ผู้วินิจฉัย 9 – TNCV & KLB

Thai New Contemporary Bible

ผู้วินิจฉัย 9:1-57

อาบีเมเลค

1อาบีเมเลคบุตรเยรุบบาอัลไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องฝ่ายมารดาที่เชเคม และกล่าวกับพวกเขาพร้อมทั้งคนในตระกูลของมารดาว่า 2“จงถามชาวเมืองเชเคมทั้งปวงว่า ‘สำหรับท่านแล้วอะไรจะดีกว่ากันระหว่างการให้บุตรชายของเยรุบบาอัลทั้งเจ็ดสิบคนปกครอง หรือให้ชายเพียงคนเดียวปกครองท่าน?’ อย่าลืมว่าข้าพเจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน”

3เมื่อญาติพี่น้องเล่าคำกล่าวนี้แก่ชาวเมืองเชเคม พวกเขาก็เอนเอียงอยากติดตามอาบีเมเลคเพราะพวกพี่น้องกล่าวว่า “เขาเป็นพี่น้องของเรา” 4พวกเขานำเงินหนัก 70 เชเขล9:4 1 เชเขล คือเงินหนักประมาณ 11.5 กรัม มีค่าเท่ากับค่าแรงสองเดือนจากวิหารของพระบาอัลเบรีทมามอบแก่อาบีเมเลค ซึ่งนำเงินไปว่าจ้างนักเลงไว้ติดตามตน 5อาบีเมเลคไปยังบ้านของบิดาที่โอฟราห์ และเขาได้สังหารพี่น้องร่วมบิดาทั้งเจ็ดสิบคนบนศิลาแห่งหนึ่ง ยกเว้นโยธามลูกชายคนสุดท้องของเยรุบบาอัลซึ่งหนีไปซ่อนตัวทัน 6จากนั้นชาวเมืองเชเคมและเบธมิลโลก็มาชุมนุมกันข้างๆ ต้นไม้ใหญ่ที่เสาหินในเชเคมเพื่อแต่งตั้งอาบีเมเลคเป็นกษัตริย์

7เมื่อโยธามได้ยินเรื่องนี้ ก็ปีนขึ้นไปบนยอดเขาเกริซิมและตะโกนบอกพวกเขาว่า “พี่น้องชาวเมืองเชเคม จงฟังข้าพเจ้า เพื่อพระเจ้าจะทรงฟังพวกท่าน 8วันหนึ่งต้นไม้ทั้งหลายออกไปเจิมตั้งกษัตริย์สำหรับพวกตน ต้นไม้ทั้งหลายกล่าวกับต้นมะกอกว่า ‘เชิญมาเป็นกษัตริย์ของเรา’

9“แต่ต้นมะกอกตอบว่า ‘ควรหรือที่ข้าพเจ้าจะทิ้งน้ำมันของข้าพเจ้าที่ใช้ให้เกียรติทั้งพระและมนุษย์ เพื่อไปแกว่งไกวเหนือต้นไม้ทั้งปวง?’

10“แล้วต้นไม้ทั้งหลายก็ไปพูดกับต้นมะเดื่อว่า ‘เชิญมาเป็นกษัตริย์ของเราเถิด’

11“แต่ต้นมะเดื่อตอบว่า ‘ควรหรือที่ข้าพเจ้าจะทิ้งผลอันงามและหวานฉ่ำ เพื่อไปแกว่งไกวเหนือต้นไม้ทั้งปวง?’

12“แล้วต้นไม้ทั้งหลายจึงกล่าวกับเถาองุ่นว่า ‘เชิญมาเป็นกษัตริย์ของเราเถิด’

13“แต่เถาองุ่นตอบว่า ‘ควรหรือที่ข้าพเจ้าจะเลิกผลิตเหล้าองุ่นซึ่งให้ความชื่นใจแก่ทั้งพระและมนุษย์ เพื่อไปแกว่งไกวเหนือต้นไม้ทั้งปวง?’

14“ในที่สุดต้นไม้ทั้งหลายจึงกล่าวกับพุ่มหนามว่า ‘เชิญมาเป็นกษัตริย์ของเราเถิด’

15“พุ่มหนามตอบต้นไม้ทั้งหลายว่า ‘หากท่านต้องการเจิมตั้งข้าพเจ้าเป็นกษัตริย์เหนือพวกท่านจริงๆ แล้วละก็ เชิญมาพักพิงอยู่ใต้ร่มเงาของข้าพเจ้า ไม่เช่นนั้นก็ขอให้เปลวไฟลุกโชนจากพุ่มหนามและเผาผลาญบรรดาสนซีดาร์แห่งเลบานอนให้วอด!’

