ปฐมกาล 41 – TNCV & KSS

Thai New Contemporary Bible

ปฐมกาล 41:1-57

ความฝันของฟาโรห์

1เวลาผ่านไปสองปีเต็ม คืนหนึ่งฟาโรห์ทรงฝันว่าพระองค์ทรงยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ 2มีวัวอ้วนพีแข็งแรงเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ กินหญ้าอยู่ริมฝั่ง 3แล้วมีวัวอีกเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์ แต่พวกหลังนี้ตัวผอมแห้งจนน่าเกลียด พวกมันเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างวัวอ้วนพีแข็งแรง 4วัวผอมโซน่าเกลียดเหล่านั้นก็กินวัวอ้วนพีแข็งแรงทั้งเจ็ดตัว แล้วฟาโรห์ทรงตื่นจากบรรทม

5พระองค์บรรทมหลับไปอีกและทรงฝันเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ทรงเห็นข้าวต้นหนึ่งกำลังออกรวงเจ็ดรวงซึ่งมีเมล็ดเต่งงามดี 6หลังจากนั้นมีอีกเจ็ดรวงผลิออกมา แต่มีเมล็ดเหี่ยวแห้งเพราะลมตะวันออก 7แล้วรวงข้าวที่เหี่ยวแห้งก็กลืนกินรวงข้าวที่เต่งงามเจ็ดรวงนั้นจนหมด แล้วฟาโรห์ตื่นจากบรรทมและทรงทราบว่าเป็นความฝัน

8เช้าวันรุ่งขึ้นฟาโรห์ทรงกังวลพระทัยนักจึงรับสั่งให้บรรดานักเล่นอาคมและปราชญ์ของอียิปต์มาเข้าเฝ้า พระองค์ทรงเล่าความฝันให้ฟัง แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าความฝันพวกนั้นหมายถึงอะไร

9แล้วหัวหน้าพนักงานเชิญจอกเสวยจึงกราบทูลว่า “วันนี้ข้าพระบาทระลึกถึงความผิดพลาดของตนได้แล้ว 10ครั้งหนึ่งฟาโรห์กริ้วข้าพระบาท และทรงให้จำคุกข้าพระบาทพร้อมกับหัวหน้าพนักงานทำขนมปังไว้ในบ้านของผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ 11คืนหนึ่งข้าพระบาททั้งสองต่างฝันไป และความฝันของแต่ละคนนั้นก็มีความหมายแตกต่างกัน 12ขณะนั้นชายหนุ่มฮีบรูคนหนึ่งซึ่งเป็นทาสรับใช้ของท่านผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ถูกจำคุกอยู่กับข้าพระบาททั้งสอง ข้าพระบาทจึงเล่าความฝันให้เขาฟัง เขาก็บอกความหมายของความฝันให้กับข้าพระบาททั้งสอง 13ทุกสิ่งก็เป็นไปตามที่เขาได้ทำนายให้กับข้าพระบาททุกประการ คือข้าพระบาทได้กลับเข้ามาประจำหน้าที่ดังเดิม ส่วนอีกคนหนึ่งก็ถูกเสียบประหาร”

14ฟาโรห์จึงรับสั่งให้นำโยเซฟมาเข้าเฝ้า เขาจึงถูกนำตัวออกจากคุกอย่างเร่งด่วน เมื่อโกนหนวดเคราและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เข้าเฝ้าฟาโรห์

15ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เราฝันไป และไม่มีใครบอกความหมายของความฝันได้ แต่เราได้ยินมาว่าเมื่อใครเล่าความฝันให้เจ้าฟัง เจ้าก็สามารถบอกความหมายของความฝันนั้นได้”

16โยเซฟทูลฟาโรห์ว่า “ข้าพระบาททำไม่ได้ แต่พระเจ้าจะทรงแจ้งให้ฟาโรห์ทราบคำตอบตามที่ฟาโรห์ต้องการ”

17ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “ในฝันเรายืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ 18มีวัวอ้วนพีแข็งแรงเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำและกินหญ้าอยู่ริมฝั่ง 19แล้วก็มีวัวอีกเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำ ตัวผอมแห้งน่าเกลียดมาก เราไม่เคยเห็นวัวตัวไหนน่าเกลียดขนาดนั้นมาก่อนเลยในแผ่นดินอียิปต์ 20แล้ววัวผอมแห้งน่าเกลียดเหล่านั้นก็กินวัวอ้วนพีทั้งเจ็ดตัวที่ขึ้นมาก่อนจนหมด 21แม้พวกมันจะกินวัวเหล่านั้นไปหมดแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าพวกมันได้ทำเช่นนั้น เพราะพวกมันก็ยังผอมแห้งน่าเกลียดอยู่เหมือนเดิม แล้วเราก็ตื่น

