1ซามูเอล 24:1-22, 1ซามูเอล 25:1-44 TNCV

1ซามูเอล 24:1-22

ดาวิดไว้ชีวิตซาอูล

หลังจากที่ซาอูลกลับมาจากการรบกับชาวฟีลิสเตีย มีผู้กราบทูลว่า “ดาวิดอยู่ในถิ่นกันดารเอนเกดี” ซาอูลจึงทรงนำพลที่คัดเลือกแล้วจากทั่วอิสราเอลสามพันคนไปค้นหาดาวิดกับพวกตามซอกเขาแห่งเลียงผา

พระองค์เสด็จมาถึงคอกแกะริมทาง ทรงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อปลดทุกข์ ดาวิดกับพวกอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ คนของดาวิดพูดว่า “วันนี้แหละคือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส24:4 หรือ“วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังตรัสแก่ท่านไว้ว่า ‘เราจะมอบศัตรูไว้ในมือของเจ้า เจ้าทำอะไรกับเขาก็ได้ตามใจชอบ’ ” แล้วดาวิดก็ย่องเข้าไปตัดชายฉลองพระองค์ของซาอูลโดยที่ซาอูลไม่รู้ตัว

ต่อมาดาวิดรู้สึกผิดที่ได้ตัดชายฉลองพระองค์ของซาอูล ดาวิดกล่าวกับพรรคพวกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามเราไม่ให้ทำเช่นนั้นต่อนายเหนือหัวผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้หรือทำร้ายกษัตริย์ เพราะทรงเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้” ดาวิดพูดดังนี้เพื่อปรามคนของเขาไม่ให้ทำร้ายซาอูล แล้วซาอูลก็ทรงออกจากถ้ำและไปตามทางของพระองค์

ดาวิดก็ออกจากถ้ำตามมาและร้องทูลว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์! เจ้านายของข้าพระบาท” เมื่อซาอูลทรงหันพระพักตร์มา ดาวิดก็หมอบกราบลง แล้วทูลซาอูลว่า “ทำไมทรงฟังผู้คนที่พูดว่า ‘ดาวิดมุ่งทำร้ายฝ่าพระบาท’? วันนี้ก็ทรงเห็นกับตาแล้วที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบฝ่าพระบาทไว้ในมือของข้าพระบาทในถ้ำนี้ มีผู้สนับสนุนให้ปลงพระชนม์ฝ่าพระบาท แต่ข้าพระบาทไว้ชีวิตฝ่าพระบาท เพราะข้าพระบาทลั่นวาจาไว้ว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ทำร้ายเจ้านายของข้าพเจ้าเพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้’ ดูเถิด ราชบิดาของข้าพระบาท โปรดทอดพระเนตรชายฉลองพระองค์ของฝ่าพระบาทที่อยู่ในมือของข้าพระบาทชิ้นนี้! ข้าพระบาทตัดออกมา แต่ไม่ได้ปลงพระชนม์ฝ่าพระบาท บัดนี้ขอทรงเข้าพระทัยและประจักษ์เถิดว่าข้าพระบาทไม่ได้ทำร้ายหรือกบฏต่อฝ่าพระบาท และไม่ได้ทำผิดต่อฝ่าพระบาท แม้ว่าฝ่าพระบาททรงตามล่าเอาชีวิตข้าพระบาทอยู่ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตัดสินความระหว่างเราสองฝ่าย และขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคืนสนองสิ่งที่ฝ่าพระบาททำผิดต่อข้าพระบาท แต่ข้าพระบาทเองจะไม่แตะต้องฝ่าพระบาท คำโบราณกล่าวไว้ว่า ‘การกระทำชั่วมาจากคนชั่ว’ ฉะนั้นข้าพระบาทจะไม่แตะต้องฝ่าพระบาทเลย

“ใครหนอที่องค์กษัตริย์แห่งอิสราเอลออกตามล่า? พระองค์ทรงไล่ล่าใคร? สุนัขตายหรือ? หมัดตัวหนึ่งหรือ? ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นตุลาการตัดสินระหว่างเรา ขอทรงพิจารณาคดีของข้าพระบาทและทรงยืนยันว่าข้าพระบาทไม่ผิด ขอทรงตัดสินว่าข้าพระบาทไม่ผิดโดยการช่วยกู้ให้พ้นพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”

