1พงศ์กษัตริย์ 8:22-66, 1พงศ์กษัตริย์ 9:1-9 TNCV

1พงศ์กษัตริย์ 8:22-66

โซโลมอนอธิษฐานถวายพระวิหาร

(2พศด.6:12-40)

จากนั้นโซโลมอนประทับยืนอยู่หน้าแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งหมด และทรงชูพระหัตถ์ขึ้นฟ้าสวรรค์ และตรัสว่า

“ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทั่วฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลกเบื้องล่างไม่มีพระอื่นใดเสมอเหมือน พระองค์ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งยังคงดำเนินในทางของพระองค์อย่างสุดใจ พระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญาต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาด้วยพระโอษฐ์และทรงกระทำให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ดังเช่นทุกวันนี้

“และบัดนี้ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอทรงรักษาคำมั่นสัญญาที่ทรงมีต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ที่ว่า ‘หากวงศ์วานของเจ้าใส่ใจที่จะทำทุกอย่างและดำเนินอยู่ต่อหน้าเราเหมือนอย่างที่เจ้าได้ทำ เจ้าก็จะไม่ขาดคนที่จะขึ้นครองบัลลังก์แห่งอิสราเอลต่อหน้าเรา’ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล บัดนี้ขอทรงโปรดให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ทรงให้ไว้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ด้วยเถิด

“แต่พระเจ้าจะประทับในโลกนี้จริงๆ หรือ? ในเมื่อฟ้าสวรรค์สูงสุดยังไม่อาจรับพระองค์ไว้ได้ พระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นจะยิ่งเล็กน้อยกว่านั้นสักเท่าใด! ถึงกระนั้นข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและตอบคำวิงวอนขอพระเมตตา ซึ่งผู้รับใช้กำลังกราบทูลอยู่ต่อหน้าพระองค์ในวันนี้ ขอพระองค์ทอดพระเนตรพระวิหารแห่งนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน พระวิหารซึ่งพระองค์ตรัสว่า ‘นามของเราจะอยู่ที่นั่น’ เพื่อจะได้ทรงกรุณาสดับฟังเมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ เมื่อผู้รับใช้และประชากรอิสราเอลของพระองค์อธิษฐานวิงวอนตรงต่อที่แห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และเมื่อทรงสดับแล้ว ขอทรงโปรดยกโทษ

“เมื่อผู้ใดทำผิดต่อเพื่อนบ้านและต้องสาบาน และเขามาสาบานหน้าแท่นบูชาในพระวิหารนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และวินิจฉัย ขอทรงตัดสินความระหว่างผู้รับใช้ทั้งหลายของพระองค์ ขอทรงลงโทษคนผิดและให้สิ่งที่เขาทำตกแก่ตัวเขาเอง ส่วนผู้บริสุทธิ์ขอทรงประกาศว่าเขาไม่ผิด เป็นอันพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

“เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ทำบาปต่อพระองค์และถูกศัตรูพิชิต หากเขาหันกลับมาหาพระองค์ ร้องทูลออกพระนามของพระองค์ อธิษฐานและทูลวิงวอนต่อพระองค์ในวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และอภัยบาปของเหล่าประชากรอิสราเอลของพระองค์ และนำเขากลับมายังดินแดนซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขา

“เมื่อท้องฟ้าถูกปิดและไม่มีฝนเพราะประชากรของพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ ร้องทูลออกพระนามของพระองค์ และหันจากบาปของตนเพราะพระองค์ได้ทรงลงโทษเขาแล้ว ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และอภัยบาปของประชากรอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงสอนหนทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และประทานฝนแก่ดินแดนซึ่งทรงยกให้เป็นมรดกของเหล่าประชากร

“หากเกิดการกันดารอาหาร หรือโรคระบาดในดินแดน หรือโรคพืช หรือโรคราน้ำค้าง หรือตั๊กแตนบุกมาทำลาย หรือเหล่าศัตรูมาล้อมเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือภัยพิบัติใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น เมื่อมีคำอธิษฐานหรือคำทูลวิงวอนจากผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่ประชากรอิสราเอลของพระองค์ ซึ่งแต่ละคนย่อมรู้ถึงความทุกข์ใจของตนดี และชูมือขึ้นตรงต่อพระวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ ขอทรงอภัยโทษและทรงจัดการกับแต่ละคนตามการกระทำของเขา เนื่องจากพระองค์ทรงรู้จักจิตใจของเขา (เพราะพระองค์เท่านั้นทรงทราบจิตใจของมนุษย์ทั้งปวง) เพื่อเขาจะยำเกรงพระองค์ตลอดเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเรา

“ส่วนคนต่างชาติซึ่งไม่ใช่อิสราเอลประชากรของพระองค์ แต่ได้มาจากแดนไกลเนื่องด้วยพระนามของพระองค์ เพราะผู้คนจะได้ยินถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และพระกรที่เหยียดออกของพระองค์ เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระวิหารนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์และขอทรงตอบคำอธิษฐานที่คนต่างชาติผู้นั้นได้ทูลขอพระองค์ เพื่อมวลประชาชาติในโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์ และยำเกรงพระองค์เช่นเดียวกับอิสราเอลประชากรของพระองค์เอง และรู้ว่าข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศแห่งนี้เพื่อพระนามของพระองค์

“เมื่อพระองค์ทรงใช้ประชากรของพระองค์ออกไปรบกับศัตรูไม่ว่าที่ใด และเขาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้ามุ่งตรงมายังนครนี้ที่ทรงเลือกสรรไว้ และยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำทูลวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์และขอทรงช่วยเหลือเขา

“เมื่อพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ (เพราะมีใครบ้างที่ไม่ทำบาปเลย) แล้วพระองค์ทรงพระพิโรธเขาและยอมให้ศัตรูพิชิตเขา นำเขาไปเป็นเชลยในต่างแดน ไม่ว่าใกล้หรือไกล และถ้าเขากลับใจได้ในแดนเชลย สำนึกผิด ทูลวิงวอนต่อพระองค์ในดินแดนนั้นและทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพระองค์ทั้งหลายผิดไปแล้ว และข้าพระองค์ทั้งหลายได้ประพฤติชั่ว’ และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ก็ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์และขอทรงช่วยเหลือเขา แล้วขอทรงอภัยโทษแก่ประชากรผู้ได้ทำบาปต่อพระองค์และยกโทษการล่วงละเมิดของพวกเขา ขอทรงกระทำให้ผู้ที่มีชัยเหนือเขานั้นเมตตาเขา เพราะเขาเป็นประชากรของพระองค์และเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาจากอียิปต์ออกจากเตาหลอมเหล็ก

“ขอให้พระเนตรของพระองค์เปิดอยู่ และพระกรรณของพระองค์สดับฟังคำทูลวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และอิสราเอลประชากรของพระองค์ ขอทรงสดับฟังทุกเมื่อที่เขาร้องทูลต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงแยกเขาออกมาจากประชาชาติทั้งปวงในโลก เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ตามที่ทรงประกาศไว้ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงนำบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายออกมาจากอียิปต์”

เมื่อโซโลมอนทรงอธิษฐานทูลวิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้แล้ว ก็ทรงลุกขึ้นจากหน้าแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ทรงคุกเข่าและชูพระหัตถ์ขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ พระองค์ประทับยืนและอวยพรประชากรอิสราเอลทั้งปวงด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า

“สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ คำมั่นสัญญาล้ำเลิศซึ่งประทานผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้น ไม่มีสักคำเดียวที่ล้มเหลวไป ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราสถิตกับเราเหมือนที่สถิตกับเหล่าบรรพบุรุษของเรา ขออย่าได้ทรงทอดทิ้งหรือละจากเราเลย ขอทรงหันใจของเรามาหาพระองค์ให้ดำเนินในทางทั้งปวงของพระองค์ และปฏิบัติตามคำบัญชา กฎหมาย และกฎระเบียบที่ทรงให้ไว้แก่เหล่าบรรพบุรุษของเรา และขอให้คำอธิษฐานที่ข้าพเจ้าได้กล่าวต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้านี้อยู่ใกล้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเสมอไปทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อพระองค์จะทรงช่วยเหลือผู้รับใช้ของพระองค์และอิสราเอลประชากรของพระองค์ตามความจำเป็นในแต่ละวันของเรา เพื่อชนชาติทั้งหลายทั่วโลกจะได้ทราบว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าและไม่มีพระเจ้าอื่นใดเลย แต่จิตใจของท่านจะต้องยอมจำนนอย่างสิ้นเชิงต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ที่จะดำเนินชีวิตตามกฎหมายและเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ดังเช่นขณะนี้”

