ปฐมกาล 24 – TNCV & ASCB

Thai New Contemporary Bible

ปฐมกาล 24:1-67

อิสอัคกับเรเบคาห์

1อับราฮัมชรามากแล้ว และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเขาทุกด้าน 2วันหนึ่งอับราฮัมพูดกับหัวหน้าคนรับใช้24:2 หรือคนรับใช้ซึ่งอาวุโสที่สุดซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาว่า “จงเอามือของเจ้าไว้ที่หว่างขาของเรา 3ขอให้เจ้าสาบานต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้สร้างสวรรค์และโลก ว่าเจ้าจะไม่หาลูกสาวของชาวคานาอันซึ่งเป็นหมู่ชนที่เราอาศัยอยู่นี้มาเป็นภรรยาลูกชายของเรา 4แต่จะไปยังบ้านเกิดและญาติพี่น้องของเรา เพื่อหาภรรยาให้อิสอัคลูกชายของเรา”

5คนรับใช้นั้นจึงถามเขาว่า “หากหญิงสาวนั้นไม่ยอมจากบ้านตามข้าพเจ้ามายังดินแดนนี้เล่า? ข้าพเจ้าควรจะพาลูกชายของท่านกลับไปยังบ้านเมืองที่ท่านจากมาหรือ?”

6อับราฮัมกล่าวว่า “อย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่นเด็ดขาด 7พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้สร้างสวรรค์ ผู้ทรงนำเราออกมาจากครัวเรือนของบิดาและจากบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ผู้ซึ่งได้ตรัสและสัญญากับเราโดยคำปฏิญาณได้ตรัสว่า ‘เราจะมอบดินแดนนี้แก่เชื้อสาย24:7 หรือเมล็ดพันธุ์ของเจ้า’ พระองค์จะทรงให้ทูตของพระองค์นำเจ้าไป เพื่อเจ้าจะหาภรรยาให้ลูกชายของเราจากที่นั่น 8ถ้าหญิงนั้นไม่เต็มใจจะกลับมากับเจ้า เจ้าก็พ้นจากคำสาบานนี้ แต่อย่าพาลูกชายของเรากลับไปที่นั่นเด็ดขาด” 9ดังนั้นคนรับใช้จึงเอามือไว้ที่หว่างขาของอับราฮัมผู้เป็นนายและให้คำสาบานต่อเขาในเรื่องนี้

10แล้วคนรับใช้นั้นจึงนำอูฐของนายสิบตัวบรรทุกของมีค่าทุกประเภทจากนายของเขาออกเดินทางไปอารัมนาหะราอิม และมุ่งหน้าไปยังเมืองของนาโฮร์ 11เขาให้อูฐหมอบลงพักใกล้บ่อน้ำนอกเมือง ขณะนั้นใกล้เวลาเย็นแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่พวกผู้หญิงพากันออกมาตักน้ำ

12แล้วเขาอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงเมตตาอับราฮัมนายของข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ 13ดูเถิด ข้าพระองค์ยืนอยู่ที่ข้างบ่อน้ำนี้ และสาวๆ ในเมืองกำลังออกมาตักน้ำ 14ถ้าหากข้าพระองค์พูดกับหญิงสาวคนใดว่า ‘ขอน้ำในถังของเธอให้ฉันดื่มหน่อย’ แล้วนางตอบว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย’ ก็ถือว่านางเป็นผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้ให้อิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ หากเป็นไปตามนี้ ข้าพระองค์ก็จะรู้ว่าพระองค์ได้ทรงเมตตานายของข้าพระองค์แล้ว”

15ขณะที่เขาอธิษฐานยังไม่ทันจบ เรเบคาห์ก็แบกถังน้ำใส่บ่าออกมา นางเป็นบุตรสาวของเบธูเอล ผู้เป็นบุตรชายของมิลคาห์ มิลคาห์เป็นภรรยาของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม 16เรเบคาห์เป็นหญิงงามมาก เป็นสาวพรหมจารี ไม่เคยหลับนอนกับผู้ชาย เธอลงไปที่บ่อน้ำ เติมน้ำเต็มถังแล้วก็ขึ้นมา