22“เราฝันไปอีกว่าเห็นต้นข้าวต้นหนึ่งออกรวงเจ็ดรวงซึ่งมีเมล็ดเต่งงามดี 23แล้วมีรวงข้าวอีกเจ็ดรวงงอกขึ้นมาซึ่งมีเมล็ดเหี่ยวแห้งเพราะลมตะวันออก 24รวงข้าวที่เหี่ยวแห้งนั้นก็กลืนกินรวงข้าวที่เต่งงามทั้งเจ็ดรวงเสียหมด เราเล่าเรื่องนี้ให้บรรดานักเล่นอาคมฟัง แต่ไม่มีใครอธิบายให้เราเข้าใจได้”

25โยเซฟทูลฟาโรห์ว่า “ความฝันทั้งสองนี้หมายความถึงสิ่งเดียวกัน พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่ฟาโรห์ถึงสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ 26วัวอ้วนพีเจ็ดตัวหมายถึงเจ็ดปี และรวงข้าวเต่งงามเจ็ดรวงก็หมายถึงเจ็ดปี ความฝันทั้งสองนี้หมายความถึงสิ่งเดียวกัน 27ส่วนวัวผอมน่าเกลียดเจ็ดตัวที่ขึ้นจากแม่น้ำมาภายหลังหมายถึงเจ็ดปี และรวงข้าวไร้ค่าเจ็ดรวงที่เหี่ยวแห้งไปเพราะลมตะวันออกนั้นก็หมายถึงเจ็ดปีเช่นกัน เป็นเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหาร

28“อย่างที่ข้าพระบาทได้ทูลฟาโรห์ไว้แล้วว่า พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ฟาโรห์ถึงสิ่งที่พระองค์จะทรงกระทำ 29ตลอดเจ็ดปีต่อไปนี้จะเป็นช่วงอุดมสมบูรณ์ทั่วแผ่นดินอียิปต์ 30แต่เจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารจะตามมา แล้วประชาชนจะลืมความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้นของประเทศอียิปต์ และการกันดารอาหารจะทำลายแผ่นดินนี้ 31ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินถูกลบเลือนไปจากความทรงจำ เพราะการกันดารอาหารจะรุนแรงยิ่งนัก 32เหตุที่พระเจ้าทรงประทานความฝันถึงสองอย่างแก่ฟาโรห์นั้น เพราะว่าพระเจ้าทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้ว พระองค์จะทรงให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในไม่ช้า

33“และบัดนี้ขอให้ฟาโรห์ทรงโปรดคัดเลือกคนที่ฉลาดหลักแหลมและมีสติปัญญา และตั้งให้เขาให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ 34ขอให้ฟาโรห์ทรงแต่งตั้งข้าราชการประจำเขตไว้ทั่วแผ่นดิน ทำหน้าที่เก็บพืชผลหนึ่งในห้าของผลผลิตที่ได้ในตลอดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ 35พวกเขาควรรวบรวมอาหารทั้งหมดที่ได้ในปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่กำลังจะมาถึง และให้ฟาโรห์มอบอำนาจให้พวกเขาเก็บสะสมเมล็ดข้าวไว้เป็นคลังอาหารตามเมืองต่างๆ 36อาหารเหล่านี้ควรเก็บไว้เป็นเสบียงสำรองให้กับประเทศสำหรับช่วงเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารซึ่งจะเกิดขึ้นกับอียิปต์ เพื่อว่าประเทศชาติจะไม่ย่อยยับไปเพราะการกันดารอาหาร”

37ฟาโรห์และข้าราชการทั้งปวงล้วนเห็นชอบกับแผนงานนี้ 38ดังนั้นฟาโรห์จึงตรัสถามพวกเขาว่า “เราจะหาใครที่มีพระวิญญาณของพระเจ้า41:38 หรือของเทพเจ้าทั้งหลายอยู่ภายในเหมือนชายผู้นี้ได้หรือ?”