16“บัดนี้หากท่านตั้งอาบีเมเลคเป็นกษัตริย์อย่างซื่อตรงและจริงใจ และหากท่านคิดว่าได้ปฏิบัติต่อเยรุบบาอัลกับครอบครัวของเขาอย่างเป็นธรรมและสมควร 17และคิดว่าบิดาของข้าพเจ้าได้ต่อสู้เพื่อท่านทั้งหลาย และเสี่ยงชีวิตเข้ากอบกู้พวกท่านจากมือของคนมีเดียน 18(แต่วันนี้ท่านกบฏต่อครอบครัวบิดาของข้าพเจ้า เข่นฆ่าบุตรชายทั้งเจ็ดสิบคนของเขาบนศิลาแห่งเดียว และตั้งอาบีเมเลค บุตรนางทาสของบิดาของข้าพเจ้าให้เป็นกษัตริย์เหนือชาวเชเคม เพียงเพราะเขาเป็นญาติของตน) 19หากวันนี้ท่านได้ทำอย่างซื่อตรงและจริงใจต่อเยรุบบาอัลกับครอบครัว ก็ขอให้อาบีเมเลคเป็นความชื่นบานของท่านและขอให้ท่านเป็นความชื่นบานของเขาด้วย! 20แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ขอให้ไฟจากอาบีเมเลคเผาผลาญชาวเมืองเชเคมและเบธมิลโล และขอให้ไฟจากชาวเมืองเชเคมและเบธมิลโลเผาผลาญอาบีเมเลคเถิด!”

21จากนั้นโยธามก็หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่เบเออร์เพราะกลัวอาบีเมเลคพี่ชายของตน

22หลังจากที่อาบีเมเลคปกครองอิสราเอลอยู่สามปี 23พระเจ้าทรงส่งวิญญาณชั่วมาระหว่างอาบีเมเลคกับชาวเมืองเชเคม พวกเขาทรยศต่ออาบีเมเลค 24พระเจ้าทรงทำเช่นนี้ก็เพื่อให้อาบีเมเลคและชาวเมืองเชเคมซึ่งช่วยเหลืออาบีเมเลคในการสังหารบุตรชายทั้งเจ็ดสิบคนของเยรุบบาอัลได้รับโทษอย่างสาสมกับการกระทำดังกล่าว 25ชาวเมืองเชเคมต่อต้านอาบีเมเลคโดยได้ตั้งคนซุ่มตามยอดเขา คอยโจมตีและปล้นทุกคนที่ผ่านไปทางนั้นด้วย และมีผู้รายงานเรื่องนี้แก่อาบีเมเลค

26ครั้งนั้นกาอัลบุตรเอเบดย้ายเข้ามาอยู่ที่เชเคมพร้อมกับพี่น้องของตน ชาวเมืองเชเคมก็ไว้เนื้อเชื่อใจกาอัล 27หลังจากที่พวกเขาออกไปเก็บองุ่นจากสวนและย่ำองุ่นเสร็จแล้ว ก็จัดงานฉลองในวิหารของเทพเจ้าของตน ขณะที่กินเลี้ยงอยู่นั้น พวกเขาแช่งด่าอาบีเมเลค 28แล้วกาอัลบุตรเอเบดกล่าวว่า “อาบีเมเลคเป็นใครและเชเคมเป็นใคร ที่เราจะต้องไปอยู่ใต้อาณัติเขา เขาเป็นลูกของเยรุบบาอัลไม่ใช่หรือ? และเศบุลเป็นผู้ช่วยของเขาไม่ใช่หรือ? จงรับใช้คนของฮาโมร์บิดาของเชเคม! ทำไมจึงไปรับใช้อาบีเมเลค? 29แค่เพียงแต่ชาวเมืองนี้อยู่ใต้ปกครองของเรา! เราก็จะกำจัดอาบีเมเลคเสีย เราจะบอกอาบีเมเลคว่า ‘จงเรียกกองทัพของท่านออกมาให้หมด!’ ”9:29 ภาษาฮีบรูว่าแล้วเราจะกำจัดเขาเสีย” จากนั้นเขากล่าวกับอาบีเมเลคว่า “จงเรียกกองทัพของท่านออกมาให้หมด!”

