1 Beresosɛm 29 – AKCB & TNCV

Akuapem Twi Contemporary Bible

1 Beresosɛm 29:1-30

Asɔredan No Si Ho Akyɛde

1Afei, Ɔhene Dawid dan nʼani kyerɛɛ ɔmanfo no kae se, “Me babarima Salomo a Onyankopɔn ayi no sɛ onni Israel so sɛ ɔhene foforo no da so yɛ abofra a onni osuahu biara. Adwuma a ɛda nʼanim no so, na Asɔredan a obesi no nyɛ dan hunu bi. Ɛyɛ Awurade Nyankopɔn no ankasa de. 2Mede nea mitumi yɛ biara adi dwuma, maboaboa nea matumi anya nyinaa ano ama me Nyankopɔn Asɔredan no si. Mprempren, sikakɔkɔɔ, dwetɛ, kɔbere mfrafrae, nnade ne nnua ne apopobibiri abo ne aboɔden abo, aboɔden agude ne abo pa ne abohemaa ahorow nyinaa pii wɔ hɔ. 3Na esiane me ho a mede ama me Nyankopɔn Asɔredan no nti, mede mʼankasa sikakɔkɔɔ ne dwetɛ bɛboa ɔdan no si. Eyinom bɛka adansi no ho nneɛma a maboaboa ano ama asɔredan kronkron no ho. 4Mama Ofir sikakɔkɔɔ a ɛboro nsania ani tɔn ɔha ne dumien ne dwetɛ a wɔahoa ho nsania ani tɔn ahannu aduosia abien a wɔde begu adan no afasu anim, 5ne sikakɔkɔɔ ne dwetɛ nnwuma a aka a adwumfo no bɛyɛ no. Afei, hena na obeyi ne yam de nʼayɛyɛde ama Awurade nnɛ?”

6Na abusua ntuanofo, Israel mmusuakuw ntuanofo, asahene ne asraafo mpanyimfo ne ɔhene adwumayɛfo nyinaa fii ɔpɛ pa mu mae. 7Wɔmaa sikakɔkɔɔ bɛyɛ tɔn ɔha aduɔwɔtwe awotwe, sika ankasa mpem du, dwetɛ bɛyɛ tɔn ahaasa aduɔson anum, kɔbere mfrafrae bɛyɛ tɔn ahansia aduɔson anum ne nnade bɛyɛ tɔn mpem ahaasa ahanson ne aduonum, de boaa Asɔredan no si. 8Wɔmaa aboɔden abo bebree a wɔkɔkoraa no wɔ sikakorabea a ɛwɔ Awurade fi maa Yehiel a ɔyɛ Gerson aseni hwɛɛ so. 9Nnipa no ani gyee ɔma no ho, efisɛ wofi ɔpɛ pa ne koma pa mu na woyiyi maa Awurade, na Ɔhene Dawid ani gyee yiye.

Dawid Kamfo Awurade

10Na ɔhene Dawid kamfoo Awurade wɔ nnipa no nyinaa anim se,

Awurade,

yɛn agya Israel Nyankopɔn,

ayeyi nka wo daa nyinaa.

11Kɛseyɛ, ahoɔden, anuonyam,

nkonimdi ne tumi yɛ wo de, Awurade.

Biribiara a ɛwɔ ɔsoro ne asase so yɛ wo de,

Awurade, na ahenni yi nso yɛ wo de.

Yɛma wo so sɛ wone ade nyinaa so tumfo.

12Ahonya ne anuonyam fi wo nko ara,

efisɛ woyɛ ade nyinaa sodifo.

Tumi ne ahoɔden nyinaa wɔ wo nsam

na wopɛ mu na wufi ma nnipa yɛ kɛse na wonya ahoɔden.

13Afei, yɛn Nyankopɔn, yɛda wo ase,

na yɛkamfo wo din kronkron no.