39แล้วฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “เนื่องจากพระเจ้าทรงเปิดเผยความหมายของความฝันให้เจ้ารู้ จึงไม่มีผู้ใดฉลาดหลักแหลมและมีสติปัญญาเหมือนเจ้า 40เราจะแต่งตั้งเจ้าให้ดูแลราชสำนักของเรา และราษฎรทั้งหมดของเราจะทำตามคำสั่งของเจ้า เราจะเป็นผู้เดียวที่มีฐานะสูงกว่าเจ้าเพียงเพราะว่าเราเป็นผู้ครองราชบัลลังก์”

โยเซฟปกครองดูแลอียิปต์

41ดังนั้นฟาโรห์จึงตรัสแก่โยเซฟว่า “บัดนี้เราขอตั้งเจ้าให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์” 42แล้วฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราประจำพระองค์จากนิ้วมาสวมที่นิ้วของโยเซฟ พระองค์ทรงให้เขาสวมเสื้อคลุมผ้าลินินเนื้อดีและประทานสร้อยคอทองคำแก่เขา 43ฟาโรห์ให้โยเซฟนั่งรถม้าศึกในฐานะผู้มีอำนาจรองจากพระองค์41:43 หรือรถม้าศึกของผู้มีอำนาจรองจากพระองค์หรือรถม้าศึกคันที่สองของพระองค์ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็มีคนคอยร้องประกาศว่า “จงเปิดทาง!41:43 หรือจงหมอบลง!” ดังนั้นฟาโรห์จึงทรงแต่งตั้งโยเซฟให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์

44ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “แม้ว่าเราคือฟาโรห์ แต่ถ้าเจ้าไม่อนุญาตก็จะไม่มีผู้ใดในแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้” 45ฟาโรห์ประทานนามแก่โยเซฟว่าศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอนให้เป็นภรรยา และโยเซฟออกตรวจตราทั่วแผ่นดินอียิปต์

46โยเซฟมีอายุได้สามสิบปีเมื่อเข้ารับราชการกับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ โยเซฟได้ทูลลาฟาโรห์และออกเดินทางไปปฏิบัติราชการทั่วแผ่นดินอียิปต์ 47ตลอดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินก็ให้ผลผลิตมากมาย 48โยเซฟรวบรวมอาหารทั้งหมดที่ผลิตได้ในเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของอียิปต์ และเก็บสะสมไว้ตามเมืองต่างๆ ผลผลิตที่เก็บได้จากนารอบเมืองใด เขาก็ให้เก็บไว้ในเมืองนั้น 49โยเซฟเก็บสะสมเมล็ดข้าวได้มหาศาลเหมือนเม็ดทรายในทะเล จนเขาต้องเลิกทำบัญชี เพราะตรวจนับไม่ไหว

50ก่อนปีกันดารอาหารจะมาถึง โยเซฟได้บุตรชายสองคนซึ่งเกิดจากนางอาเสนัทบุตรีของปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอน 51โยเซฟตั้งชื่อบุตรหัวปีว่ามนัสเสห์41:51 คำว่ามนัสเสห์มีเสียงคล้ายและอาจมาจากคำภาษาฮีบรูที่มีความหมายว่าลืม เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าลืมความทุกข์ยากทั้งปวงและญาติพี่น้องทั้งหมดในครัวเรือนบิดาของข้าพเจ้า” 52เขาตั้งชื่อบุตรชายคนที่สองว่าเอฟราอิม41:52 คำว่าเอฟราอิมมีเสียงคล้ายคำภาษาฮีบรูที่มีความหมายว่าเกิดผลสองเท่า เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้ามีลูกมีหลานมากมายในดินแดนที่ข้าพเจ้าตกทุกข์ได้ยาก”

53ในที่สุดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ก็สิ้นสุดลง 54และเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารก็เริ่มต้นขึ้นตามที่โยเซฟได้กล่าวไว้ เกิดการกันดารอาหารขึ้นทั่วทุกประเทศ แต่ทั่วแผ่นดินอียิปต์มีอาหาร 55เมื่อชาวอียิปต์เริ่มได้รับผลกระทบจากการกันดารอาหาร ผู้คนต่างก็มาทูลขออาหารจากฟาโรห์ ฟาโรห์จึงสั่งชาวอียิปต์ทุกคนว่า “จงไปหาโยเซฟและทำตามสิ่งที่เขาบอก”

56เมื่อการกันดารอาหารขยายไปทั่วประเทศ โยเซฟจึงเปิดคลังขายข้าวให้แก่ชาวอียิปต์ เพราะเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงทั่วทั้งอียิปต์ 57ทุกประเทศทั่วโลกพากันมายังอียิปต์เพื่อซื้อข้าวจากโยเซฟ เพราะการกันดารอาหารรุนแรงทั่วโลก