30เมื่อเศบุลผู้ว่าการเมืองนั้นได้ยินคำพูดของกาอัลบุตรเอเบดก็โกรธมาก 31จึงลอบส่งผู้สื่อสารไปแจ้งอาบีเมเลคว่า “กาอัลบุตรเอเบดและญาติของเขามาอาศัยอยู่ในเมืองเชเคม และบัดนี้ปลุกปั่นชาวเมืองให้กบฏต่อท่าน 32ดังนั้นขอให้ท่านยกกำลังมาในเวลากลางคืน และซ่อนตัวอยู่ตามทุ่งนา 33พอฟ้าสว่างจงบุกเข้าเมืองทันที เมื่อกาอัลและพรรคพวกออกมาสู้กับท่าน ท่านจงจัดการกับพวกเขาตามใจชอบ”

34อาบีเมเลคกับกองทหารทั้งหมดจึงยกออกมาในยามค่ำคืน กระจายเป็นสี่กลุ่ม ซ่อนตัวอยู่ใกล้เมืองเชเคม 35ฝ่ายกาอัลบุตรเอเบดออกไปยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะเดียวกับที่อาบีเมเลคและเหล่าทหารออกมาจากที่ซ่อนของเขา

36เมื่อกาอัลเห็นคนเหล่านั้นก็ร้องบอกเศบุลว่า “ดูซิ มีคนกำลังลงมาจากยอดเขา!”

เศบุลตอบว่า “ท่านตาฝาดเห็นเงาภูเขาเป็นคนไปได้”

37แต่กาอัลพูดขึ้นอีกว่า “ดูตรงโน้นเถิด คนกำลังลงมาจากกลางแผ่นดินมาหาเรา และโน่นอีกกลุ่มหนึ่งกำลังมาจากทางต้นไม้ของผู้ร่ายเวทมนตร์”

38แล้วเศบุลกล่าวกับเขาว่า “ไหนล่ะปากช่างเจรจา ใครนะที่พูดว่า ‘อาบีเมเลคเป็นใครกันที่เราจะต้องไปอยู่ใต้อาณัติเขา?’ นี่ไม่ใช่คนที่ท่านเยาะเย้ยหรือ? จงออกไปสู้กับเขาสิ!”

39ดังนั้นกาอัลจึงนำชาวเชเคมออกไปสู้กับ9:39 หรือกาอัลออกไปอยู่ในสายตาของอาบีเมเลค 40อาบีเมเลคไล่ล่าเขาและหลายคนได้รับบาดเจ็บขณะหนีไป และคนบาดเจ็บล้มตายตลอดทางจนถึงประตูเมือง 41อาบีเมเลคอยู่ที่อารูมาห์และเศบุลขับไล่กาอัลและญาติออกจากเมืองเชเคม

42วันรุ่งขึ้นชาวเชเคมออกมาที่ทุ่งนา มีคนรายงานเรื่องนี้ต่ออาบีเมเลค 43ดังนั้นเขาจึงแบ่งคนเป็นสามกลุ่มซุ่มอยู่ที่ทุ่งนา และเมื่อเขาเห็นผู้คนออกมาจากเมืองก็ลุกขึ้นโจมตี 44อาบีเมเลคกับพวกรีบรุดไปยึดทางเข้าประตูเมือง ขณะที่คนอีกสองกลุ่มฆ่าคนที่อยู่ในทุ่งนา 45ตลอดวันนั้นอาบีเมเลคกระหน่ำโจมตีจนยึดเมืองได้และฆ่าชาวเมืองนั้น แล้วทำลายเมืองจนราบเป็นหน้ากลองและเอาเกลือสาดทั่วเมือง

46ชาวเมืองในหอคอยของเชเคมได้ยินเหตุการณ์ก็ไปหลบภัยอยู่ที่ป้อมของวิหารพระเอลเบรีท 47เมื่ออาบีเมเลคทราบว่าพวกเขาชุมนุมกันอยู่ที่นั่น 48จึงนำกองกำลังทั้งหมดไปยังภูเขาศัลโมน อาบีเมเลคใช้ขวานตัดกิ่งไม้แบกใส่บ่าไป แล้วสั่งคนของเขาว่า “เร็วเข้า! จงทำตามข้าพเจ้า!” 49คนทั้งปวงก็ตัดกิ่งไม้แบกตามอาบีเมเลค นำมาสุมเป็นกองอยู่ตรงกำแพงป้อม แล้วจุดไฟเผาคนที่อยู่ในป้อม ดังนั้นชายหญิงทั้งปวงที่อยู่ในหอคอยแห่งเชเคมราวพันคนก็ตายหมด