การถวายพระวิหาร

(2พศด.7:1-10)

จากนั้นกษัตริย์และอิสราเอลทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ถวายเครื่องบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า โซโลมอนทรงถวายเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า คือวัวผู้ 22,000 ตัว แกะและแพะ 120,000 ตัว เป็นอันว่ากษัตริย์และปวงชนอิสราเอลได้ถวายพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในวันนั้นกษัตริย์ทรงประกอบพิธีชำระส่วนกลางของลานหน้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและถวายเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และไขมันของเครื่องสันติบูชาที่นั่น เพราะแท่นทองสัมฤทธิ์ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นเล็กเกินไปสำหรับเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และไขมันของเครื่องสันติบูชา

โซโลมอนทรงร่วมพิธีฉลองกับประชากรอิสราเอลทั้งหมดที่นั่น ซึ่งเป็นการชุมนุมประชากรครั้งใหญ่ ผู้คนจากเลโบฮามัท8:65 หรือจากทางเข้าสู่ฮามัทจดลำน้ำแห่งอียิปต์พากันมาเฉลิมฉลองต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราตลอดเจ็ดวัน แล้วฉลองต่ออีกเจ็ดวัน รวมเป็นสิบสี่วัน ในวันรุ่งขึ้น โซโลมอนทรงอำลาเหล่าประชากร พวกเขากล่าวถวายพระพร แล้วกลับบ้านด้วยจิตใจเบิกบานยินดีในสิ่งดีงามทั้งปวง ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์และอิสราเอลประชากรของพระองค์

Read More of 1พงศ์กษัตริย์ 8

1พงศ์กษัตริย์ 9:1-9

องค์พระผู้เป็นเจ้า

(2พศด.7:11-22)

เมื่อโซโลมอนทรงสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวัง และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดเสร็จสิ้นตามที่ประสงค์แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏแก่โซโลมอนเป็นครั้งที่สอง เหมือนที่ได้ปรากฏมาแล้วที่กิเบโอน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโซโลมอนว่า

“เราได้ยินคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเจ้าต่อเราแล้ว เราได้ชำระวิหารที่เจ้าสร้างขึ้นนี้ให้บริสุทธิ์ โดยสถาปนานามของเราไว้ที่นั่นชั่วนิรันดร์ ตาและใจของเราจะอยู่ที่นั่นเสมอไป

“ส่วนเจ้า หากเจ้าดำเนินอยู่ต่อหน้าเราด้วยใจซื่อสัตย์สุจริตและชอบธรรมเหมือนอย่างดาวิดราชบิดาของเจ้า ทำตามคำบัญชาทั้งสิ้นของเรา และรักษากฎหมายกับบทบัญญัติของเรา เราก็จะสถาปนาราชบัลลังก์ของเจ้าเหนืออิสราเอลตลอดไปตามที่เราได้สัญญาไว้กับดาวิดราชบิดาของเจ้าว่า ‘เจ้าจะไม่ขาดคนครองบัลลังก์อิสราเอลเลย’

“แต่หากเจ้าหรือลูกหลานของเจ้าละทิ้งเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามคำบัญชาและกฎหมายที่เราได้ให้แก่เจ้า9:6 ภาษาฮีบรูเป็นพหูพจน์ทั้งสามครั้งในข้อนี้ หันไปปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ เราก็จะตัดอิสราเอลออกจากดินแดนซึ่งเราได้ยกให้เขา เราจะทิ้งวิหารแห่งนี้ซึ่งเราได้ชำระให้บริสุทธิ์เพื่อนามของเรา อิสราเอลจะกลายเป็นที่เย้ยหยันและคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติ ถึงแม้ว่าบัดนี้วิหารจะตั้งเด่นตระหง่าน คนทั้งปวงที่ผ่านไปมาก็จะตกตะลึงและจะเยาะเย้ยว่า ‘ทำไมหนอองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงกระทำต่อวิหารและดินแดนนี้ถึงเพียงนี้?’ ผู้คนจะตอบว่า ‘เพราะพวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงนำบรรพบุรุษของพวกเขาออกจากอียิปต์ หันไปฝักใฝ่ปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ แทน ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงนำเหตุร้ายทั้งหมดนี้มาสู่พวกเขา’ ”

Read More of 1พงศ์กษัตริย์ 9