Kurdi Sorani Standard

پەیدابوون 41:1-57

خەونەکانی فیرعەون

1ئەوە بوو لەدوای دوو ساڵ، فیرعەون خەونی بینی، کە لەلای ڕووباری نیل ڕاوەستاوە، 2لە ڕووبارەکەوە حەوت مانگای جوان و گۆشتن هاتنە دەرەوە و لە مێرگەکەدا کەوتنە لەوەڕان. 3لەدوای ئەوان حەوت مانگای دیکەی لەڕولاواز و ناشیرین لە ڕووبارەکە هاتنە دەرەوە و لەلای ئەو مانگایانە لە کەناری ڕووبارەکە ڕاوەستان. 4ئینجا مانگا لەڕولاواز و ناشیرینەکان حەوت مانگا جوان و گۆشتنەکانیان خوارد. فیرعەون بە ئاگا هاتەوە.

5لەدوای ئەوە نوستەوە و دیسان خەونی بینییەوە. لە خەونیدا حەوت گوڵەگەنمی قەڵەو و جوانی بینی کە لە لاسکێکەوە دەرهاتوون. 6لەدوای ئەمانەوە حەوت گوڵەگەنمی باریک و سووتاو بە بای ڕۆژهەڵات ڕواون. 7ئینجا گوڵەگەنمە باریکەکان حەوت گوڵەگەنمە قەڵەو و پڕەکانیان قووت دا. ئیتر فیرعەون بەئاگا هاتەوە و زانی کە خەونە.

8بۆ بەیانییەکەی فیرعەون دڵگران بوو، ئیتر ناردی بەدوای هەموو جادووگەران و دانایانی میسردا و خەونەکەی خۆی بۆ گێڕانەوە، بەڵام هیچیان نەیانتوانی بۆی لێکبدەنەوە.

9ئینجا سەرۆکی ساقییەکان قسەی لەگەڵ فیرعەون کرد و گوتی: «من ئەمڕۆ هەڵەکانی خۆم دێتەوە یاد. 10جارێک فیرعەون لە دوو خزمەتکارەکەی خۆی تووڕە بوو، من و سەرۆکی نانەواکانی خستە زیندانی ماڵی سەرۆکی پاسەوانەکان. 11من و ئەو لە یەک شەودا خەونمان بینی، خەونی هەریەکەمان لێکدانەوەیەکی جیاوازی هەبوو لەگەڵ ئەوی دیکەمان. 12لەوێش کوڕێکی عیبرانیمان لەگەڵ بوو کە خزمەتکاری سەرۆکی پاسەوانەکان بوو. خەونەکانمان بۆ ئەو گێڕایەوە، ئەویش هەردوو خەونەکەی بۆ لێکداینەوە. 13ئیتر ئەو چۆنی بۆ لێکداینەوە ئاوا ڕوویدا. ئەوە بوو من گەڕامەوە شوێنەکەی خۆم و ئەویش کوژرا.»

14بۆیە فیرعەون ناردی بەدوای یوسفدا و خێرا لە زیندانەوە هێنایان. لەدوای ئەوەی تراشی کرد و جلەکانی گۆڕی، هاتە بەردەم فیرعەون.

15فیرعەون بە یوسفی گوت: «خەونێکم بینیوە و کەس نییە لێکی بداتەوە. هەروەها دەربارەی تۆ بیستوومە کە کاتێک خەونێکت بۆ دەگێڕنەوە، دەتوانیت لێکی بدەیتەوە.»

16یوسف لە وەڵامی فیرعەوندا گوتی: «ئەوە من نیم، بەڵکو خودایە کە وەڵامی دڵنیاکەرەوە دەداتە فیرعەون.»

17ئینجا فیرعەون بە یوسفی گوت: «لە خەونمدا لەسەر کەناری ڕووباری نیل ڕاوەستابووم، 18بینیم لە ڕووبارەکەوە حەوت مانگای گۆشتن و جوان هاتنە دەرەوە و لە مێرگەکەدا کەوتنە لەوەڕان. 19لەدوای ئەوان حەوت مانگای دیکە هاتنە دەرەوە کە زۆر لەڕولاواز و ناشیرین بوون. لە هەموو خاکی میسر مانگای ناشیرینی وەک ئەوانم نەبینیبوو. 20ئینجا مانگا لەڕولاواز و ناشیرینەکان، حەوت مانگا قەڵەوەکەی یەکەم جاریان خوارد. 21بەڵام تەنانەت دوای ئەوەی ئەوانیان خوارد، پێیانەوە دیار نەبوو کە شتی وایان خواردووە، بەڵکو هەروەک یەکەم جار ڕوخساریان ناشیرین بوو. ئیتر بە ئاگا هاتم.