เมื่อดาวิดทูลจบแล้ว ซาอูลตรัสถามว่า “นั่นเสียงของเจ้าหรือ ดาวิดลูกของเรา?” แล้วพระองค์ก็ทรงกันแสงเสียงดัง และตรัสว่า “เจ้าเป็นคนชอบธรรมมากกว่าเรา เจ้าดีต่อเรามาตลอดแต่เรากลับร้ายกับเจ้า ในวันนี้เจ้าดีต่อเราเหลือเกิน เพราะแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบเราไว้ในมือของเจ้า เจ้าก็ไม่ได้ฆ่าเรา มีใครหรือที่พบศัตรูแล้วปล่อยไปโดยไม่ทำอันตราย? ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปูนบำเหน็จแก่เจ้าที่ได้กรุณาเราในวันนี้ เรารู้ว่าเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์อย่างแน่นอน และอาณาจักรอิสราเอลจะมั่นคงเป็นปึกแผ่นในมือของเจ้า บัดนี้ขอให้สาบานในพระนามพระยาห์เวห์เถิดว่า เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะไม่ฆ่าคนในครอบครัวของเราหรือล้มล้างเชื้อสายของเรา”

ดาวิดก็ถวายปฏิญาณต่อซาอูล จากนั้นซาอูลจึงเสด็จกลับวัง ส่วนดาวิดและพรรคพวกกลับไปยังที่มั่นของตน

Read More of 1ซามูเอล 24

1ซามูเอล 25:1-44

ดาวิด นาบาล และอาบีกายิล

ซามูเอลสิ้นชีวิตลง ชาวอิสราเอลทั้งปวงพากันมาร่วมชุมนุมไว้อาลัยให้แก่ซามูเอล และฝังศพเขาที่รามาห์บ้านเกิดของเขา

ส่วนดาวิดย้ายไปที่ถิ่นกันดารมาโอน25:1 ภาษาฮีบรูว่าปาราน มีเศรษฐีคนหนึ่งในมาโอน มีทรัพย์สินอยู่ที่คารเมล เขามีแพะหนึ่งพันตัว แกะสามพันตัว ขณะนั้นเขาไปที่คารเมลเพื่อตัดขนแกะ เศรษฐีผู้นี้มีนามว่านาบาล เป็นวงศ์วานของคาเลบ ภรรยาของเขาชื่ออาบีกายิล เป็นคนสวยและเฉลียวฉลาด แต่ตัวนาบาลเป็นคนใจแคบและหยาบคาย

ขณะที่ดาวิดอยู่ในถิ่นกันดาร เขาได้ยินว่านาบาลกำลังตัดขนแกะ ก็สั่งชายหนุ่มสิบคนว่า “จงไปหานาบาลที่คารเมลและทักทายเขาในนามของเรา และแจ้งเขาว่า ‘ขอให้ท่านมีอายุมั่นขวัญยืน! ขอให้ท่านและครอบครัวมีสุขภาพดี! ขอให้ทุกอย่างในกรรมสิทธิ์ของท่านเจริญขึ้น!

“ ‘ข้าพเจ้าทราบมาว่าท่านกำลังตัดขนแกะ เราไม่เคยทำร้ายคนเลี้ยงแกะของท่านเลยขณะที่พวกเขาอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา ตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ในคารเมลก็ไม่มีสิ่งใดขาดหายไป โปรดถามคนของท่านดูว่าเป็นอย่างที่กล่าวมานี้หรือไม่ ฉะนั้นขอท่านเกื้อหนุนแก่คนของข้าพเจ้าเพราะเรามาเยือนในงานเลี้ยงฉลองนี้ โปรดให้ดาวิดบุตรและผู้รับใช้ของท่านตามแต่จะเอื้อเฟื้อ’”

เมื่อบรรดาคนของดาวิดมาถึง ก็เรียนให้นาบาลทราบตามนั้นในนามของดาวิดและรอฟังคำตอบ

นาบาลตอบคนรับใช้ของดาวิดว่า “ดาวิดเป็นใครกัน? ลูกเจสซีคนนี้เป็นใครกัน? ทุกวันนี้มีลูกจ้างมากมายหนีนายของตัวไป ควรหรือที่เราจะเอาขนมปัง น้ำ และเนื้อที่เราฆ่าสำหรับคนตัดขนแกะของเราไปให้กลุ่มคนที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า?”