50จากนั้นอาบีเมเลคเข้าโจมตีและยึดเมืองเธเบศได้ 51แต่ในเมืองนั้นมีหอคอยที่แข็งแกร่งอยู่แห่งหนึ่ง พลเมืองทั้งหมดทั้งชายและหญิงได้หนีเข้าไปหลบซ่อนในนั้น พวกเขาปิดประตูลงกลอนและขึ้นไปบนยอดหอคอย 52อาบีเมเลคไปที่หอคอยและเข้าโจมตี แต่ขณะที่เข้าไปใกล้ทางเข้าหอคอยเพื่อจุดไฟเผา 53หญิงคนหนึ่งทุ่มหินโม่ชิ้นบนลงมาใส่ศีรษะอาบีเมเลค ทำให้กะโหลกศีรษะของเขาแตก

54อาบีเมเลครีบบอกผู้ถืออาวุธประจำตัวของเขาว่า “ชักดาบออกมาฆ่าเรา อย่าให้เขาพูดกันว่า ‘เขาตายด้วยน้ำมือผู้หญิง’ ” ดังนั้นผู้รับใช้ของเขาจึงเอาดาบแทงอาบีเมเลคตาย 55เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าอาบีเมเลคตายแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

56พระเจ้าทรงตอบแทนความชั่วที่อาบีเมเลคได้ทำต่อบิดาโดยฆ่าพี่น้องทั้งเจ็ดสิบคนของตนด้วยวิธีนี้ 57พระเจ้าทรงให้ชาวเชเคมได้รับโทษตามความชั่วของเขา คำสาปแช่งของโยธามบุตรเยรุบบาอัลก็ตกแก่พวกเขา

Korean Living Bible

사사기 9:1-57

아비멜렉

1어느 날 기드온의 아들 아비멜렉은 자기 어머니의 친정 식구들이 살고 있는 세겜으로 가서

2그들에게 이렇게 말하였다. “세겜 사람들에게 기드온의 아들 70명이 다스리는 것과 한 사람이 다스리는 것 중에 어느 것이 더 좋은지 물어 보십시오. 나는 살과 피를 함께 나눈 여러분의 친척임을 잊지 말아야 합니다.”

3외갓집 식구들이 세겜 사람들에게 가서 이 모든 말을 전하자 그들은 마음이 아비멜렉에게로 기울어져 “그는 우리의 친척이다” 하며 아비멜렉을 따르기로 결정하였다.

4세겜 사람들이 바알브릿의 신전에서 은화 70개를 끄집어내어 아비멜렉에게 주자 그는 이 돈으로 건달들을 고용하여 자기를 따르게 하였다.

5그리고 그는 오브라에 있는 자기 아버지 집으로 가서 그의 이복 형제 70명을 한 바위 위에 모아 놓고 쳐죽였는데 그 중에서 기드온의 막내 아들 요담만은 간신히 피해 살아 남았다.

6그 후에 세겜 사람들과 벧 – 밀로 사람들은 세겜에 있는 상수리나무 아래에서 아비멜렉을 왕으로 삼았다.

7요담이 이 소식을 듣고 그리심산 꼭대기에 올라가서 세겜 사람들에게 외쳤다. “세겜 사람들아, 내 말을 들어라. 그러면 하나님이 너희 말을 들으실 것이다.

8한번은 나무들이 자기들의 왕을 세우기로 결의하였다. 그래서 먼저 감람나무에게 가서 ‘네가 우리 왕이 되어라’ 하고 말하였다.

9그러나 감람나무는 거절하며 ‘나의 기름은 하나님과 사람을 영화롭게 하는데 내가 어떻게 이 일을 버리고 너희를 다스리겠느냐?’ 하고 대답하였다.

10그러자 나무들은 무화과나무에게 가서 ‘네가 우리 왕이 되어라’ 하였다.