22«دیسان لە خەونمدا بینیم حەوت گوڵەگەنمی پڕ و جوان لە لاسکێکەوە دەرهاتوون. 23لەدوای ئەوان حەوت گوڵەگەنمی وشک و باریک و سووتاو بە بای ڕۆژهەڵات ڕواون. 24گوڵەگەنمە باریکەکان حەوت گوڵەگەنمە جوانەکەیان قووت دا. ئەمەم بە جادووگەرەکان گوت، بەڵام کەسیان نەیانتوانی بۆم لێکبدەنەوە.»

25یوسفیش بە فیرعەونی گوت: «خەونەکانی فیرعەون یەکە و لە یەک دەچن. ئەوەی خودا بە تەمایە بیکات بە فیرعەونی ڕاگەیاند. 26حەوت مانگا جوانەکە حەوت ساڵن. حەوت گوڵەگەنمە جوانەکەش هەر حەوت ساڵن. یەک خەونە. 27حەوت مانگا لەڕولاواز و ناشیرینەکان کە دووەم جار هاتنە دەرەوە، ئەوە حەوت ساڵن. حەوت گوڵەگەنمە باریک و سووتاوەکە بە بای ڕۆژهەڵات، دەبنە حەوت ساڵی قاتوقڕی.

28«ئەمەش ئەوەیە کە بە فیرعەونم گوت: خودا بە فیرعەونی نیشان داوە کە بە تەمایە چی بکات. 29حەوت ساڵ تێروتەسەلییەکی مەزن لە هەموو خاکی میسر دەبێت. 30بەڵام بەدوای ئەودا حەوت ساڵی قاتوقڕی دێت کە هەموو ئەو تێروتەسەلییە لەبیر دەباتەوە کە لە خاکی میسر بووە. قاتوقڕی خاکەکە دەفەوتێنێت. 31ئیتر تێروتەسەلی خاکەکە لەبیر دەچێتەوە، چونکە ئەو قاتوقڕییەی بەدوایدا دێت زۆر سەخت دەبێت. 32هۆکاری ئەوەش کە خەونەکە بە دوو شێوە بۆ فیرعەون دووبارە کراوەتەوە، ئەوەیە کە ئەو کارە لەلای خوداوە بڕیاری لەسەر دراوە و بە زوویی ئەنجامی دەدات.

33«ئێستاش با فیرعەون پیاوێکی وردبین و دانا بدۆزێتەوە و بەسەر خاکی میسرەوە دایبنێت. 34با فیرعەون چەند سەرپەرشتیارێک لەسەر زەوی دابنێت بۆ وەرگرتنی پێنج یەکی دانەوێڵەی خاکی میسر لە هەر حەوت ساڵی تێروتەسەلییەکە. 35پێویستە هەموو خواردنی ئەو ساڵە باشانەی کە دێن کۆبکەنەوە و لەژێر دەسەڵاتی فیرعەوندا گەنم لە ئەمبار بکەن و بۆ مەبەستی خواردن لە شارۆچکەکان هەڵیانبگرن. 36ئەم خۆراکە دەبێتە ئازووقەی خاکەکە بۆ ئەو حەوت ساڵە قاتوقڕییەی کە لە خاکی میسردا دەبێت. بەو شێوەیە خاکەکە بە قاتوقڕی لەناو ناچێت.»

37فیرعەون و هەموو دەستوپێوەندەکەی ئەم قسانەیان پێ باش بوو. 38فیرعەون بە دەستوپێوەندەکەی گوت: «ئایا کەسێکی وەک ئەم پیاوەمان دەست دەکەوێت کە ڕۆحی خودای تێدابێت؟»

39ئینجا فیرعەون بە یوسفی گوت: «لەبەر ئەوەی خودا هەموو ئەمانەی بۆ تۆ ئاشکرا کردووە، لە تۆ وردبینتر و داناتر بوونی نییە. 40تۆ دەبیتە لێپرسراوی کۆشکەکەی من، هەروەها هەموو گەلەکەشم لە دەمی تۆوە ڕاسپاردە وەردەگرن. من تەنها لە تەختی پاشایەتی لە تۆ گەورەتر دەبم.»

یوسف وەک لێپرسراوی خاکی میسر

41ئیتر فیرعەون بە یوسفی گوت: «ئەوا تۆم کردە لێپرسراوی هەموو خاکی میسر.» 42ئینجا فیرعەون ئەو ئەنگوستیلەیەی لە دەستی خۆی داکەند کە مۆری شاهانەی پێوە بوو و لە دەستی یوسفی کرد، هەروەها جلوبەرگی کەتانی ناسکی لەبەری کرد و تەوقێکی زێڕیشی لە ملی کرد. 43پاشان سواری گالیسکەی جێگرەکەی کرد و لەپێشیەوە بانگەوازیان کرد: «بە چۆکدا بێن!» ئیتر کردییە لێپرسراوی هەموو خاکی میسر.

44ئینجا فیرعەون بە یوسفی گوت: «من فیرعەونم، بەڵام بەبێ قسەی تۆ کەس لە هەموو خاکی میسر، نە دەستی و نە پێی بەرز ناکاتەوە.» 45فیرعەون ناوی لە یوسف نا سافنەت پەعنێح، هەروەها ئاسنەتی کچی پۆتی‌فەرەعی کاهینی ئۆنی کچی پێدا هەتا ببێتە ژنی. ئیتر یوسف چووە دەرەوە بۆ سەر خاکی میسر.

46یوسف تەمەنی سی ساڵ بوو کاتێک دەستی کرد بە خزمەتکردنی فیرعەونی پاشای میسر. یوسف لەلای فیرعەون چووە دەرەوە و بە هەموو خاکی میسردا تێپەڕی. 47زەوی لە حەوت ساڵی تێروتەسەلییەکەدا، بەروبوومێکی زۆری دا. 48یوسف هەموو خۆراکی ئەو حەوت ساڵەی خاکی میسری کۆکردەوە. لە هەموو شارێکدا ئەو خۆراکانەی دانا کە لە کێڵگەکانی دەوروبەری کۆ دەکردەوە. 49یوسف وەک لمی دەریا گەنمی کۆکردەوە، ئەوەندە زۆر بوو کە ئیتر وازی لە هەژماردکردنیان هێنا، چونکە لە ژماردن نەدەهاتن.

50پێش هاتنی ساڵانی قاتوقڕییەکە، یوسف لە ئاسنەتی کچی پۆتی‌فەرەعی کاهینی ئۆن دوو کوڕی بوو. 51یوسف کوڕە نۆبەرەکەی ناو نا مەنەشە41‏:51 وشەی مەنەشە‏ لە ڕووی دەنگەوە لە وشەی (لەبیربردنەوە)ی عیبری نزیکە.‏ و گوتی: «ئەم ناوەم لێنا، چونکە خودا هەموو ماندووبوونم و هەموو ماڵی باوکمی لەبیر بردمەوە.» 52دووەمیشیانی ناو نا ئەفرایم41‏:52 بە واتای دیسان بەرهەمدارە‏ و گوتی: «ئەم ناوەم لێنا، چونکە خودا لە خاکی زەلیلیمدا بەرداری کردم.»

53حەوت ساڵە تێروتەسەلییەکەی خاکی میسر، کۆتایی پێهات. 54ئینجا هەروەک یوسف گوتبووی، حەوت ساڵی قاتوقڕییەکە دەستی پێکرد. قاتوقڕی هەموو زەوی گرتبووەوە، بەڵام لە هەموو خاکی میسردا نان هەبوو. 55کاتێک قاتوقڕییەکە کاریگەری لە هەموو میسر کرد، خەڵکەکە هاواریان بۆ فیرعەون برد بۆ نان. فیرعەونیش بە هەموو میسرییەکانی گوت: «بڕۆنە لای یوسف، ئەوەی ئەو پێتان دەڵێت بیکەن.»

56قاتوقڕییەکە تەواوی ڕووی خاکەکەی گرتەوە، ئینجا یوسف هەموو ئەمبارەکانی کردەوە و بە میسرییەکانی فرۆشت. قاتوقڕییەکە لە خاکی میسردا توندتر بوو. 57خەڵکی لە هەموو لایەکی جیهانەوە هاتن بۆ میسر تاکو گەنم لە یوسف بکڕن، چونکە قاتوقڕییەکە لە هەموو شوێنێکدا توند بوو.