คนของดาวิดจึงกลับมารายงานทุกถ้อยคำที่นาบาลกล่าว ดาวิดสั่งว่า “ให้ทุกคนคาดดาบ!” ตัวดาวิดเองก็สะพายดาบออกเดินทาง มีพรรคพวกสี่ร้อยคนติดตามไป ส่วนอีกสองร้อยคนเฝ้าสัมภาระอยู่ที่กองหลัง

มีคนใช้คนหนึ่งของนาบาลไปบอกอาบีกายิลภรรยาของนาบาลว่า “ดาวิดส่งคนจากถิ่นกันดารมาทักทายนายท่าน แต่นายท่านไปดูถูกเอ็ดตะโรพวกนั้น แท้ที่จริงคนของดาวิดดีต่อเรามาก พวกเขาไม่เคยทำอันตรายอะไรเราเลย ตลอดเวลาที่เราอยู่กลางทุ่งใกล้ๆ พวกเขา ไม่มีอะไรหายสักอย่าง พวกเขาเป็นเกราะกำบังให้เราทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดเวลาที่เราเลี้ยงแกะอยู่ใกล้ๆ พวกเขา ขอให้นายหญิงตรึกตรองดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะภัยกำลังจะมาถึงนายท่านและครอบครัว นายท่านเป็นคนชั่วร้ายไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย”

อาบีกายิลไม่รอช้า รีบจัดขนมปังสองร้อยก้อน เหล้าองุ่นสองถุงหนัง เนื้อแกะที่ทำเสร็จแล้วห้าตัว ข้าวคั่วประมาณ 37 ลิตร25:18 ภาษาฮีบรูว่า5 ซีห์ ขนมลูกเกดหนึ่งร้อยก้อน มะเดื่ออัดสองร้อยก้อน และใช้ลาบรรทุกของเหล่านี้ไป นางสั่งคนรับใช้ว่า “รีบล่วงหน้าไปก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไป” แต่นางไม่ได้บอกนาบาลสามีของนาง

ขณะที่นางขี่ลามาตามทางสู่หุบเขาลึก ก็พบดาวิดกับพวกสวนทางมา ดาวิดเพิ่งกล่าวว่า “เปล่าประโยชน์ที่เราเฝ้าดูแลฝูงสัตว์ของเจ้าคนนี้ในถิ่นกันดาร ไม่ให้อะไรหายไปสักอย่าง เขากลับทำชั่วตอบแทนการดีของเรา หากถึงรุ่งเช้าแล้ว เรายังไว้ชีวิตผู้ชายที่เป็นคนของนาบาลแม้แต่คนเดียว ขอพระเจ้าทรงจัดการกับเรา25:22 ภาษาฮีบรูว่ากับศัตรูของดาวิดอย่างสาหัสสากรรจ์!”

เมื่ออาบีกายิลเห็นดาวิด นางรีบลงจากหลังลา หมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นต่อหน้าดาวิด นางหมอบลงแทบเท้าดาวิดและกล่าวว่า “นายท่านเจ้าข้า ดิฉันขอน้อมรับคำตำหนิทั้งหมด ขอให้ผู้รับใช้ของท่านได้พูดกับท่าน ขอโปรดฟังสิ่งที่ผู้รับใช้จะพูด ขอนายท่านอย่าสนใจนาบาลคนชั่วร้ายนั้นเลย เขาเป็นคนโง่สมชื่อและความเขลาคงจะติดตามเขาไป ส่วนดิฉันผู้รับใช้ของท่านไม่ทันได้พบคนที่นายท่านส่งไป นายท่านเจ้าข้า เนื่องจากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงป้องกันไม่ให้มือของนายท่านเปื้อนเลือดด้วยการลงมือแก้แค้นเอง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใดและท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ขอให้ศัตรูและคนทั้งปวงที่มุ่งร้ายต่อนายท่านจงเป็นเหมือนนาบาลฉันนั้น และนี่คือของกำนัลที่ผู้รับใช้ของนายท่านนำมามอบให้ท่านกับคนของท่าน