17คนรับใช้นั้นรีบวิ่งไปหานางและกล่าวว่า “ขอน้ำในถังของเธอให้ฉันหน่อยเถิด”

18นางตอบว่า “นายเจ้าข้า เชิญดื่มเถิด” แล้วนางก็รีบยกถังลงให้เขาดื่มทันที

19หลังจากให้เขาดื่มน้ำแล้ว นางก็พูดว่า “ฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านกินจนอิ่มด้วย” 20เธอจึงรีบเทน้ำทั้งหมดจากถังลงในราง แล้ววิ่งไปที่บ่อ ตักน้ำให้อูฐจนทุกตัวกินอิ่ม 21ชายนั้นเฝ้าสังเกตดูนางอยู่เงียบๆ เพื่อดูว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้การเดินทางของเขาประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่

22เมื่ออูฐทุกตัวกินน้ำอิ่มแล้ว เขาก็หยิบห่วงจมูกทองคำหนักราวสองสลึง24:22 ภาษาฮีบรูว่า 1 เบคา และกำไลทองคู่หนึ่งหนักราว 7 บาท24:22 ภาษาฮีบรูว่า 10 เชเขลออกมา 23และเขาถามว่า “เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร กรุณาบอกฉันเถิดว่าที่บ้านบิดาของเธอมีที่ว่างให้พวกเราพักค้างคืนได้ไหม?”

24นางตอบเขาว่า “ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอล บุตรชายของมิลคาห์กับนาโฮร์” 25และนางกล่าวต่อไปว่า “เรามีฟางกับอาหารสัตว์มากมาย พร้อมทั้งที่ว่างให้ท่านพักค้างคืนด้วย”

26แล้วเขาจึงก้มลงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า 27และกล่าวว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้ไม่ได้ทรงละทิ้งความเมตตาและความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อนายของข้าพระองค์ ส่วนข้าพระองค์นั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงนำข้าพระองค์ให้เดินทางมาถึงบ้านพี่น้องนายของข้าพระองค์”

28นางจึงวิ่งกลับไปบอกเรื่องนี้แก่คนที่บ้านของมารดา 29เรเบคาห์มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อลาบัน แล้วลาบันรีบรุดมาพบชายนั้นที่บ่อน้ำ 30ทันทีที่เขาเห็นห่วงจมูกและกำไลที่ข้อมือของน้องสาว และได้ฟังเรเบคาห์เล่าสิ่งที่ชายคนนั้นพูดกับนางแล้ว เขาก็ออกไปหาชายคนนั้นและพบเขายืนอยู่ข้างบ่อน้ำกับฝูงอูฐ 31ลาบันกล่าวว่า “มาเถิด ท่านผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพร ทำไมท่านจึงยืนอยู่ข้างนอกตรงนี้? เราได้จัดบ้านไว้และเตรียมที่สำหรับฝูงอูฐแล้ว”

32ชายนั้นจึงไปที่บ้าน มีคนมาปลดสัมภาระลงจากฝูงอูฐ ให้ฟางและอาหารแก่พวกมัน และจัดหาน้ำมาให้เขาและคนของเขาล้างเท้า 33แล้วยกอาหารมาตั้งตรงหน้าชายนั้น แต่เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะยังไม่รับประทานจนกว่าจะได้บอกให้ท่านรู้ถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องพูด”

ลาบันกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น จงบอกเราเถิด”

34เขาจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ของอับราฮัม 35องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรนายของข้าพเจ้าอย่างล้นเหลือ จนท่านกลายเป็นคนมั่งคั่ง พระองค์ประทานฝูงแกะ ฝูงวัว อูฐ ลา เงินและทอง ตลอดจนคนรับใช้ชายหญิง 36ต่อมานางซาราห์ภรรยาของนายคลอดลูกชายคนหนึ่งให้นายเมื่อนาง24:36 หรือเขาอายุมากแล้ว และนายยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ลูกคนนี้ 37แล้วนายก็ให้ข้าพเจ้าสาบานและกล่าวว่า ‘เจ้าจะต้องไม่หาลูกสาวของชาวคานาอันซึ่งเป็นเจ้าของดินแดนที่เราอาศัยอยู่นี้มาเป็นภรรยาของลูกชายเรา 38แต่จงไปยังครอบครัวบิดาของเรา ไปยังญาติพี่น้องของเรา และหาภรรยาให้ลูกชายของเรา’

39“แล้วข้าพเจ้าก็ถามนายว่า ‘ถ้าหญิงนั้นไม่ยอมตามข้าพเจ้ามาเล่า?’

40“นายตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่เราดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระองค์นั้นจะทรงส่งทูตของพระองค์ไปกับเจ้า และจะทรงทำให้การเดินทางของเจ้าประสบความสำเร็จ เพื่อเจ้าจะสามารถหาภรรยาให้ลูกชายของเราจากญาติพี่น้องของเรา และจากครอบครัวบิดาของเรา 41เมื่อเจ้าไปหาญาติพี่น้องของเราแล้ว เจ้าก็พ้นจากคำสาบานที่ให้กับเรา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ยอมยกนางให้เจ้า เจ้าก็จะพ้นจากคำสาบาน’

42“วันนี้เมื่อข้าพเจ้ามาถึงบ่อน้ำก็อธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ โปรดให้การเดินทางของข้าพระองค์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ 43ดูเถิด ข้าพระองค์กำลังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ ถ้าหญิงสาวคนหนึ่งออกมาตักน้ำ และข้าพระองค์พูดกับนางว่า “กรุณาให้ฉันดื่มน้ำจากถังของเธอสักหน่อยเถิด” 44และถ้านางตอบว่า “เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านด้วย” ก็ขอให้นางเป็นผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้ลูกชายของนายข้าพเจ้า’

45“ก่อนที่ข้าพเจ้าจะจบคำอธิษฐานในใจ เรเบคาห์เดินออกมาพร้อมกับแบกถังน้ำบนบ่า นางเดินไปที่บ่อน้ำและตักน้ำ แล้วข้าพเจ้าก็พูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ฉันดื่มหน่อยเถิด’

46“นางก็รีบยกถังลงมาจากบ่าและบอกว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะตักน้ำให้ฝูงอูฐของท่านด้วย’ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดื่ม และนางก็ตักน้ำให้ฝูงอูฐด้วย

47“ข้าพเจ้าถามนางว่า ‘เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?’

“นางก็ตอบว่า ‘เป็นลูกสาวของเบธูเอล ผู้เป็นบุตรของนาโฮร์กับมิลคาห์’

“ข้าพเจ้าจึงสวมห่วงที่จมูกของนางและสวมกำไลที่แขนของนาง 48แล้วข้าพเจ้าก็ก้มลงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถูกทางเพื่อจะได้นำหลานสาวของน้องชายนายข้าพเจ้าไปให้แก่ลูกชายของเขา 49บัดนี้ ถ้าท่านจะกรุณานายของข้าพเจ้า ขอบอกข้าพเจ้า และถ้าท่านจะปฏิเสธ ก็โปรดบอกข้าพเจ้าเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป”

50ลาบันกับเบธูเอลจึงตอบว่า “เรื่องนี้เป็นมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ขอให้เป็นไปตามนั้น 51เรเบคาห์อยู่นี่ พานางไปเถิด ให้นางไปเป็นภรรยาลูกชายเจ้านายของท่าน ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำ”