11그러나 무화과나무는 거절하며 ‘내가 어떻게 달고 맛있는 과일 맺는 일을 버리고 가서 너희를 다스리겠느냐?’ 하고 대답하였다.

12그래서 그 나무들은 포도나무에게 가서 ‘네가 우리 왕이 되어라’ 하였으나

13포도나무도 거절하며 ‘내가 어떻게 하나님과 사람을 기쁘게 하는 포도주 산출을 버리고 가서 너희를 다스리겠느냐?’ 하고 대답하였다.

14그러자 모든 나무들이 가시나무에게 가서 ‘네가 와서 우리 왕이 되어라’ 하였다.

15그때 가시나무는 ‘너희가 정말 나를 왕으로 삼고 싶으면 와서 내 그늘에 피하라. 그렇지 않으면 불이 내 가시덤불에서 나와 레바논의 백향목을 사를 것이다’ 하고 대답하였다.

16“이제 너희는 아비멜렉을 너희 왕으로 삼았다. 이것이 옳고 참된 일이며 너희가 우리 아버지와 우리 가족에게 행한 일이 정당한 것인지 한번 생각해 보아라.

17우리 아버지가 죽음을 무릅쓰고 싸워 너희를 미디안 사람들의 손에서 구해 내었다.

18그러나 너희는 내 형제 70명 중에서 나를 제외하고 그들을 한 바위에서 모조리 죽였으며 우리 아버지의 첩이 낳은 아비멜렉이 너희 친척이라고 해서 너희가 그를 세겜의 왕으로 삼았다.

19너희가 우리 아버지와 우리 가족에게 행한 일이 옳고 참된 일이라면 너희와 아비멜렉이 다 같이 기쁨을 누릴 것이나

20만일 그렇지 않다면 아비멜렉에게서 불이 나와 세겜 사람과 벧 – 밀로 사람을 사르고 또 그들에게서도 불이 나와 아비멜렉을 사를 것이다!”

21그러고서 요담은 자기 형 아비멜렉을 두려워하여 브엘로 도망가서 살았다.

22아비멜렉이 이스라엘을 통치한 지 3년 만에

23하나님이 아비멜렉과 세겜 사람들 사이에 악한 영을 보내셨으므로 세겜 사람들이 아비멜렉을 배반하였다.

24하나님이 이렇게 하신 것은 아비멜렉과 세겜 사람들이 기드온의 아들 70명에게 포학한 짓을 하였으므로 아비멜렉의 학살을 도운 세겜 사람들과 아비멜렉의 죄를 갚으려고 하셨기 때문이었다.

25세겜 사람들이 아비멜렉을 대적하여 산길에 사람을 매복시키고 지나가는 사람마다 강탈하게 하자 아비멜렉이 이 사실을 알게 되었다.

26그때 에벳의 아들 가알이 자기 형제들과 함께 세겜으로 이사해 왔다. 그러자 세겜 사람들이 그를 따르고 의지하였다.

27그들은 모두 밭으로 가서 포도를 따고 즙을 짜서 포도주를 만들어 잔치를 베풀었다. 그들이 신전에 들어가 먹고 마시며 아비멜렉을 저주할 때

28에벳의 아들 가알이 일어나 외쳤다. “아비멜렉이 누군데 우리가 그를 섬기겠느냐? 그는 9:28 또는 ‘여룹바알’기드온의 아들이 아니냐? 스불은 그의 심복이다! 차라리 세겜의 아버지 하몰 집안을 섬기자. 우리가 무엇 때문에 아비멜렉을 섬겨야 하겠느냐?

29내가 만일 이 백성의 지도자라면 아비멜렉을 제거하겠다.” 그러고서 그는 아비멜렉을 향하여 “너의 모든 군대를 이끌고 나오너라” 하고 외쳤다.

30그때 그 성의 통치자인 스불이 가알의 말을 듣고 화가 치밀어 올라

31몰래 아비멜렉에게 이런 전갈을 보냈다. “에벳의 아들 가알과 그의 형제들이 세겜으로 이사해 와서 당신을 배반하도록 지금 성 주민들을 선동하고 있습니다.

32그러므로 당신은 밤에 군대를 이끌고 와서 밭에 매복하였다가

33아침 동이 틀 때 일어나서 이 성을 기습하십시오. 가알과 그의 추종자들이 당신과 싸우려고 나올 때 기회를 봐서 좋으실 대로 처치하십시오.”