14“Na me ne hena na me nkurɔfo ne nnipa bɛn a yetumi kyɛ wo biribi? Biribiara a yɛwɔ no fi wo nkyɛn, na nea yɛde ma wo no yɛ nea wode ama yɛn dedaw no. 15Yɛwɔ ha mmere tiaa bi sɛ nsrahwɛfo ne ahɔho wɔ asase a yɛn agyanom dii kan wɔ so no so. Yɛn nna wɔ asase so te sɛ sunsuma a etwa mu kɔ ntɛm so a wonhu bio. 16Awurade, yɛn Nyankopɔn, saa nneɛma a yɛaboaboa ano de rebesi asɔredan de ahyɛ wo din kronkron anuonyam yi mpo fi wo nkyɛn! Ne nyinaa yɛ wo dea. 17Me Nyankopɔn, minim sɛ wohwehwɛ yɛn koma mu, na sɛ wuhu nokwaredi wɔ mu a, wʼani gye. Wunim sɛ mede adwene pa na ɛyɛɛ eyinom nyinaa, na mahwɛ ahu sɛnea wo nkurɔfo fi koma pa ne anigye mu de wɔn akyɛde aba. 18Awurade, yɛn agyanom Abraham, Isak ne Israel Nyankopɔn, ma wo nkurɔfo nyɛ osetie mma wo daa. Mma ɔdɔ a wɔde dɔ wo no nsesa. 19Ma me babarima Salomo koma nyinaa mu ɔpɛ pa, na onni wʼahyɛde, wo mmara ne wo nkyerɛkyerɛ so, na onsi saa Asɔredan yi a mayɛ ho ahoboa nyinaa no.”

20Afei, Dawid ka kyerɛɛ ɔmanfo no nyinaa se, “Monkamfo Awurade, mo Nyankopɔn!” Na ɔmanfo no nyinaa kamfoo Awurade, wɔn agyanom Nyankopɔn, na wɔkotow buu nkotodwe wɔ Awurade ne ɔhene no anim.

Wosi Salomo Ɔhene

21Ade kyee no, wɔde anantwinini apem, adwennini apem ne nguamma anini apem bɛbɔɔ ɔhyew afɔre maa Awurade. Wɔsan gyinaa Israel anan mu, de ɔnom afɔrebɔde pii ne afɔrebɔde ahorow bae. 22Wɔde ahosɛpɛw didi nomee da no wɔ Awurade anim.

Na bio, wɔhyɛɛ Dawid babarima Salomo ahenkyɛw sɛ wɔn hene foforo. Wɔsraa no ngo wɔ Awurade anim sɛ wɔn ntuanoni, na wɔsraa Sadok nso ngo sɛ wɔn sɔfo. 23Na Salomo tenaa Awurade ahengua no so sɛ nʼagya Dawid nanmusini, na ɔkɔɔ so yiye, na Israel nyinaa tiee no. 24Adehye mpanyimfo nyinaa, asahene ne Dawid mmabarima nyinaa sua kyerɛɛ ɔhene Salomo.

25Na Awurade pagyaw Salomo maa Israelman no maa no nidi nwonwaso, na ɔmaa Salomo ahonya ne anuonyam sen nʼagya.

Dawid Wu

26Enti Yisai babarima Dawid dii Israel nyinaa so hene. 27Odii hene wɔ Israel mfe aduanan a ne nkyerɛmu ne sɛ, odii Hebron so mfe ason, na mfe aduasa abiɛsa nso, ɔtenaa Yerusalem. 28Ɔtenaa ase kyɛe, nyinii yiye, nyaa ahode ne anuonyam ansa na ɔrewu. Na ne babarima Salomo dii nʼade sɛ ɔhene. 29Efi Ɔhene Dawid adedi mfiase de kosi nʼawie mu nsɛm nyinaa, wɔakyerɛw agu ɔdehufo Samuel abakɔsɛm nhoma, odiyifo Natan abakɔsɛm nhoma ne ɔdehufo Gad abakɔsɛm nhoma mu. 30Nʼadedi mu akokodurusɛm ne biribiara a ɛbaa ne so, Israel ne ahenni ahorow a atwa ne ho ahyia nyinaa nso yɛ nsɛm a wɔakyerɛw.