52เมื่อคนรับใช้ของอับราฮัมได้ยินเช่นนั้นก็ก้มกราบลงถึงพื้นนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า 53แล้วคนรับใช้หยิบแก้วแหวนเงินทองและเสื้อผ้าอาภรณ์ให้นางเรเบคาห์ และให้ของขวัญล้ำค่าต่างๆ แก่พี่ชายและมารดาของนาง 54แล้วคนรับใช้นั้นกับคนของเขาก็กินดื่มและพักค้างคืนที่นั่น

เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา คนรับใช้นั้นจึงกล่าวว่า “โปรดส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด”

55แต่พี่ชายและมารดาของเรเบคาห์ตอบว่า “ขอให้นางอยู่กับเราอีกสักสิบวันแล้วท่าน24:55 หรือนางค่อยไป”

56แต่คนรับใช้นั้นกล่าวกับพวกเขาว่า “อย่ารั้งข้าพเจ้าไว้เลย ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จแก่การเดินทางของข้าพเจ้าแล้ว ขอได้ส่งข้าพเจ้ากลับไปหานายของข้าพเจ้าเถิด”

57แล้วพวกเขาจึงกล่าวว่า “ให้เราเรียกนางมาถามดู” 58ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกเรเบคาห์มาถามว่า “เจ้าจะไปกับชายผู้นี้หรือไม่?”

นางตอบว่า “ฉันจะไป”

59พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวของเขาไปพร้อมกับพี่เลี้ยงของนางและคนรับใช้ของอับราฮัมกับคนของเขา 60พวกเขาอวยพรเรเบคาห์และกล่าวกับนางว่า

“น้องเอ๋ย ขอให้ลูกหลานของเจ้าทวีขึ้น

เป็นแสนเป็นล้าน

ขอให้วงศ์วานของเจ้าครอบครอง

ประตูเมืองของศัตรู”

61จากนั้นเรเบคาห์กับบรรดาสาวใช้ของนางก็เตรียมตัวไว้พร้อมและขึ้นอูฐออกเดินทางกลับไปพร้อมกับคนรับใช้นั้น ดังนั้นคนรับใช้ก็พาเรเบคาห์จากไป

62ฝ่ายอิสอัคกลับมาจากเบเออร์ลาไฮรอย เพราะเขาอยู่ในเนเกบ 63เย็นวันหนึ่งเขาออกไปที่ท้องทุ่ง เดินคิดใคร่ครวญอยู่ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นขบวนอูฐกำลังเคลื่อนเข้ามา 64เรเบคาห์ก็เงยหน้าขึ้นมองเห็นอิสอัค นางลงมาจากอูฐ 65และถามคนรับใช้นั้นว่า “ชายคนที่เดินลัดทุ่งมาหาเรานั้นคือใคร?”

คนรับใช้นั้นตอบว่า “ท่านเป็นนายของข้าพเจ้า” นางจึงหยิบผ้ามาคลุมหน้า

66แล้วคนรับใช้นั้นก็เล่าทุกสิ่งที่เขาทำให้อิสอัคฟัง 67อิสอัคก็นำเรเบคาห์เข้าไปในเต็นท์ที่ซาราห์ผู้เป็นมารดาของเขาเคยอาศัย และแต่งงานกับเรเบคาห์ ดังนั้นนางจึงมาเป็นภรรยาของเขา และเขารักนาง และอิสอัคก็คลายความเศร้าโศกที่มารดาของเขาเสียชีวิต

Asante Twi Contemporary Bible

1 Mose 24:1-67

Isak Ware Rebeka

1Na Abraham anyini a ne mfeɛ kɔ ɛkan yie. Awurade hyiraa no akwan ahodoɔ nyinaa so. 2Ɛda koro bi, Abraham ka kyerɛɛ ne ɔsomfoɔ panin a ɔhwɛ nʼagyapadeɛ nyinaa so sɛ, “Fa wo nsa ka me srɛ ase. 3Mepɛ sɛ woka Awurade a ɔyɛ ɔsoro ne asase Onyankopɔn ntam sɛ, worenware Kanaanfoɔ a me ne wɔn te yi babaa biara mma me babarima Isak. 4Na mmom, wobɛkɔ me ɔman mu, mʼabusuafoɔ nkyɛn, akɔware ɔbaa abrɛ no.”

