ยอห์น 20 – TNCV & HHH

Thai New Contemporary Bible

ยอห์น 20:1-31

อุโมงค์ว่างเปล่า

(มธ.28:1-8; มก.16:1-8; ลก.24:1-10)

1เช้ามืดวันต้นสัปดาห์ขณะยังมืดอยู่ มารีย์ชาวมักดาลามาที่อุโมงค์ฝังศพและเห็นว่าก้อนหินถูกเคลื่อนออกจากปากอุโมงค์แล้ว 2ดังนั้นนางจึงวิ่งมาบอกซีโมนเปโตรกับสาวกคนที่พระเยซูทรงรักว่า “พวกเขาเอาองค์พระผู้เป็นเจ้าออกจากอุโมงค์แล้วและเราไม่รู้ว่าเขาเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน!”

3ดังนั้นเปโตรกับสาวกคนนั้นจึงมาที่อุโมงค์ 4ทั้งสองคนวิ่งมาแต่สาวกคนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตรจึงมาถึงอุโมงค์ก่อน 5เขาก้มลงมองเข้าไปเห็นแถบผ้าลินินวางอยู่แต่เขาไม่ได้เข้าไป 6แล้วซีโมนเปโตรซึ่งตามมาข้างหลังก็วิ่งตรงเข้าไปในอุโมงค์ เขาเห็นแถบผ้าลินินวางอยู่ 7พร้อมกับผ้าพันพระเศียรของพระเยซูพับวางไว้ต่างหาก 8ในที่สุดสาวกคนนั้นซึ่งมาถึงอุโมงค์ก่อนก็เข้ามาข้างในด้วย เขาได้เห็นและเชื่อ 9(พวกเขายังไม่เข้าใจข้อพระคัมภีร์ที่ว่าพระเยซูต้องเป็นขึ้นจากตาย)

พระเยซูทรงปรากฏแก่มารีย์ชาวมักดาลา

10แล้วสาวกทั้งสองก็กลับไปบ้านของตน 11แต่มารีย์ยืนร้องไห้อยู่นอกอุโมงค์ ขณะร้องไห้อยู่นางก้มลงมองเข้าไปในอุโมงค์ 12เห็นทูตสวรรค์สององค์สวมชุดสีขาวนั่งอยู่ตรงที่ซึ่งพวกเขาเคยวางพระศพพระเยซู องค์หนึ่งอยู่เบื้องพระเศียร อีกองค์อยู่เบื้องพระบาท

13ทูตทั้งสองถามมารีย์ว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม?”

มารีย์ตอบว่า “พวกเขาเอาองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าไปแล้วและข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน” 14แล้วมารีย์ก็หันกลับมาและเห็นพระเยซูทรงยืนอยู่ที่นั่นแต่นางไม่ทราบว่าเป็นพระเยซู

15พระองค์ตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม? เจ้ากำลังตามหาใครหรือ?”

มารีย์คิดว่าพระองค์เป็นคนสวนจึงตอบว่า “ท่านเจ้าข้า หากท่านเอาพระองค์ไปขอบอกข้าพเจ้าว่าท่านเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน ข้าพเจ้าจะได้รับพระองค์ไป”

16พระเยซูตรัสกับนางว่า “มารีย์เอ๋ย”

มารีย์หันกลับมาหาพระองค์และร้องออกมาเป็นภาษาอารเมคว่า “รับโบนี!” (ซึ่งแปลว่า พระอาจารย์)

17พระเยซูตรัสว่า “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้เพราะเรายังไม่ได้กลับไปหาพระบิดา จงไปหาพวกพี่น้องของเราและบอกพวกเขาว่า ‘เรากำลังจะกลับไปหาพระบิดาของเราและพระบิดาของท่านทั้งหลาย ไปหาพระเจ้าของเราและพระเจ้าของท่านทั้งหลาย’ ”

18มารีย์ชาวมักดาลาจึงไปแจ้งข่าวแก่เหล่าสาวกว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว!” และเล่าถึงสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสกับนาง

พระเยซูทรงปรากฏแก่เหล่าสาวก

19ค่ำวันต้นสัปดาห์นั้นเมื่อพวกสาวกมาอยู่ด้วยกันพวกเขาปิดประตูลงกลอนเพราะกลัวพวกยิว พระเยซูก็เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาและตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด!” 20เมื่อตรัสแล้วพระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์ให้พวกเขาดู เมื่อเหล่าสาวกเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วก็ชื่นชมยินดีเป็นล้นพ้น

21พระเยซูตรัสอีกว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด! พระบิดาได้ทรงส่งเรามาฉันใดเราก็ส่งพวกท่านไปฉันนั้น” 22เมื่อตรัสดังนั้นแล้วพระองค์ทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาพร้อมทั้งตรัสว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด 23ถ้าท่านอภัยบาปของผู้ใดผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ถ้าท่านไม่อภัยให้เขาก็ไม่ได้รับการอภัย”

ทรงปรากฏแก่โธมัส

24ฝ่ายโธมัส (ที่เรียกกันว่า ดิไดมัส20:24 แปลว่าแฝด) หนึ่งในสาวกสิบสองคนไม่ได้อยู่ด้วยในตอนที่พระเยซูเสด็จมา 25ดังนั้นสาวกคนอื่นๆ จึงบอกเขาว่า “เราได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว!”

