Ježíš Kristus je rovný Otci
1Bůh mluvil odedávna k otcům mnoha různými způsoby prostřednictvím proroků a odhaloval jim postupně své plány. 2V tomto posledním čase k nám promluvil ve svém Synu.
Boží Syn je podivuhodná bytost. Bůh mu vše dal a skrze něho stvořil svět a vše, co je v něm. 3On vyzařuje Boží lásku. Každý jeho čin a každé jeho slovo dosvědčuje, že je Bůh. Řídí vesmír podmanivou silou svého rozkazu. Zemřel, aby očistil naše svědomí od všech hříchů, vstal z mrtvých a pak se posadil na čestné místo u Boha.
Boží Syn je vyšší než andělé
4Boží Syn převyšuje i Boží posly – anděly. Jeho jméno to dokazuje. 5Vždyť Bůh nikdy neřekl andělu:
„Ty jsi můj Syn,
kterého jsem dnes zplodil.“
Ani:
„Budu mu otcem a on mi bude synem.“
6Ale když uvádí svého prvorozeného Syna na zem, říká:
„Ať se mu klanějí všichni Boží andělé.“
7Bůh mluví o svých andělích jako o vanutí větru a plamenech ohně, 8ale o svém Synu říká:
„Ty budeš, Bože, vládnout navzdory všem změnám
a tvoje vláda bude spravedlivá.
9Miluješ spravedlnost a nenávidíš svévoli.
Proto ti Bůh učinil radost a vyvýšil tě nad tvé druhy.“
10„Ty jsi, Pane, na počátku učinil zemi
a nebesa jsou dílo tvých rukou.
11Nebesa se rozplynou, ale ty zůstaneš.
12Obnosí se jako plášť a jednou je odložíš a vyměníš.
Ty však nezestárneš a nezahyneš.“
13Bůh nikdy nevyzval žádného anděla,
aby se posadil na čestné místo nedaleko něho,
dokud mu nepodrobí všechny nepřátele.
14Andělé jsou jen duchovní poslové, kteří jsou vysíláni, aby pečovali o ty, kterým se má dostat spásy jako dědictví.
พระบุตรทรงยิ่งใหญ่เหนือเหล่าทูตสวรรค์
1ในอดีตพระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราผ่านทางผู้เผยพระวจนะหลายครั้งหลายคราด้วยวิธีการต่างๆ 2แต่ในวาระสุดท้ายนี้พระองค์ได้ตรัสกับเราทั้งหลายโดยพระบุตรของพระองค์ ผู้ที่พระองค์ได้แต่งตั้งให้เป็นทายาทครอบครองทุกสิ่งและได้ทรงสร้างจักรวาลโดยพระบุตรนี้ 3พระบุตรคือรัศมีเจิดจ้าแห่งพระเกียรติสิริของพระเจ้า ทรงเป็นเหมือนพระเจ้าทุกประการ และทรงผดุงสรรพสิ่งไว้ด้วยพระดำรัสอันทรงฤทธานุภาพของพระองค์ ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ได้ทรงชำระบาปแล้ว พระองค์จึงได้ประทับลงที่เบื้องขวาขององค์ผู้ทรงบารมีในสวรรค์ 4ฉะนั้นพระองค์จึงทรงยิ่งใหญ่เหนือเหล่าทูตสวรรค์ เพราะพระนามที่พระองค์ได้รับสูงส่งกว่านามของเหล่าทูตสวรรค์
5เพราะพระเจ้าเคยตรัสกับทูตสวรรค์องค์ไหนอย่างนี้บ้าง? ที่ว่า
“เจ้าเป็นบุตรของเรา
วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า1:5 หรือได้ให้กำเนิดเจ้า”1:5 สดด.2:7
และตรัสว่า
“เราจะเป็นบิดาของเขา
และเขาจะเป็นบุตรของเรา”1:5 2ซมอ.7:141พศด.17:13
6และอีกครั้งเมื่อพระเจ้าทรงนำบุตรหัวปีของพระองค์เข้ามาในโลก พระองค์ตรัสว่า
“ให้ทูตสวรรค์ทั้งสิ้นของพระเจ้านมัสการเขา”1:6 ฉธบ.32:43
7พระองค์ตรัสถึงเหล่าทูตสวรรค์ว่า
“พระองค์ทรงทำให้ทูตสวรรค์ของพระองค์เป็นสายลม
ให้ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นเปลวไฟ”1:7 สดด.104:4
8แต่ส่วนพระบุตรนั้น พระองค์ตรัสว่า
“ข้าแต่พระเจ้า ราชบัลลังก์ของพระองค์จะดำรงนิจนิรันดร์
พระองค์จะทรงปกครองราชอาณาจักรของพระองค์ด้วยคทาแห่งความชอบธรรม
9พระองค์ทรงรักความชอบธรรมและทรงเกลียดชังความชั่ว
ฉะนั้นพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าของพระองค์จึงทรงตั้งพระองค์ไว้เหนือพระสหายทั้งปวง
โดยทรงเจิมพระองค์ด้วยน้ำมันแห่งความชื่นชมยินดี”1:8,9 สดด.45:6,7
10และพระองค์ตรัสด้วยว่า
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ในปฐมกาลพระองค์ทรงวางฐานรากของแผ่นดินโลก
และฟ้าสวรรค์เป็นพระหัตถกิจของพระองค์
11สิ่งเหล่านั้นจะพินาศไป แต่พระองค์ทรงดำรงอยู่
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดจะเก่าไปเหมือนเครื่องนุ่งห่ม
12พระองค์จะทรงม้วนสิ่งเหล่านั้นขึ้นเหมือนเสื้อคลุม
สิ่งเหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนไปเหมือนเสื้อผ้า
แต่พระองค์เองยังคงเดิม
และปีเดือนของพระองค์จะไม่สิ้นสุด”1:10-12 สดด.102:25-27
13มีทูตสวรรค์องค์ไหนบ้างที่พระเจ้าตรัสว่า
“จงนั่งที่ขวามือของเรา
จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้า
เป็นแท่นวางเท้าของเจ้า”1:13 สดด.110:1?
14ทูตสวรรค์ทั้งปวงคือวิญญาณผู้ปรนนิบัติซึ่งพระเจ้าทรงส่งไปรับใช้บรรดาผู้ที่จะได้รับความรอดเป็นมรดกไม่ใช่หรือ?