5Ɔsomfoɔ no bisaa Abraham sɛ, “Me wura, na sɛ ɛba sɛ ɔbaa no ampene so sɛ ɔne me bɛba ɔman yi mu a, na mereyɛ no ɛdeɛn? Memfa wo babarima no nkɔ wo ɔman no mu anaa?”

6Abraham kaa sɛ, “Hwɛ yie na woamfa me babarima no ankɔ hɔ da. 7Awurade, ɔsoro Onyankopɔn a ɔde me firi mʼagya fie ne mʼasase so baa ha, na ɔkaa ntam hyɛɛ me bɔ sɛ, ‘Mede saa asase yi bɛma wʼasefoɔ no.’ Ɔno ara na ɔbɛsoma ne ɔbɔfoɔ adi wʼanim akɔ sɛdeɛ ɛbɛyɛ a, wobɛnya ɔyere afiri hɔ ama me babarima no. 8Sɛ ɛba sɛ, ɔbaa no ampene sɛ ɔne wo bɛba a, wo ntam a wokaeɛ no nkyekyere wo. Ɛnsɛ sɛ wode me babarima no kɔ hɔ.” 9Enti, ɔsomfoɔ no de ne nsa kaa ne wura Abraham srɛ ase, kaa saa asɛm yi ho ntam.

10Afei, ɔsomfoɔ no faa ne wura nyoma no mu edu kɔeɛ. Ɔrebɛkɔ no, ɔgyee ne wura Abraham nkyɛn nnepa ahodoɔ bebree kaa ho. Ɔde nʼani kyerɛɛ Mesopotamia, kɔduruu Nahor kuro mu. 11Ɔduruu Nahor kurotia no, ɔmaa nyoma no butubutuu abura bi a ɛwɔ hɔ ho. Na onwunu adwo a ɛyɛ ɛberɛ a mmaa bɛto nsuo wɔ abura no mu.

12Na ɔsomfoɔ no bɔɔ mpaeɛ sɛ, “Ao, Awurade, me wura Abraham Onyankopɔn, hunu me wura Abraham mmɔbɔ, na boa me, na mʼakwantuo yi nsi yie. 13Hwɛ, megyina abura yi so, na kuro yi mu mmabaawa rebɛto nsuo. 14Ma ɛmmra mu sɛ, ababaawa biara a mɛka akyerɛ no sɛ, ‘Mesrɛ wo, soɛ na ma me wo sukuruwa no mu nsuo no bi nnom no,’ sɛ ɔka sɛ, ‘Nom bi, na mɛma wo yoma no nso bi anom’ a, ɔnyɛ ababaawa a woapa no ama wʼakoa Isak. Ɛnam yei so bɛma mahunu sɛ, woahunu me wura mmɔbɔ.”

15Ɔgu so rebɔ mpaeɛ no na Rebeka baeɛ a ne sukuruwa si nʼabati so. Saa Rebeka no yɛ Betuel ba. Betuel no nso yɛ Abraham nuabarima Nahor ne ne yere Milka babarima. 16Na Rebeka no yɛ ɔbaabunu a ne ho yɛ fɛ yie. Na ɔbarima biara mfaa ne ho nkaa no da. Ɔsiane kɔɔ abura no so, kɔhyɛɛ ne sukuruwa no nsuo ma, sane baeɛ.

17Ɔsomfoɔ no de ahoɔherɛ kɔhyiaa Rebeka, ka kyerɛɛ no sɛ, “Mesrɛ wo, hwie wo sukuruwa no mu nsuo no kakra ma mennom.”