“โปรดยกโทษให้แก่การละเมิดของผู้รับใช้ของท่านด้วย เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้ราชวงศ์ของนายท่านยืนยงตลอดไปอย่างแน่นอน เพราะท่านได้ต่อสู้ในสงครามขององค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าให้พบการกระทำผิดในตัวท่านเลยตลอดชีวิตของท่าน ถึงแม้จะมีคนไล่ล่าเอาชีวิตของท่าน นายท่านก็ยังคงปลอดภัยอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่ชีวิตศัตรูของท่านจะลับหายไปเหมือนถูกเหวี่ยงจากสลิง เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลสิ่งดีงามทั้งปวงแก่นายท่านตามพระสัญญา และทรงตั้งท่านเป็นผู้นำเหนืออิสราเอลแล้ว นายท่านจะได้ไม่ต้องเสียใจที่ฆ่าคนโดยไม่จำเป็นหรือลงมือแก้แค้นเอง และเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลความสำเร็จแก่นายท่านแล้ว โปรดระลึกถึงผู้รับใช้ของท่านด้วย”

ดาวิดตอบอาบีกายิลว่า “ขอถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้ทรงส่งเจ้ามาพบเราในวันนี้ ขอพระเจ้าอวยพรเจ้าสำหรับการตัดสินใจที่ดีของเจ้าและที่เจ้าช่วยป้องกันเราไม่ให้ฆ่าคนในวันนี้ ไม่ต้องแก้แค้นให้มือเปื้อนเลือด มิฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้ทรงป้องกันไม่ให้เราทำอันตรายเจ้า ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด หากเจ้าไม่ได้มาพบเราอย่างรวดเร็ว คนของนาบาลคงไม่มีชีวิตเหลือรอดแม้แต่คนเดียวในเช้าวันพรุ่งนี้ฉันนั้น”

แล้วดาวิดจึงรับของกำนัลจากนาง และกล่าวว่า “จงกลับบ้านไปโดยสวัสดิภาพเถิด เรารับฟังและจะทำตามคำขอร้องของเจ้า”

เมื่อนางกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่านาบาลได้จัดงานเลี้ยงใหญ่ราวกับงานเลี้ยงของกษัตริย์ เขากำลังเมาอย่างหนัก นางจึงไม่ได้เล่าสิ่งใดให้เขาฟังจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเขาสร่างเมาแล้ว และภรรยาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขาถึงกับตกใจมากและแน่นิ่งไปเหมือนก้อนหิน ประมาณสิบวันหลังจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษนาบาลและเขาก็ตาย

เมื่อดาวิดได้ยินว่านาบาลตายแล้ว ก็กล่าวว่า “สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงให้ความเป็นธรรมแก่เราแล้วที่นาบาลดูหมิ่นเรา และทรงป้องกันผู้รับใช้ของพระองค์ไม่ให้ทำผิด และทรงให้นาบาลได้รับโทษสาสมกับความผิดแล้ว”

จากนั้นดาวิดก็ส่งคนไปขอนางอาบีกายิลมาเป็นภรรยา คนของดาวิดมาที่คารเมล และกล่าวกับอาบีกายิลว่า “ดาวิดส่งเรามารับท่านไปเป็นภรรยาของเขา”

นางหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นกล่าวว่า “ผู้รับใช้ของท่านอยู่นี่แล้ว พร้อมที่จะรับใช้ท่าน และล้างเท้าให้บริวารของนายท่าน” อาบีกายิลรีบขึ้นลาไปกับผู้สื่อสารของดาวิด โดยมีสาวใช้ห้าคนติดตามไปด้วย นางได้เป็นภรรยาของดาวิด ดาวิดยังได้แต่งงานกับนางอาหิโนอัมจากยิสเรเอลด้วย และนางทั้งสองได้เป็นภรรยาของดาวิด แต่ซาอูลทรงยกมีคาลราชธิดาของพระองค์ซึ่งเป็นภรรยาของดาวิดให้แก่ปัลทีเอล25:44 ภาษาฮีบรูว่าปัลทีเป็นอีกรูปหนึ่งของปัลทีเอลบุตรลาอิชผู้มาจากกัลลิม

Read More of 1ซามูเอล 25