34그래서 아비멜렉과 그의 군대는 밤에 일어나 네 부대로 나누어 세겜 주변에 매복하였다.

35다음날 아침 에벳의 아들 가알이 나와서 성문 입구에 서자 아비멜렉과 그의 군대가 숨어 있던 곳에서 나왔다.

36가알이 그들을 보고 스불에게 외쳤다. “보시오. 산에서 사람들이 내려오고 있습니다.” “혹시 산의 그림자를 사람으로 잘못 본 것이 아니오?”

37“틀림없습니다. 저기를 보시오. 사람들이 산등성이에서 내려오고 있으며 또 한 떼는 9:37 히 ‘므오느님’점쟁이 상수리나무 길로 내려오고 있습니다.”

38그때 스불이 의기 양양하게 가알을 향해 외쳤다. “큰소리 치던 네 입이 지금 어디 있느냐? 너는 아비멜렉을 섬길 필요가 없다고 말하였다. 네가 경멸하던 사람들이 바로 저기에 있다. 어서 나가서 싸워 보아라!”

39그래서 가알은 세겜 사람들을 이끌고 나가 아비멜렉과 싸웠으나

40그에게 쫓겨 달아나고 말았으며 많은 사람들이 부상을 입어 성문 입구까지 즐비하게 쓰러졌다.

41그러고서 아비멜렉은 아루마에 머물러 있었고 스불은 가알과 그의 형제들을 세겜에서 쫓아내어 거기서 살지 못하게 하였다.

42다음날 아비멜렉은 세겜 사람들이 밭으로 나올 계획을 세우고 있다는 말을 듣고

43자기 군대를 세 부대로 나누어 그 밭에서 매복하고 있다가 세겜 사람들이 성에서 나오자 그들은 숨어 있던 곳에서 일어나 그들을 치기 시작하였다.

44아비멜렉과 그를 따르는 자들은 성문으로 달려가 그 곳을 지키고 다른 두 부대는 밭에서 세겜 사람들을 쳐서 모조리 죽였다.

45아비멜렉은 하루 종일 그 성을 공격하여 결국 그 성을 점령하고 그 곳 주민들을 죽인 다음 그 성을 헐어 그 위에 소금을 뿌렸다.

46세겜의 요새에 살고 있는 사람들이 이 소식을 듣고 엘 – 브릿 신전의 대피소로 들어갔다.

47아비멜렉은 그들이 그 곳에 모여 있다는 말을 듣고

48자기 부하들을 데리고 살몬산으로 올라갔다. 거기서 그는 도끼로 나뭇가지를 쳐서 자기 어깨에 메고 부하들에게도 빨리 그렇게 하라고 명령하였다.

49그래서 그들은 각자 나뭇가지를 쳐서 한 다발씩 어깨에 메고 아비멜렉을 따라 그 신전의 대피소로 가서 그 곳에 나무를 쌓아 놓고 불을 질렀다. 그러자 그 안에 숨어 있던 세겜 사람 약 1,000명의 남녀가 불에 타서 죽었다.

50그런 다음 아비멜렉은 데베스로 가서 그 성을 포위하여 점령하였다.

51그러나 그 성 안에는 튼튼한 요새 하나가 있었는데 그 성의 모든 남녀가 그리로 도망하여 문을 걸어 잠그고 요새 꼭대기로 올라갔다.

52아비멜렉이 그 요새를 공격하며 문 앞까지 가서 불을 지르려고 하는 순간

53한 여자가 맷돌 윗짝을 그의 머리 위에 내리던져 그의 두골을 부숴버렸다.

54그러자 그는 신음하며 자기 무기를 들고 다니는 젊은 부하를 급히 불러 “네 칼을 뽑아 나를 죽여라! 나는 여자의 손에 죽었다는 말을 듣고 싶지 않다” 하고 말하였다. 그래서 그가 칼로 아비멜렉을 찌르자 그는 곧 죽고 말았다.

55이스라엘 사람들은 아비멜렉이 죽은 것을 보고 각자 집으로 돌아갔다.

56이렇게 해서 하나님은 자기 형제 9:56 원문에는 ‘70명’69명을 죽여 자기 아버지에게 악을 행한 아비멜렉의 죄를 갚으셨고

57또 세겜 사람들도 그들의 악에 대한 대가를 받게 하셨는데 기드온의 아들 요담의 저주가 그대로 이루어졌다.