18Ntɛm ara, ɔsoɛɛ ne sukuruwa no kaa sɛ, “Me wura, gye bi nom.”

19Rebeka maa ɔsomfoɔ no nsuo no bi nom wieeɛ no, ɔkaa sɛ, “Mɛsane akɔtwe nsuo no bi abrɛ wo nyoma no nyinaa nso anom.” 20Enti, Rebeka de ahoɔherɛ hwiee ne nsuo no guu anomeeɛ bi mu, sane kɔtwee nsuo a ɛbɛso nyoma no nyinaa nom de baeɛ. 21Ɔsomfoɔ no hwɛɛ Rebeka komm, karii no pɛɛ sɛ ɔhunu sɛ Awurade ama nʼakwantuo no asi no yie anaa.

22Nyoma no nom nsuo no wieeɛ no, ɔsomfoɔ no yii sikakɔkɔɔ hwenemukawa a emu duru kari gram nsia ne sikakɔkɔɔ nkapo mmienu a ɛno nso mu duru yɛ gram ɔha dunan. 23Afei, ɔbisaa sɛ, “Hwan ba ne wo? Mesrɛ wo, yɛbɛnya daberɛ wɔ wo agya fie ama adeɛ akye anaa?”

24Rebeka buaa no sɛ, “Betuel babaa ne me. Me nananom ne Milka ne Nahor.” 25Ɔka kaa ho sɛ, “Yɛwɔ ɛserɛ ne mmoa aduane bebree ne baabi a, mo nso, mobɛda.”

26Afei, ɔsomfoɔ no buu nkotodwe, sɔree Awurade Onyankopɔn sɛ, 27“Nhyira nka Awurade, me wura Abraham Onyankopɔn, sɛ ɔnnyaee nokorɛdie ne ayamyɛ a ɔyɛ ma me wura no. Me deɛ, Awurade adi mʼanim wɔ mʼakwantuo yi mu, de me abɛduru me wura abusuafoɔ fie.”

28Rebeka tuu mmirika kɔkaa nsɛm a asisie no nyinaa kyerɛɛ ne maame fiefoɔ. 29Na Rebeka wɔ nuabarima bi a ne din de Laban. Laban tee asɛm no, ɔde ahoɔherɛ kɔɔ ɔbarima no nkyɛn wɔ abura no so. 30Laban hunuu hwenemukawa no ne nkapo a ɛgu ne nuabaa no nsa no, na ɔtee asɛm a ɔbarima no ka kyerɛɛ Rebeka no, ɔkɔɔ ɔbarima no nkyɛn kɔhunuu sɛ ɔgyina nyoma no ho wɔ asubura no so. 31Laban ka kyerɛɛ ɔsomfoɔ no sɛ, “Bra, wo a Awurade ahyira wo.” Ɔbisaa ɔsomfoɔ no sɛ, “Adɛn enti na wogyina kurotia ha? Masiesie wo daberɛ ne baabi a nyoma no nso bɛda.”

32Enti, ɔsomfoɔ no kɔɔ efie hɔ maa Laban yiyii nneɛma a ɛsoso nyoma no. Wɔmaa nyoma no ɛserɛ ne aduane, afei Laban maa ɔsomfoɔ no ne nnipa a wɔka ne ho no nsuo de hohoroo wɔn nan ho. 33Yei akyiri no, ɔtoo wɔn ɛpono. Nanso, ɔsomfoɔ no kaa sɛ, “Merempɛ sɛ mɛdidi, gye sɛ mabɔ mʼamanneɛ.”

Laban kaa sɛ, “Bɔ wʼamanneɛ ɛ.”

