวกฟีลิสเตีย เมื่อท่านไปถึงจะพบขบวนผู้เผยพระวจนะลงมาจากสถานสูง เล่นพิณ รำมะนา เป่าขลุ่ย และดีดกระจับปี่ กล่าวคำทำนายมาตลอดทาง พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะลงมาสวมทับท่านด้วยฤทธานุภาพ ท่านจะร่วมทำนายกับคนเหล่านั้น และท่านจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อสำเร็จตามหมายสำคัญต่างๆ เหล่านี้แล้ว จงทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นภาระหน้าที่ของท่านเถิด เพราะพระเจ้าสถิตกับท่าน

“จงล่วงหน้าไปที่กิลกาล คอยข้าพเจ้าอยู่เจ็ดวัน ข้าพเจ้าจะไปหาท่านแน่นอน เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชา เมื่อข้าพเจ้าไปถึงที่นั่นแล้ว ข้าพเจ้าจะบอกท่านว่าท่านควรทำอะไรบ้าง”

Read More of 1ซามูเอล 10