Thai New Contemporary Version

1พงศาวดาร 29:1-30

ของถวายสำหรับสร้างพระวิหาร

1จากนั้นกษัตริย์ดาวิดตรัสกับชุมนุมประชากรทั้งหมดว่า “โซโลมอนบุตรของข้าพเจ้าซึ่งพระเจ้าทรงเลือกสรรนั้นยังเด็กและอ่อนประสบการณ์นัก งานที่รออยู่ก็ใหญ่หลวง เพราะอาคารมโหฬารนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อมนุษย์ แต่สำหรับพระเจ้าพระยาห์เวห์ 2ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมไว้สุดความสามารถสำหรับพระวิหารของพระเจ้า ไม่ว่าทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ โกเมน หินจำพวกโมรา พลอยขี้นกการเวก29:2 ในภาษาฮีบรูคำนี้มีความหมายไม่ชัดเจน สำหรับฝังประดับเพชรพลอยหลากสี หินลาย และหินอ่อนจำนวนมหาศาล 3และบัดนี้ ด้วยชีวิตที่ทุ่มเทเพื่อพระวิหารของพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบทองและเงินซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวเพื่อสมทบในการก่อสร้างพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์นี้ นอกเหนือจากวัสดุทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้รวบรวมไว้ให้แล้วนั้น 4ของถวายส่วนตัวนี้ได้แก่ ทองคำหนักประมาณ 100 ตัน29:4 ภาษาฮีบรูว่า3,000 ตะลันต์ (เป็นทองคำจากโอฟีร์) และเงินบริสุทธิ์หนักประมาณ 240 ตัน29:4 ภาษาฮีบรูว่า7,000 ตะลันต์ สำหรับใช้กรุผนังอาคาร 5สำหรับทำเครื่องเงินเครื่องทองและงานช่างฝีมือ บัดนี้มีใครบ้างที่เต็มใจจะทุ่มเทถวายตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนี้?”

6บรรดาผู้นำของวงศ์วานต่างๆ เจ้าหน้าที่ประจำเผ่า แม่ทัพนายกอง และข้าราชบริพารทั้งหลายจึงพากันเต็มใจถวาย 7เพื่องานสร้างพระวิหารของพระเจ้า พวกเขาได้มอบทองคำหนักประมาณ 170 ตัน กับอีกประมาณ 84 กิโลกรัม29:7 ภาษาฮีบรูว่าพวกเขาได้มอบทองคำหนัก 5,000 ตะลันต์ กับอีก 10,000 ดาริค เงินหนักประมาณ 345 ตันทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 610 ตัน และเหล็กหนักประมาณ 3,450 ตัน29:7 ภาษาฮีบรูว่าเงินหนัก 10,000 ตะลันต์ ทองสัมฤทธิ์หนัก 18,000 ตะลันต์ และเหล็กหนัก 100,000 ตะลันต์ 8ใครมีเพชรนิลจินดาก็นำมาถวายที่คลังของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในความดูแลของเยฮีเอลตระกูลเกอร์โชน 9ประชาชนพากันชื่นชมยินดีที่บรรดาผู้นำของตนเต็มใจมอบถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดหัวใจ กษัตริย์ดาวิดเองก็ทรงปีติยินดีอย่างยิ่ง

คำอธิษฐานของดาวิด

10ดาวิดสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าชุมนุมประชากรทั้งปวงว่า

“ข้าแต่พระยาห์เวห์

พระเจ้าของอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย

ขอสรรเสริญพระองค์จากนิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล

11ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ

เกียรติสิริ บารมี และเดชานุภาพ เป็นของพระองค์

ทุกสิ่งในฟ้าสวรรค์และพิภพโลกเป็นของพระองค์

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าราชอาณาจักรเป็นของพระองค์

พระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องเทิดทูนในฐานะประมุขเหนือสิ่งสารพัด

12ความมั่งคั่งและเกียรติมาจากพระองค์

พระองค์ทรงครอบครองเหนือสรรพสิ่ง

พลังอำนาจอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ที่จะเชิดชู

และประทานกำลังแก่ทุกคน

13ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายขอขอบพระคุณพระองค์

และสรรเสริญพระนามอันธำรงเกียรติสิริของพระองค์

14“แต่ข้าพระองค์เป็นใครหนอ และประชากรของข้าพระองค์เป็นใครกันเล่า ที่จะสามารถถวายแด่พระองค์อย่างเต็มใจเช่นนี้ ทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเพียงแต่ถวายสิ่งที่มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ 15ข้าพระองค์ทั้งหลายก็เหมือนบรรพบุรุษ คือเป็นคนแปลกหน้าและต่างถิ่นในสายพระเนตรของพระองค์ วันเวลาของข้าพระองค์ทั้งหลายในโลกนี้ก็เหมือนเงา ไม่มีความหวังใดๆ 16ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทรัพย์สมบัติที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้รวบรวมขึ้นเพื่อสร้างพระวิหารสำหรับพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์นี้ล้วนมาจากพระหัตถ์ของพระองค์ และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นของพระองค์ 17ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์ทรงชันสูตรจิตใจและพอพระทัย ในความซื่อสัตย์สุจริต ข้าพระองค์ถวายสิ่งทั้งปวงนี้ด้วยความเต็มใจและจากใจจริง บัดนี้ข้าพระองค์ดีใจที่เห็นประชากรของพระองค์ในที่นี้ถวายสิ่งของด้วยความเต็มใจ 18ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงกระทำให้ประชากรของพระองค์มีความปรารถนาเช่นนี้ในจิตใจเสมอ และมีจิตใจจงรักภักดีต่อพระองค์ตลอดไป 19ขอโปรดให้โซโลมอนบุตรของข้าพระองค์ทุ่มเทหัวใจที่จะปฏิบัติตามพระบัญชา ข้อกำหนด และกฎหมายของพระองค์ และทำทุกสิ่งในการสร้างพระวิหารซึ่งข้าพระองค์เตรียมการไว้นี้”

20แล้วดาวิดตรัสกับชุมนุมประชากรทั้งปวงว่า “จงสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน” เขาทั้งปวงก็หมอบกราบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และกษัตริย์ และสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

โซโลมอนขึ้นเป็นกษัตริย์

(1พกษ.1:28-53)

21วันรุ่งขึ้นพวกเขานำวัวหนุ่มหนึ่งพันตัว แกะผู้หนึ่งพันตัว และลูกแกะตัวผู้หนึ่งพันตัวมาเป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมทั้งเครื่องดื่มบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆ มากมายมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า สำหรับอิสราเอลทั้งปวง 22ในวันนั้นมีงานเลี้ยงฉลองด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

แล้วพวกเขาสถาปนาโซโลมอนราชโอรสของดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เป็นครั้งที่สอง พวกเขาเจิมตั้งพระองค์ขึ้นเป็นผู้ปกครองต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และเจิมตั้งศาโดกเป็นปุโรหิต 23โซโลมอนจึงขึ้นเป็นกษัตริย์ครองราชบัลลังก์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าแทนดาวิดราชบิดา ทรงเจริญรุ่งเรือง และอิสราเอลทั้งปวงต่างเชื่อฟังพระองค์ 24บรรดาผู้นำของชาติ แม่ทัพนายกอง ตลอดจนโอรสทั้งปวงของกษัตริย์ดาวิดต่างถวายความจงรักภักดีต่อกษัตริย์โซโลมอน

25องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเชิดชูโซโลมอนอย่างสูงในสายตาปวงชนอิสราเอล และประทานเกียรติบารมีอย่างที่ไม่มีกษัตริย์อิสราเอลองค์ใดเคยได้รับมาก่อน

ดาวิดสิ้นพระชนม์

(1พกษ.2:10-12)

26ดาวิดบุตรเจสซีทรงเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวง 27พระองค์ทรงปกครองอิสราเอลอยู่ 40 ปี โดยปกครองในเมืองเฮโบรน 7 ปี และในกรุงเยรูซาเล็ม 33 ปี 28ดาวิดสิ้นพระชนม์เมื่อทรงชรามาก ได้ชื่นชมกับชีวิตยืนยาว เกียรติ และความมั่งคั่ง โซโลมอนราชโอรสขึ้นครองราชย์แทน

29เหตุการณ์ต่างๆ ในรัชกาลกษัตริย์ดาวิดตั้งแต่ต้นจนจบบันทึกไว้ในพงศาวดารของผู้ทำนายซามูเอล พงศาวดารของผู้เผยพระวจนะนาธัน และในพงศาวดารของผู้ทำนายกาด 30พร้อมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับรัชกาลของพระองค์ แสนยานุภาพ และเหตุการณ์ทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับพระองค์ และอิสราเอลกับอาณาจักรอื่นๆ ทั้งปวง