34Enti, ɔsomfoɔ no bɔɔ nʼamanneɛ sɛ, “Meyɛ Abraham ɔsomfoɔ. 35Awurade ahyira me wura bebree, ama wayɛ ɔdefoɔ. Wama no nnwan ne anantwie, dwetɛ ne sikakɔkɔɔ, nkoa ne mfenaa ne nyoma ne mfunumu. 36Bio, me wura yere Sara awo ɔbabarima ama no wɔ ne mmerewaberɛ mu; Awurade na ɔde deɛ ɔwɔ nyinaa ama no. 37Me wura maa mekaa ntam sɛ, ‘Worenware Kanaanfoɔ a me ne wɔn te yi babaa biara mma me babarima Isak. 38Na mmom, wobɛkɔ me ɔman mu, mʼabusuafoɔ nkyɛn, akɔware ɔbaa wɔ hɔ abrɛ me babarima Isak.’

39“Na mebisaa me wura sɛ, ‘Na sɛ ɛba sɛ, ɔbaa no ampene so sɛ ɔne me bɛba ɔman yi mu a, na mereyɛ no ɛdeɛn?’

40“Me wura Abraham buaa sɛ, ‘Awurade a manante nʼanim no bɛsoma ne ɔbɔfoɔ, adi wʼanim, sɛdeɛ ɛbɛyɛ a, wʼakwantuo no bɛsi yie, na woanya ɔyere ama me babarima afiri mʼabusua mu a ɛyɛ mʼagya fie no mu. 41Afei, sɛ ɛba sɛ, woba mʼabusua mu, na sɛ wɔamfa ɔbaa no amma wo a, wo ntam a wokaeɛ no renkyekyere wo.’

42“Mebaa asubura no so ɛnnɛ no, mesrɛɛ sɛ, ‘Ao, Awurade, me wura Abraham Onyankopɔn, sɛ ɛyɛ wo pɛ a, ma akwantuo yi nsi me yie! 43Hwɛ, megyina abura yi so. Sɛ ababaawa bi bɛto nsuo wɔ ha, na meka kyerɛ no sɛ, “Mesrɛ wo, soɛ na ma me wo sukuruwa no mu nsuo no kakra nnom” no, 44na sɛ ɔka sɛ, “Nom bi, na mɛma wo nyoma no nso bi anom” a, ɔnyɛ ababaawa a Awurade apa no ama me wura Abraham babarima Isak no.’

45“Ansa na mɛwie mʼakoma mu mpaeɛbɔ no, Rebeka puee a sukuruwa si ne batiri so. Rebeka kɔɔ abura no so, kɔtoo nsuo, na meka kyerɛɛ no sɛ, ‘Mesrɛ wo, ma me nsuo no bi nnom.’

46“Ntɛm ara, ɔsoɛɛ ne sukuruwa no kaa sɛ, ‘Me wura, gye bi nom na mɛsane atwe nsuo no bi abrɛ wo nyoma no nyinaa nso anom.’ Enti, menom nsuo no bi, na ɔmaa nyoma no nyinaa nso bi nomeeɛ.

47“Mebisaa no sɛ, ‘Hwan ba ne wo?’

“Rebeka buaa sɛ, ‘Betuel ba ne me. Me nananom ne Milka ne Nahor.’

“Ɛhɔ ara na mede hwenemukawa no hyɛɛ ne hwenemu, ɛnna mede nkapo no nso guu ne nsa. 48Afei, mebɔɔ me mu ase sɔree Awurade. Mekamfoo Awurade a ɔyɛ me wura, Abraham Onyankopɔn, a wadi mʼanim de me afa ɛkwan pa so, ama manya me wura nuabarima nana aware ama ne babarima no. 49Afei, sɛ wobɛyɛ me wura adɔeɛ adi no nokorɛ a, ka kyerɛ me. Sɛ ɛnte saa nso a, ka kyerɛ me, sɛdeɛ ɛbɛyɛ a, mɛhunu ɛkwan ko a mɛfa so.”

