เยเรมีย์ 48 – TNCV & NAV

Thai New Contemporary Bible

เยเรมีย์ 48:1-47

พระดำรัสเกี่ยวกับโมอับ

(อสย.16:6-12)

1พระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

พระเจ้าแห่งอิสราเอลเกี่ยวกับโมอับความว่า

“วิบัติแก่เนโบ เพราะมันจะถูกทำลาย

คีริยาธาอิมจะอัปยศอดสูและถูกยึด

ป้อมที่มั่น48:1 หรือมิสกาบจะอัปยศอดสูและพังทลาย

2โมอับจะไม่เป็นที่ยกย่องอีกแล้ว

ในเฮชโบน48:2 ในภาษาฮีบรูคำว่าเฮชโบนมีเสียงคล้ายกับคำที่มีความหมายว่าวางแผนผู้คนจะวางแผนโค่นล้มโมอับว่า

‘มาเถิด ให้เราทำให้ชนชาตินี้สิ้นไป’

มัดเมน48:2 ชื่อเมืองมัดเมนของโมอับ มีเสียงคล้ายกับคำภาษาฮีบรูที่มีความหมายว่าถูกทำให้เงียบงันเอ๋ย เจ้าเองก็จะถูกทำให้เงียบงันเช่นกัน

ดาบจะตามล่าเจ้า

3ฟังเสียงร้องจากโฮโรนาอิมสิ

เสียงห้ำหั่น และเสียงเข้าทำลายล้างขนานใหญ่

4โมอับจะแหลกลาญ

บรรดาลูกน้อยของเธอร้องเสียงดัง48:4 ฉบับ LXX. ว่าประกาศแก่โศอาร์

5พวกเขาขึ้นไปตามทางสู่ลูฮิท

ร้องไห้อย่างขมขื่นขณะเดินไป

ตามเส้นทางสู่โฮโรนาอิม

ได้ยินเสียงร้องโหยหวนเพราะถูกทำลาย

6หนีเร็ว! จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด

จงเป็นเหมือนพุ่มไม้48:6 หรือเหมือนอาโรเออร์ในถิ่นกันดารเถิด

7เพราะเจ้าวางใจในทรัพย์สมบัติและความสามารถของตนเอง

เจ้าจึงจะตกเป็นเชลยด้วย

และพระเคโมชจะถูกเนรเทศไปต่างแดน

พร้อมกับบรรดาปุโรหิตและเหล่าขุนนางของตน

8ผู้ทำลายจะมาต่อสู้ทุกเมือง

และไม่มีสักเมืองเดียวรอดไปได้

หุบเขาและที่ราบสูงจะถูกทำลาย

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว

9จงเอาเกลือใส่โมอับเถิด

เพราะมันจะร้างเปล่า48:9 หรือจงติดปีกให้โมอับเถิด / เพื่อมันจะได้โผบินไป

หัวเมืองต่างๆ จะถูกทิ้งร้าง

ไม่มีคนอยู่อาศัย

10“คำสาปแช่งตกอยู่แก่ผู้เฉื่อยช้าในการทำงานที่องค์พระผู้เป็นเจ้ามอบหมายให้!

คำสาปแช่งมีแก่ผู้เก็บดาบไว้ ไม่ยอมทำให้เลือดชโลมดิน!

11“โมอับอยู่สงบมาตั้งแต่เยาว์วัย

เหมือนเหล้าองุ่นที่ทิ้งไว้ทั้งตะกอน

ไม่มีการเปลี่ยนถ่ายใส่ไหใหม่

ไม่เคยตกเป็นเชลย

ฉะนั้นรสชาติจึงคงเดิม

และกลิ่นก็ไม่เปลี่ยน

12แต่วันเวลาจะมาถึง”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

“เมื่อเราจะส่งคนมาเทโมอับ

ออกจากไห

พวกเขาจะเทโมอับออกจนเกลี้ยง

แล้วทุบไหแตกเป็นเสี่ยงๆ

13เมื่อนั้นโมอับจะอับอายขายหน้าเพราะพระเคโมช

เหมือนที่วงศ์วานอิสราเอลอับอายขายหน้า

เมื่อวางใจในเบธเอล

14“เจ้าพูดออกมาได้อย่างไรว่า ‘เราเป็นนักรบ

เป็นผู้แกล้วกล้าในสงคราม’?

15โมอับจะถูกทำลาย และหัวเมืองต่างๆ จะถูกย่ำยี

ชายหนุ่มชั้นยอดของโมอับจะถูกประหาร”

องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

16“โมอับจวนจะล่มแล้ว

ความย่อยยับของมันจะมาถึงอย่างรวดเร็ว

17บรรดาผู้อยู่รายรอบโมอับ จงไว้อาลัยให้มัน

บรรดาผู้รู้ถึงชื่อเสียงของโมอับ

กล่าวว่า ‘คทาเกรียงไกรแหลกลาญถึงเพียงนี้หนอ

ไม้เท้าอันทรงสง่าราศีแตกหักถึงเพียงนี้!’

18“ชาวดีโบนเอ๋ย

จงลงจากที่สูงศักดิ์ของเจ้า

มานั่งบนพื้นดินแตกระแหงเถิด

เพราะผู้ที่ทำลายล้างโมอับ

จะมาเล่นงานเจ้า

และจะทำลายเมืองป้อมปราการต่างๆ ของเจ้า

19ชาวเมืองอาโรเออร์

จงออกมายืนดูริมถนน

จงถามชายหญิงที่กำลังหนีจ้าละหวั่นว่า

‘เกิดอะไรขึ้น?’

20โมอับขายหน้าเพราะมันถูกขยี้แหลกลาญ

จงร้องไห้คร่ำครวญเถิด!

จงป่าวร้องริมแม่น้ำอารโนนว่า

โมอับถูกทำลายแล้ว

21การพิพากษาลงโทษมาถึงที่ราบสูงแล้ว

ถึงโฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอาท

22ถึงดีโบน เนโบ และเบธดิบลาธาอิม

23ถึงคีริยาธาอิม เบธกามุล และเบธเมโอน

24ถึงเคริโอท และโบสราห์

ถึงหัวเมืองทั้งปวงของโมอับทั้งใกล้และไกล

25พลัง48:25 หรือเขาสัตว์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกำลังของโมอับถูกตัดขาดเสียแล้ว

และแขนของมันก็ถูกหัก”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

26“จงทำให้โมอับมึนเมา

เพราะมันลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า

ให้โมอับเกลือกกลิ้งอยู่ในอาเจียนของตน

ให้มันเป็นเป้าของการเย้ยหยัน

27อิสราเอลก็เป็นเป้าให้เจ้าเยาะเย้ยแล้วไม่ใช่หรือ?

อิสราเอลตกอยู่ในหมู่โจร

ให้เจ้าส่ายหน้าเย้ยหยัน

ทุกครั้งที่เอ่ยถึงไม่ใช่หรือ?

28ทิ้งเมืองไปอยู่ตามซอกหินเถิด

ชาวโมอับทั้งหลาย

จงเป็นดั่งนกพิราบ

ซึ่งทำรังไว้ที่ปากถ้ำ

29“เราได้ยินถึงความหยิ่งทะนงของโมอับ

ความอวดดี ความจองหอง

ความลำพอง และความเย่อหยิ่ง

และความฮึกเหิมในใจของโมอับ

30เรารู้ความกำเริบเสิบสานของมันซึ่งเปล่าประโยชน์”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

“และคำคุยโวของโมอับก็ไร้สาระ

31ฉะนั้นเราจึงร่ำไห้ให้กับโมอับ

เราร้องไห้เพื่อโมอับทั้งปวง

เราคร่ำครวญให้ผู้คนของคีร์หะเรเสท

32เถาองุ่นแห่งสิบมาห์เอ๋ย

เราร่ำไห้ให้เจ้าดังที่ยาเซอร์ร่ำไห้

กิ่งก้านสาขาของเจ้าแผ่ขยายไปไกลถึงทะเล

ทอดไปไกลถึงทะเลแห่งยาเซอร์

ผู้ทำลายได้จู่โจม

เถาองุ่นและผลไม้สุกของเจ้าแล้ว

33ความสุขยินดีสูญสิ้นไป

จากเรือกสวนและท้องทุ่งของโมอับ

เราทำให้น้ำองุ่นหยุดไหลจากบ่อย่ำองุ่นเสียแล้ว

ไม่มีคนย่ำองุ่นพร้อมเสียงโห่ร้องยินดีอีกต่อไป

เสียงโห่ร้องที่มี

ไม่ใช่เสียงร่าเริงยินดี

34“เสียงร่ำไห้ของพวกเขาดังขึ้น

จากเฮชโบนถึงเอเลอาเลห์และยาฮาส

จากโศอาร์ไปไกลถึงโฮโรนาอิมและเอกลัทเชลิชิยาห์

เพราะแม้แต่ห้วงน้ำแห่งนิมริมก็เหือดแห้ง

35เราจะนำจุดจบ

มาสู่ผู้ถวายเครื่องบูชาในสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย

และเผาเครื่องหอมบูชาเทพเจ้าต่างๆ ของตนในโมอับ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

36“ฉะนั้นจิตใจของเราคร่ำครวญถึงโมอับเหมือนเสียงขลุ่ย

เสียงอ้อยส้อยเหมือนเสียงขลุ่ยเพื่อผู้คนแห่งคีร์หะเรเสท

ทรัพย์สมบัติที่พวกเขาได้มาก็สูญสิ้นไป

37ทุกศีรษะถูกโกนโล้นเตียน

ทุกหนวดเคราถูกโกนเกลี้ยง

ทุกมือถูกกรีด

ทุกเอวคาดผ้ากระสอบ

38ทุกหลังคาเรือนในโมอับ

และตามทางแยกสาธารณะ

มีแต่การไว้ทุกข์

เพราะเราทุบโมอับทิ้ง

เหมือนตุ่มไหที่ไม่มีใครต้องการ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

39“มันแหลกป่นปี้เพียงไร ดูพวกเขาร่ำไห้สิ

ดูสิว่าโมอับหันกลับด้วยความอัปยศอดสูเพียงไร!

โมอับกลายเป็นเป้าให้เย้ยหยัน

เป็นที่สยดสยองของบรรดาผู้ที่อยู่รายรอบ”

40องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ดูเถิด! อินทรีตัวหนึ่งกำลังโฉบลงมา

กางปีกเหนือโมอับ

41นครต่างๆ48:41 หรือเคริโอทและที่มั่นทั้งหลาย

จะถูกยึด

ในวันนั้นจิตใจของนักรบแห่งโมอับ

จะเหมือนจิตใจของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก

42โมอับจะถูกทำลายสิ้นชาติ

เพราะลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า

43ประชากรโมอับเอ๋ย

ความสยดสยอง หลุมพราง และกับดักรอคอยเจ้าอยู่”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

44“ผู้ใดหนีเตลิดจากความสยดสยอง

จะตกในหลุมพราง

ผู้ใดปีนออกมาจากหลุมพราง

จะตกลงในกับดัก

เพราะเราจะนำปีแห่งการลงโทษ

มาเหนือโมอับ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

45“ผู้ลี้ภัยยืนอยู่ในร่มเงาของเฮชโบน

อย่างสิ้นเนื้อประดาตัว

เพราะมีไฟออกจากเฮชโบน

เปลวไฟแรงกล้าจากกลางสิโหน

เผาผลาญหน้าผากของโมอับ

เผากะโหลกศีรษะของนักคุยโวเสียงขรม

46วิบัติแก่เจ้า โมอับเอ๋ย!

ไพร่พลของพระเคโมชถูกทำลายล้าง

บรรดาลูกชายลูกสาวของเจ้า

ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย

47“ถึงกระนั้น ในภายภาคหน้า

เราจะให้โมอับกลับสู่สภาพดี”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

คำพิพากษาโทษโมอับจบลงเพียงเท่านี้

Ketab El Hayat

إرميا 48:1-47

رسالة بخصوص موآب

1نُبُوءَةٌ عَنِ الْمُوَآبِيِّينَ: هَذَا مَا يُعْلِنُهُ الرَّبُّ الْقَدِيرُ إِلَهُ إِسْرَائِيلَ: «وَيْلٌ لِنَبُو لأَنَّهَا أَصْبَحَتْ أَطْلالاً. لَحِقَ الْعَارُ بِقَرْيَتَايِمَ وَتَمَّ الاسْتِيلاءُ عَلَيْهَا. خَزِيَ الْحِصْنُ وَارْتَعَبَ. 2زَالَ فَخْرُ مُوآبَ وَتَآمَرُوا فِي حَشْبُونَ عَلَيْهَا شَرّاً قَائِلِينَ: هَيَّا نَهْدِمُهَا فَلا تَكُونُ أُمَّةً بَعْدُ. وَأَنْتِ أَيْضاً يَا مَدْمِينُ، يُهَيْمِنُ عَلَيْكِ صَمْتُ الْمَوْتِ وَيُلاحِقُكِ السَّيْفُ. 3اسْمَعُوا صَوْتَ صُرَاخٍ مِنْ حُورُونَايِمَ: قَدْ حَلَّ بِنَا هَلاكٌ وَدَمَارٌ عَظِيمَانِ. 4قَدْ تَحَطَّمَتْ مُوآبُ، وَبَلَغَ صُرَاخُهَا صُوغَرَ. 5إِذْ عَلَى مُرْتَفَعِ لُوحِيتَ يَصْعَدُونَ بَاكِينَ بِمَرَارَةٍ، وَعَلَى مُنْحَدَرِ حُورُونَايِمَ يَتَرَدَّدُ صُرَاخُ الانْكِسَارِ. 6اهْرُبُوا وَانْجُوا بِأَنْفُسِكُمْ. كُونُوا كَعَرْعَرٍ فِي الْبَرِّيَّةِ.

7لأَنَّكُمُ اتَّكَلْتُمْ عَلَى أَعْمَالِكُمْ وَكُنُوزِكُمْ، سَتُسْبَوْنَ أَيْضاً وَيَقَعُ الصَّنَمُ كَمُوشُ أَيْضاً أَسِيراً وَيُؤْخَذُ إِلَى الْمَنْفَى مَعَ كَهَنَتِهِ وَرُؤَسَائِهِ. 8وَيَزْحَفُ الْمُدَمِّرُ إِلَى كُلِّ مَدِينَةٍ، فَلا تُفْلِتُ مِنْهُ إِحْدَاهَا، فَيَبِيدُ الْوَادِي، وَيَتْلَفُ السَّهْلُ، لأَنَّ الرَّبَّ قَدْ قَضَى. 9أَعْطُوا مُوآبَ أَجْنِحَةً، فَيُحَلِّقَ طَائِراً. قَدْ أَصْبَحَتْ مُدُنُهُ أَطْلالاً مَهْجُورَةً مِنَ النَّاسِ.

10مَلْعُونٌ مَنْ يَقُومُ بِعَمَلِ الرَّبِّ مُتَهَاوِناً، وَمَلْعُونٌ مَنْ حَظَرَ عَلَى سَيْفِهِ الدَّمَ.

11قَدْ قَضَى مُوآبُ حَيَاةً مُتْرَفَةً مُنْذُ حَدَاثَتِهِ، كَالْخَمْرِ الْمُسْتَقِرِّ عَلَى عَكَرِهِ. لَمْ يُفْرَغْ مِنْ إِنَاءٍ إِلَى إِنَاءٍ، وَلَمْ يَذْهَبْ إِلَى السَّبْيِ قَطُّ لِذَلِكَ ظَلَّ مُحْتَفِظاً بِطَعْمِهِ وَلَمْ تَتَغَيَّرْ رَائِحَتُهُ. 12هَا هِيَ أَيَّامٌ مُقْبِلَةٌ، يَقُولُ الرَّبُّ، أُرْسِلُ فِيهَا إِلَيْهِ عَابِرِي السَّبِيلِ سَاكِبِي الْجِرَارِ، فَيَسْكُبُونَهُ وَيُفْرِغُونَ جِرَارَهُ وَيُحَطِّمُونَ دِنَانَهُ. 13فَيَعْتَرِي الْمُوآبِيِّينَ الْخَجَلُ مِنْ كَمُوشَ، كَمَا اعْتَرَى الْخَجَلُ الإِسْرَائِيلِيِّينَ مِنْ بَيْتِ إِيلَ، مُتَّكَلِهِمْ.

14كَيْفَ تَقُولُونَ: إِنَّنَا أَبْطَالٌ وَجَبَابِرَةُ حَرْبٍ؟ 15إِنَّ مُوآبَ سَيُدَمَّرُ، وَتُغْزَى مُدُنُهُ، وَتَنْزِلُ نُخْبَةُ شُبَّانِهِ لِلذَّبْحِ، يَقُولُ الْمَلِكُ الَّذِي اسْمُهُ الرَّبُّ الْقَدِيرُ. 16قَدْ أَزِفَتْ بَلِيَّةُ مُوآبَ وَمِحْنَتُهُ أَقْبَلَتْ مُسْرِعَةً. 17فَارْثُوهُ يَا جَمِيعَ الْمُحِيطِينَ بِهِ وَسَائِرَ الْعَارِفِينَ اسْمَهُ. قُولُوا انْكَسَرَ صَوْلَجَانُ الْعِزِّ وَقَضِيبُ الْمَجْدِ. 18اهْبِطِي مِنَ الْمَجْدِ وَاجْلِسِي عَلَى الأَرْضِ الْظَّمْأَى أَيَّتُهَا السَّاكِنَةُ فِي دِيبُونَ، لأَنَّ مُدَمِّرَ مُوآبَ قَدْ زَحَفَ عَلَيْكِ وَهَدَمَ حُصُونَكِ. 19قِفِي عَلَى قَارِعَةِ الطَّرِيقِ وَرَاقِبِي يَا سَاكِنَةَ عَرُوعِيرَ. اسْأَلِي الْهَارِبَ وَالنَّاجِيَةَ بِنَفْسِهَا: مَاذَا جَرَى؟ 20فَيَأْتِيَ الْجَوَابُ: قَدْ لَحِقَ الْخِزْيُ بِمُوآبَ، لأَنَّهُ صَارَ أَطْلالاً فَوَلْوِلُوا وَأَعْوِلُوا. أَذِيعُوا فِي أَرْنُونَ أَنَّ مُوآبَ قَدْ أَصْبَحَ خَرَاباً.

21قَدْ وَقَعَ الْقَضَاءُ عَلَى أَرْضِ السَّهْلِ، وَعَلَى حُولُونَ، وَعَلَى يَهْصَةَ، وَعَلَى مَيْفَعَةَ، 22وَعَلَى دِيبُونَ، وَعَلَى نَبُو، وَعَلَى بَيْتِ دَبْلَتَايِمَ، 23وَعَلَى قَرْيَتَايِمَ، وَعَلَى بَيْتِ جَامُولَ، وَعَلَى بَيْتِ مَعُونَ، 24وَعَلَى قَرْيُوتَ، وَعَلَى بُصْرَةَ، وَعَلَى كَافَّةِ مُدُنِ بِلادِ مُوآبَ الْبَعِيدَةِ وَالْقَرِيبَةِ. 25قَدْ كُسِرَ قَرْنُ مُوآبَ، وَتَحَطَّمَتْ ذِرَاعُهُ، يَقُولُ الرَّبُّ.

26أَسْكِرُوهُ حَتَّى يَتَمَرَّغَ فِي قَيْئِهِ، وَيُصْبِحَ مَهْزَأَةً، لأَنَّهُ تَغَطْرَسَ عَلَى الرَّبِّ. 27أَلَمْ يُصْبِحْ إِسْرَائِيلُ مَهْزَأَةً لَدَيْكَ؟ أَكَانَ بَيْنَ اللُّصُوصِ حَتَّى كُنْتَ تَهُزُّ رَأْسَكَ بِاحْتِقَارٍ كُلَّمَا جَاءَ ذِكْرُهُ عَلَى لِسَانِكَ؟

28اهْجُرُوا الْمُدُنَ وَأَقِيمُوا بَيْنَ الصُّخُورِ يَا أَهْلَ مُوآبَ، وَكُونُوا كَالْحَمَامَةِ الَّتِي تُعَشِّشُ عِنْدَ حَافَةِ فَوَّهَةِ الْكَهْفِ. 29قَدْ سَمِعْنَا عَنْ عَجْرَفَةِ مُوآبَ الْمُفْرِطَةِ. إِنَّهُ شَدِيدُ الْكِبْرِيَاءِ. سَمِعْنَا عَنْ غَطْرَسَتِهِ وَتَشَامُخِهِ وَغُرُورِهِ، وَعَنِ ارْتِفَاعِ قَلْبِهِ. 30قَدْ عَرَفْتُ كِبْرِيَاءَهُ يَقُولُ الرَّبُّ، إِنَّمَا زَهْوُهُ بَاطِلٌ، وَتَفَاخُرُهُ عَدِيمُ الْجَدْوَى. 31لِذَلِكَ أَنُوحُ عَلَى مُوآبَ وَأُعْوِلُ عَلَى كُلِّ أَهْلِهِ، وَأَئِنُّ عَلَى رِجَالِ قِيرَ حَارِسَ. 32أَبْكِي عَلَيْكِ أَكْثَرَ مِنَ الْبُكَاءِ عَلَى يَعْزِيرَ يَا جَفْنَةَ سَبْمَةَ الَّتِي امْتَدَّتْ فُرُوعُهَا حَتَّى الْبَحْرِ، بَلْ بَلَغَتْ بَحْرَ يَعْزِيرَ، فَإِنَّ الْمُدَمِّرَ قَدِ انْقَضَّ عَلَى حَصَادِكِ النَّاضِجِ وَقِطَافِكِ. 33قَدْ تَلاشَى الْفَرَحُ وَالْغِبْطَةُ مِنْ بَسَاتِينِ مُوآبَ وَمِنْ حُقُولِهِ، وَأُوْقِفَ تَدَفُّقُ الْخَمْرِ مِنَ الْمَعَاصِرِ فَلا يَدُوسُهَا دَائِسٌ بِهُتَافٍ، بَلْ تَعْلُو صَرَخَاتٌ لَا هُتَافَ فِيهَا. 34يَرْتَفِعُ الصُّرَاخُ مِنْ حَشْبُونَ إِلَى أَلْعَالَةَ فَيَاهَصَ. أَطْلَقُوا أَصْوَاتَهُمْ مِنْ صُوغَرَ إِلَى حُورُونَايِمَ حَتَّى الْعِجْلَةِ الثَّالِثَةِ، لأَنَّ مِيَاهَ نِمْرِيمَ أَيْضاً قَدْ نَضَبَتْ. 35وَأُبِيدُ مِنْ مُوآبَ، يَقُولُ الرَّبُّ، مَنْ يُقَرِّبُ ذَبِيحَةً عَلَى مُرْتَفَعَةٍ، وَمَنْ يُحْرِقُ بَخُوراً لِآلِهَةِ الْوَثَنِ. 36لِذَلِكَ يَئِنُّ قَلْبِي عَلَى مُوآبَ كَأَنِينِ مِزْمَارٍ، وَيَنُوحُ فُؤَادِي عَلَى رِجَالِ قِيرَ حَارِسَ كَنَوْحِ النَّايِ، فَإِنَّ ثَرْوَتَهُمْ الَّتِي اكْتَسَبُوهَا قَدْ تَبَدَّدَتْ.

37قَدْ أَصْبَحَ كُلُّ رَأْسٍ أَقْرَعَ، وَكُلُّ لِحْيَةٍ مَحْلُوقَةً، تَجَرَّحَتِ الأَيْدِي وَتَمَنْطَقَتِ الأَحْقَاءُ بِالْمُسُوحِ. 38شَاعَ الْنَّوْحُ عَلَى سُطُوحِ مُوآبَ وَفِي شَوَارِعِهَا كُلِّهَا، لأَنِّي حَطَّمْتُ مُوآبَ كَإِنَاءٍ لَيْسَ لأَحَدٍ رَغْبَةٌ فِيهِ، يَقُولُ الرَّبُّ. 39لَشَدَّ مَا تَحَطَّمْتَ! لَشَدَّ مَا يُوَلْوِلُونَ: كَيْفَ أَدْبَرَ مُوآبُ مُجَلَّلاً بِالْخِزْيِ؟ قَدْ صَارَ مَثَارَ هُزْءٍ وَرُعْبٍ لِكُلِّ مَنْ حَوْلَهُ». 40لأَنَّ هَذَا مَا يُعْلِنُهُ الرَّبُّ: «انْظُرُوا، هَا وَاحِدٌ يَطِيرُ مُسْرِعاً كَالنَّسْرِ بَاسِطاً جَنَاحَيْهِ ضِدَّ مُوآبَ. 41فَيَسْتَوْلِي عَلَى الْمُدُنِ، وَتَسْقُطُ الْحُصُونُ، وَتُصْبِحُ فِي ذَلِكَ الْيَوْمِ قُلُوبُ مُحَارِبِي مُوآبَ كَقَلْبِ امْرَأَةٍ فِي مَخَاضِهَا. 42يَهْلِكُ مُوآبُ وَلا يَبْقَى أُمَّةً، لأَنَّهُ قَدْ تَغَطْرَسَ عَلَى الرَّبِّ. 43يَتَرَصَّدُكُمُ الرُّعْبُ وَالْحُفْرَةُ وَالْفَخُّ يَا أَهْلَ مُوآبَ، يَقُولُ الرَّبُّ. 44مَنْ يَهْرُبُ مِنَ الْخَوْفِ يَقَعُ فِي الْحُفْرَةِ، وَمَنْ يَصْعَدُ مِنَ الْحُفْرَةِ يَعْلَقُ بِالْفَخِّ، لأَنِّي أَجْلِبُ عَلَى مُوآبَ هَذِهِ الْمِحَنَ فِي سَنَةِ عِقَابِهِمْ، يَقُولُ الرَّبُّ. 45فِي ظِلِّ حَشْبُونَ وَقَفَ الْهَارِبُونَ خَائِرِي الْقُوَى، لأَنَّ نَاراً انْدَلَعَتْ مِنْ حَشْبُونَ، وَشُعْلَةً مِنْ سِيحُونَ، فَالْتَهَمَتْ رُكْنَ مُوآبَ وَهَامَةَ الْمُتَبَجِّحِينَ الْغَوْغَائِيِّينَ. 46وَيْلٌ لَكَ يَا مُوآبُ! قَدْ بَادَ شَعْبُ كَمُوشَ، لأَنَّ بَنِيكَ وَبَنَاتِكَ أُخِذُوا إِلَى السَّبْيِ. 47وَلَكِنِّي أَرُدُّ سَبْيَ مُوآبَ فِي الأَيَّامِ الآتِيَةِ»، يَقُولُ الرَّبُّ. إِلَى هُنَا خِتَامُ الْقَضَاءِ عَلَى مُوآبَ.