แต่โธมัสกล่าวกับพวกเขาว่า “ถ้าเราไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ ไม่ได้เอานิ้วแยงที่รูตะปูนั้นและไม่ได้เอามือแยงที่สีข้างของพระองค์ เราก็จะไม่ยอมเชื่อ”

26สัปดาห์ต่อมาเหล่าสาวกของพระองค์อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนั้นอีก โธมัสก็อยู่กับพวกเขา ทั้งๆ ที่ปิดประตูลงกลอนอยู่แต่พระเยซูก็เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาและตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด!” 27จากนั้นพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “ยื่นนิ้วมาที่นี่ ดูมือของเรา ยื่นมือมาแยงที่สีข้างของเรา จงเลิกสงสัยและจงเชื่อเถิด”

28โธมัสทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์และพระเจ้าของข้าพระองค์!”

29แล้วพระเยซูตรัสบอกเขาว่า “เพราะท่านได้เห็นเราท่านจึงเชื่อ ความสุขมีแก่ผู้ที่ไม่ได้เห็นแต่ก็ยังเชื่อ”

30พระเยซูทรงกระทำหมายสำคัญอื่นๆ อีกมากมายต่อหน้าเหล่าสาวกของพระองค์ซึ่งไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ 31แต่ที่บันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า20:31 สำเนาต้นฉบับบางสำเนาว่าจะได้เชื่อสืบต่อไปว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า และโดยความเชื่อท่านจะได้มีชีวิตในพระนามของพระองค์

Habrit Hakhadasha/Haderekh

הבשורה על-פי יוחנן 20:1-31

1השכם בבוקר יום ראשון, עוד לפני הנץ החמה, באה מרים המגדלית אל קברו של ישוע וראתה שהאבן הוסרה מפתח הקבר. 2היא רצה מיד אל שמעון פטרוס ואל התלמיד השני, זה שהיה אהוב על ישוע. היא קראה: ”הם לקחו את האדון מהקבר! איננו יודעים היכן שמו אותו!“

3‏-4פטרוס והתלמיד השני מיהרו יחד אל הקבר; התלמיד השני הקדים אותו והגיע ראשון. 5הוא הביט פנימה וראה את התכריכים מונחים במקומם, אולם לא נכנס לקבר. 6שמעון פטרוס בא אחריו ונכנס פנימה. גם הוא ראה את התכריכים. 7הבד שעטף את ראשו של ישוע היה מקופל ומונח בצד בניפרד מהתכריכים. 8ואז גם התלמיד האחר נכנס פנימה, ראה והאמין שישוע קם לתחייה. 9כי עד אז לא הבינו שהכתובים ניבאו כי הוא יקום לתחייה.

10שניהם הלכו הביתה, 11ובינתיים חזרה מרים אל הקבר, עמדה בחוץ ובכתה. היא העיפה מבט לתוך הקבר, 12ולפתע נגלו אליה שני מלאכים לבושי לבן יושבים במקום שבו הייתה גופת ישוע: אחד למרגלותיו ושני למראשותיו.

13”מדוע את בוכה?“ שאלו המלאכים.

”כי הם לקחו את אדוני ואיני יודעת היכן הניחו אותו“, השיבה מרים.

14היא הרגישה שמישהו עומד מאחוריה. כשהביטה לאחור ראתה את ישוע, אולם היא לא הכירה אותו.

15”מדוע את בוכה? את מי את מחפשת?“ שאל אותה ישוע.

מרים חשבה אותו לשומר הגן ולכן התחננה לפניו: ”אם אתה זה שלקח את אדוני, אנא, אמור לי היכן שמת אותו כדי שאוכל לקחתו.“

16”מרים!“ קרא ישוע.

היא פנתה להביט בו וקראה: ”רבי!“

17”אל תגעי בי,“ הזהיר אותה ישוע, ”כי עדיין לא עליתי אל אבי. לכי אל האחים וספרי להם שאני עולה אל אבי ואביכם, אל אלוהי ואלוהיכם.“

18מרים מיהרה אל התלמידים. ”ראיתי את האדון!“ קראה בהתלהבות, ומסרה להם את דבריו. 19באותו ערב התכנסו התלמידים מאחורי דלתות נעולות, מפחד מנהיגי היהודים. לפתע עמד ישוע ביניהם ואמר: ”שלום לכם!“ 20הוא הראה להם את נקבי המסמרים בידיו ואת צדו, והתלמידים שמחו מאוד לראות את אדונם.

21שוב דיבר אליהם ישוע: ”כשם שאבי שלח אותי, כך אני שולח אתכם.“ 22הוא נשף ואמר: ”קבלו את רוח הקודש. 23למי שתסלחו לחטאיו, הם ייסלחו לו, ולמי שלא תסלחו לחטאיו, הם לא ייסלחו לו.“ 24תומא התאום, אחד משנים־עשר התלמידים, נעדר מאותה אסיפה. 25כשסיפרו לו התלמידים שראו את האדון, תומא לא האמין. ”לא אאמין בכך עד שאראה את נקבי המסמרים שבידיו ואגע בהם ובצדו“, אמר.

26כעבור שמונה ימים שוב התכנסו התלמידים, והפעם היה תומא ביניהם. גם הפעם היו הדלתות נעולות. לפתע שוב עמד ישוע ביניהם וקרא: ”שלום לכם!“

27ישוע פנה אל תומא ואמר: ”גע בידי ובצד גופי, ואל תהיה יותר חסר־אמונה, כי אם תאמין!“

28”אדוני ואלוהי!“ קרא לו תומא.

29ישוע המשיך לדבר אליו: ”אתה מאמין משום שראית אותי, אולם ברוכים המאמינים על אף שאינם רואים.“ 30ישוע חולל עוד ניסים רבים לעיני תלמידיו אך הם לא נכתבו בספר זה. 31הניסים בספר זה נכתבו כדי שתאמינו כי הוא המשיח בן־האלוהים, וכדי שעל־ידי אמונתכם בו תחיו חיי נצח.