50Laban ne Betuel buaa sɛ, “Saa asɛm yi firi Awurade enti, yɛnni ho asɛm biara. 51Rebeka ni. Momfa no nkɔ, na ɔnkɔware mo wura no babarima no, sɛdeɛ Awurade ahyɛ no.”

52Ɛberɛ a Abraham ɔsomfoɔ no tee deɛ wɔkaeɛ no, ɔbuu nkotodwe wɔ Awurade anim. 53Afei, ɔsomfoɔ no yii sikakɔkɔɔ ne dwetɛ nnwinneɛ ne ntadeɛ maa Rebeka. Ɔsane de nneɛma a ɛsom bo yie yɛɛ Rebeka nuabarima ne ne maame ayɛ. 54Afei, ɔsomfoɔ no ne nnipa a wɔka ne ho no didi nomeeɛ, na wɔda maa adeɛ kyeeɛ.

Adeɛ kyee anɔpa a wɔsɔreeɛ no, ɔsomfoɔ no kaa sɛ, “Monnya me ɛkwan, na mensane nkɔ me wura nkyɛn.”

55Nanso, Rebeka nuabarima no ne ne maame buaa ɔsomfoɔ no sɛ, “Ma ababaawa no ntena yɛn nkyɛn bɛyɛ sɛ dadu bi, na ɛno akyiri, wode no akɔ.”

56Akoa no buaa wɔn sɛ, “Awurade ahyira mʼakwantuo yi so ama me yi deɛ, mesrɛ mo, monnnye me nka ha. Monnya me ɛkwan, na mensane nkɔ me wura nkyɛn.”

57Afei, wɔsii gyinaeɛ sɛ, “Momma yɛmfrɛ ababaawa no, na yɛmmisa nʼadwene.” 58Enti, wɔfrɛɛ Rebeka bisaa no sɛ, “Wopɛ sɛ wo ne saa ɔbarima yi kɔ anaa?”

Rebeka buaa sɛ, “Aane, mɛkɔ!”

59Enti, wɔgyaa Rebeka ne ɔbaa a ɔgyegyee no ne nkwadaaberɛm ne Abraham ɔsomfoɔ no ne ne nkurɔfoɔ ɛkwan. 60Wɔhyiraa Rebeka sɛ,

“Onuabaa, Awurade nka wo ho,

na wʼase nnɔ mpempem!

Awurade mma wʼasefoɔ no

nni wɔn atamfoɔ nyinaa so nkonim.”

61Afei, Rebeka ne ne mmaawa siesiee wɔn ho, tenatenaa wɔn nyoma so ne Abraham ɔsomfoɔ no kɔeɛ. Yei ne ɛkwan a Abraham ɔsomfoɔ no faa so de Rebeka kɔeɛ.

62Saa ɛberɛ no, na Isak a na anka ɔte Negeb no firi hɔ abɛtena Beer-Lahai-Roi. 63Ɛda koro anwummerɛ bi a Isak kɔtuu mpase srɛ so refa adwene no, ɔtoo nʼani hunuu sɛ nyoma sa so reba. 64Rebeka nso too nʼani, na ɔhunuu Isak. Rebeka si firii ne yoma no so, 65bisaa Abraham ɔsomfoɔ no sɛ, “Ɔbarima bɛn na ɔnam ɛserɛ yi so rebɛhyia yɛn yi?”

Ɔsomfoɔ no buaa sɛ, “Ɔyɛ me wura babarima.” Enti, Rebeka yii ne nkatanimu de kataa nʼanim.

66Abraham ɔsomfoɔ no bɔɔ Isak nsɛm a asisie no nyinaa ho amaneɛ. 67Isak de Rebeka kɔɔ ne maame Sara ntomadan mu. Na ɔwaree no, ma ɔbɛyɛɛ ne yere. Na ɔdɔ no yie. Yei maa Isak werɛ kyekyereeɛ wɔ ne maame Sara wuo akyiri.