Bɔne, Bɔneka Ne Ogye
1Ampa ara Awurade nsa nyɛ tiaa sɛ ɛrennye nkwa,
na nʼasom nyɛ den sɛ ɛrente asɛm.
2Nanso mo amumɔyɛ na atetew
mo ne mo Nyankopