มัทธิว 16 – TNCV & KLB

Thai New Contemporary Bible

มัทธิว 16:1-28

ขอหมายสำคัญ

(มก.8:11-13)

1พวกฟาริสีและสะดูสีมาหาพระเยซูและทดสอบพระองค์โดยขอให้ทรงแสดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์

2พระเยซูทรงตอบว่า16:2 สำเนาต้นฉบับเก่าแก่บางสำเนาไม่มีข้อความส่วนที่เหลือในข้อ 2 และข้อ 3 ทั้งหมด “ตอนเย็นท่านพูดว่า ‘อากาศจะปลอดโปร่งเพราะฟ้าแดง’ 3และตอนเช้าท่านพูดว่า ‘วันนี้จะเกิดพายุเพราะฟ้าแดงและครึ้มฝน’ ท่านยังพยากรณ์อากาศได้จากลักษณะของท้องฟ้า แต่หมายสำคัญของวาระต่างๆ ท่านกลับตีความไม่ออก 4คนในยุคที่ชั่วร้ายและทรยศต่อพระเจ้ามองหาหมายสำคัญ แต่จะไม่ได้รับหมายสำคัญใดๆ ยกเว้นหมายสำคัญของโยนาห์” แล้วพระเยซูทรงละจากพวกเขาไป

เชื้อของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี

(มก.8:14-21)

5เมื่อข้ามฟากเหล่าสาวกลืมเอาขนมปังมาด้วย 6พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงระวังเชื้อของพวกฟาริสีและสะดูสี”

7เขาจึงหารือกันว่า “เป็นเพราะเราลืมเอาขนมปังมาด้วย”

8พระเยซูทรงทราบสิ่งที่พวกเขาพูดกันจึงตรัสถามว่า “ผู้มีความเชื่อน้อย ทำไมพวกท่านจึงพูดกันเรื่องไม่มีขนมปัง? 9ท่านยังไม่เข้าใจหรือ? จำไม่ได้หรือว่าขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคนแล้วท่านเก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า? 10หรือขนมปังเจ็ดก้อนเลี้ยงคนสี่พันคนแล้วท่านก็เก็บที่เหลือได้กี่ตะกร้า? 11เหตุใดท่านจึงไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้พูดถึงขนมปัง? แต่พวกท่านจงระวังเชื้อของพวกฟาริสีและสะดูสี” 12แล้วพวกเขาจึงเข้าใจว่าพระองค์ไม่ได้ทรงเตือนให้ระวังเชื้อที่ใช้ในขนมปัง แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและสะดูสี

เปโตรรับว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์

(มก.8:27-29; ลก.9:18-20)

13เมื่อมาถึงเขตซีซารียาฟีลิปปี พระองค์ตรัสถามเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ผู้คนพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?”

14สาวกทูลว่า “บางคนก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ยังมีบางคนว่าเป็นเยเรมีย์หรือผู้เผยพระวจนะคนใดคนหนึ่ง”

15พระองค์ทรงถามว่า “แล้วพวกท่านเล่า พวกท่านว่าเราเป็นใคร?”

16ซีโมนเปโตรทูลว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์16:16 หรือพระเมสสิยาห์เช่นเดียวกับข้อ 20 พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”

17พระเยซูตรัสว่า “ความสุขมีแก่ท่าน ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย เพราะมนุษย์ไม่ได้สำแดงเรื่องนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราในสวรรค์ทรงสำแดง 18เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร16:18 แปลว่าศิลา และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราและประตูแดนมรณา16:18 หรือนรกจะเอาชนะคริสตจักรนั้นไม่ได้เลย16:18 หรือจะไม่แข็งแกร่งไปกว่าคริสตจักร 19เราจะมอบกุญแจแห่งอาณาจักรสวรรค์แก่ท่าน ท่านผูกมัดสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นจะ16:19 หรือสิ่งนั้นได้ถูกผูกมัดในสวรรค์ ท่านปลดปล่อยสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นจะ16:19 หรือสิ่งนั้นได้ถูกปลดปล่อยในสวรรค์” 20แล้วพระองค์ทรงเตือนเหล่าสาวกของพระองค์ไม่ให้บอกใครว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์

พระเยซูทรงทำนายถึงการสิ้นพระชนม์

(มก.8:31—9:1; ลก.9:22-27)

21นับแต่นั้นมาพระเยซูทรงเริ่มชี้แจงแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะต้องไปยังเยรูซาเล็ม ต้องทนทุกข์หลายประการด้วยน้ำมือของบรรดาผู้อาวุโสและพวกหัวหน้าปุโรหิตกับเหล่าธรรมาจารย์ พระองค์จะต้องถูกประหาร และในวันที่สามจะทรงมีชีวิตกลับเป็นขึ้นมาใหม่

22เปโตรดึงพระองค์เลี่ยงไปอีกทางหนึ่งและทูลติติงพระองค์ว่า “ไม่มีทางพระองค์เจ้าข้า! สิ่งนี้ไม่มีทางจะเกิดขึ้นกับพระองค์!”

23พระเยซูทรงหันมาตรัสกับเปโตรว่า “ถอยไปเจ้าซาตาน! เจ้าเป็นหินให้เราสะดุด เจ้าไม่ได้คิดอย่างพระเจ้าแต่คิดอย่างมนุษย์”

24แล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “หากผู้ใดปรารถนาจะเป็นสาวกของเราให้ผู้นั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบก และตามเรามา 25เพราะผู้ใดต้องการเอาชีวิต16:25 ภาษากรีกหมายถึงชีวิตหรือจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับข้อ 26รอดผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดพลีชีวิตเพื่อเราผู้นั้นจะได้ชีวิต 26จะมีประโยชน์อะไรถ้าคนๆ หนึ่งจะได้โลกนี้ทั้งโลกแต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน? หรือใครจะเอาอะไรมาแลกกับจิตวิญญาณของตนได้? 27เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระเกียรติสิริของพระบิดาพร้อมกับทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นพระองค์จะปูนบำเหน็จแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขา 28เราบอกความจริงแก่ท่านว่าบางคนซึ่งยืนอยู่ที่นี่จะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในอาณาจักรของพระองค์ก่อนที่จะลิ้มรสความตาย”

Korean Living Bible

마태복음 16:1-28

기적을 보여 달라

1바리새파 사람들과 사두개파 사람들이 예수님을 시험하려고 와서 하늘에서 오는 기적을 보여 달라고 하였다.

2그러나 예수님은 그들에게 이렇게 대답하셨다. “너희가 저녁에 하늘이 붉으면 날씨가 좋겠다고 말하고

3아침에 하늘이 붉고 흐리면 날씨가 좋지 않겠다고 말한다. 이렇게 날씨는 분별할 줄 알면서 시대의 징조는 왜 분별하지 못하느냐?

4악하고 음란한 세대가 기적을 요구하나 요나의 기적밖에는 보여 줄 것이 없다.” 그러고서 예수님은 그들을 떠나가 버리셨다.

5제자들이 호수 건너편으로 가면서 잊어버리고 빵을 가져가지 못했다.

6예수님이 제자들에게 “너희는 바리새파 사람들과 사두개파 사람들의 누룩을 조심하라” 하시자

7제자들은 서로 의논하며 “우리가 빵을 가져오지 않았기 때문에 하시는 말씀이다” 하고 수군거렸다.

8예수님은 그들이 수군거리는 것을 아시고 말씀하셨다. “믿음이 적은 사람들아, 왜 빵이 없다고 서로 의논하느냐?

9아직도 너희는 깨닫지도, 기억하지도 못하느냐? 빵 다섯 개로 5,000명이 먹고 몇 광주리를 거두었으며

10빵 일곱 개로 4,000명이 먹고 몇 광주리를 거두었느냐?

11내가 빵에 대하여 말한 것이 아니라는 것을 왜 깨닫지 못하느냐? 너희는 바리새파 사람들과 사두개파 사람들의 누룩을 조심하라.”

12그제야 제자들은 예수님이 빵의 누룩이 아니라 바리새파 사람들과 사두개파 사람들의 가르침을 조심하라고 말씀하신 것을 깨달았다.

나를 누구라고 생각하느냐

13예수님은 가이사랴 빌립보 지방에 이르러 제자들에게 물으셨다. “사람들이 16:13 원문에는 ‘인자’ (사람의 아들)나를 누구라고 하느냐?”

14그러자 제자들이 이렇게 대답하였다. “어떤 사람은 16:14 또는 ‘침례자’세례 요한이라고 하고 어떤 사람은 엘리야라고 하며 또 어떤 사람은 예레미야나 예언자들 중 한 사람이라고 합니다.”

15“그러면 너희는 나를 누구라고 생각하느냐?” 하고 예수님이 다시 묻자

16시몬 베드로가 “주님은 그리스도시며 살아 계신 하나님의 아들이십니다” 하고 대답하였다.

17그래서 예수님이 베드로에게 말씀하셨다. “16:17 또는 ‘바요나’요나의 아들 시몬아, 너는 행복한 사람이다. 이것을 너에게 알리신 분은 사람이 아니라 하늘에 계시는 내 아버지이시다.

18너는 16:18 ‘바위’ 라는 뜻.베드로이다. 내가 이 반석 위에 내 교회를 세우겠다. 16:18 헬 ‘하데스의 문’지옥의 권세가 이기지 못할 것이다.

19내가 하늘 나라의 열쇠를 너에게 주겠다. 네가 무엇이든지 땅에서 매면 하늘에서도 매일 것이며 땅에서 풀면 하늘에서도 풀릴 것이다.”

20그러고서 예수님은 제자들에게 자기가 그리스도라는 것을 아무에게도 말하지 말라고 주의시키셨다.

21그때부터 예수 그리스도께서는 제자들에게 자기가 예루살렘에 올라가 장로들과 대제사장들과 16:21 또는 ‘서기관들’율법학자들에게 많은 고난을 받고 죽음을 당했다가 3일 만에 다시 살아나야 할 것을 비로소 밝히기 시작하셨다.

22그러자 베드로가 예수님을 붙들고 “주님, 그럴 수 없습니다. 이런 일이 결코 일어나서는 안 됩니다” 하고 말렸다.

23그러나 예수님은 돌이켜 베드로를 보시고 꾸짖으셨다. “사탄아, 썩 물러가거라! 너는 나를 넘어지게 하는 자이다. 네가 하나님의 일을 생각지 않고 사람의 일을 생각하고 있다.”

24그러고서 예수님은 제자들에게 이렇게 말씀하셨다. “누구든지 나를 따라오려거든 자기를 버리고 제 십자가를 지고 나를 따르라.

25자기 생명을 구하고자 하는 사람은 잃을 것이며 나를 위해 자기 생명을 버리는 사람은 얻을 것이다.

26사람이 온 세상을 얻고도 자기 생명을 잃으면 무슨 유익이 있겠느냐? 사람이 자기 생명을 무엇과 바꿀 수 있겠느냐?

27내가 천사들과 함께 아버지의 영광으로 올 것이다. 그때 내가 각 사람이 행한 대로 갚아 주겠다.

28내가 분명히 말하지만 여기 서 있는 사람들 가운데 어떤 사람들은 죽기 전에 내가 하늘 나라의 왕으로 오는 것을 보게 될 것이다.”