1Sɛ anka woyɛɛ me nuabarima
a wunum me na nufu ano,
na mihuu wo wɔ abɔnten so a,
anka mefew wʼano,
a obiara rentumi mmu me animtiaa.
2Anka medi wʼanim
na mede wo aba me na fi,
ɔno a wakyerɛkyerɛ me.
Anka mɛma wo bobesa a wɔde pɛprɛ afra mu,
me ntunkum mu nsu dɔkɔdɔkɔ no bi.
3Ne nsa benkum da mʼatiko
na ne nsa nifa aka me afam ne bo.
4Yerusalem mmabea, mehyɛ mo sɛ,
morennyan na morenhwanyan ɔdɔ mu
kosi bere a ɛsɛ mu.
Nnamfonom:
5Hena na ofi sare so reba a
otweri ne dɔfo koko mu yi?
Ababaa:
Mekanyan wo wɔ aprɛ dua no ase;
ɛhɔ na wo na nyinsɛnee wo,
ɛhɔ na nea ɔkoo awo no woo wo.
6Fa me to wo koma so sɛ nsɔwanode,
sɛ nsɔwanode wɔ wʼabasa so,
efisɛ ɔdɔ ano yɛ den sɛ owu,
ne ninkutwe tim hɔ sɛ ɔda.
Ɛhyehye sɛ ogyatannaa,
sɛ ogyatannaa a ano yɛ den pa ara.
7Nsu dodow rentumi nnum ɔdɔ;
nsubɔnten rentumi nhohoro nkɔ.
Sɛ obi de ne fi ahonya nyinaa bɛsesa ɔdɔ a
anka wɔremmu no ade a ɛsom bo.
Nnamfonom:
8Yɛwɔ nuabea akumaa bi a,
ne nufu mmobɔɔ ɛ.
Dɛn na yɛbɛyɛ ama yɛn nuabea yi
wɔ da a wobebisa no ase?
9Sɛ ɔyɛ ɔfasu a,
yebesi dwetɛ abantenten abɔ ne ho ban.
Sɛ ɔyɛ ɔpon a,
yɛde sida besiw ne pon ano kwan.
Ababaa:
10Meyɛ ɔfasu,
na me nufu te sɛ abantenten.
Enti nʼani so no mayɛ sɛ obi a
ɔde nea ɛsɔ ani reba.
11Na Salomo wɔ bobeturo wɔ Baal-Hamon;
ɔde ne bobeturo no maa apaafo.
Na ɛsɛ sɛ wɔn mu biara tua no
nnwetɛbona apem.
12Nanso me bobeturo yi yɛ me de.
Me de, meremfa mma;
Salomo de ne de gye nnwetɛbona apem,
na otua nʼapaafo nnwetɛbona ahannu ma wɔhwɛ ne nnuaba no so.
Aberante:
13Wo a wote turo no mu
ne nnamfonom a wɔka wo ho,
ma mente wo nne.
Ababaa:
14Bra ma yɛnkɔ, me dɔfo,
na yɛ wo ho sɛ ɔdabɔ ba
anaasɛ ɔforote ba a
ɔwɔ mmepɔw a nnuhuam ahyɛ so ma so.
1ถ้าเพียงแต่คุณเป็นพี่ชายของดิฉัน
ที่ดูดนมจากอกของแม่ดิฉัน!
ดิฉันก็จะจูบคุณได้
เมื่อพบคุณข้างนอก
และจะไม่มีใครเหยียดหยามดิฉัน
2ดิฉันจะพาคุณ
มายังบ้านแม่ของดิฉัน
ผู้ที่ได้สั่งสอนดิฉันมา
ดิฉันจะให้คุณดื่มเหล้าองุ่นใส่เครื่องเทศ
เป็นเหล้าทับทิมหวานละมุน
3แขนซ้ายของเขาช้อนประคองศีรษะของดิฉัน
และแขนขวาของเขาโอบกอดดิฉันไว้
4บรรดาสตรีชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย เรากำชับเจ้าว่า
อย่าปลุกเร้าความรัก
แต่ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน
เพื่อน
5นี่ใครหนอกำลังมาจากทะเลทราย
อิงแอบคู่รักของเธอมา?
หญิงสาว
ใต้ต้นแอปเปิ้ล ซึ่งแม่ของคุณให้กำเนิดคุณด้วยความเจ็บปวด
ดิฉันจะปลุกความรักของคุณที่นั่น
6โปรดให้ดิฉันเป็นดั่งดวงตราประทับที่ใจ
และที่แขนของคุณเพื่อแสดงว่าคุณเป็นของดิฉัน
เพราะความรักทรงอำนาจประหนึ่งความตาย
และความหึงหวง8:6 หรือความเร่าร้อนคงทนราวกับแดนผู้ตาย
ความรักนั้นแผดเผาดั่งไฟ
เสมือนเปลวไฟแรงกล้า8:6 หรือเปลวไฟขององค์พระผู้เป็นเจ้า
7ธารน้ำหลายสายไม่อาจดับเพลิงรัก
แม่น้ำไม่อาจพัดพาความรักไปได้
หากใครทุ่มเททรัพย์สินจนหมดตัว
เพื่อแลกกับความรัก
ไม่แคล้วถูกดูหมิ่นดูแคลน
เพื่อน
8เรามีน้องสาวเล็กๆ คนหนึ่ง
ซึ่งทรวงอกยังไม่ขึ้น
เราจะทำอย่างไรดี
หากมีคนมาสู่ขอน้อง?
9หากน้องเป็นกำแพง
เราจะสร้างหอคอยเงินบนนั้น
หากน้องเป็นประตู
เราจะใส่กลอนด้วยไม้สนซีดาร์
หญิงสาว
10ดิฉันเป็นกำแพง
และทรวงอกของดิฉันเหมือนหอคอย
ในสายตาของที่รัก
ดิฉันเป็นเหมือนคนที่นำความอิ่มใจมา
11กษัตริย์โซโลมอนทรงมีสวนองุ่นขนัดหนึ่งที่บาอัลฮาโมน
พระองค์ให้ชาวสวนที่นั่นเช่า
เก็บค่าเช่าเป็นเงิน
หนักคนละพันเชเขล8:11 1 เชเขล คือเงินหนักประมาณ 11.5 กรัม มีค่าเท่ากับค่าแรงสองเดือน เช่นเดียวกับข้อ 12
12แต่สำหรับสวนองุ่นของดิฉันเอง
แล้วแต่ดิฉันจะให้ใคร
ข้าแต่โซโลมอน พันเชเขลนั้นเป็นของพระองค์
และสองร้อยเชเขลเป็นของผู้ดูแลสวน
ชายหนุ่ม
13เธอซึ่งอยู่ในอุทยาน รายรอบด้วยหมู่เพื่อนๆ
ขอให้ผมได้ยินเสียงของคุณ!
หญิงสาว
14มาเถิด ที่รักของดิฉัน ขอให้คุณเป็นเหมือนละมั่ง
หรือกวางหนุ่มบนภูเขาที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศเถิด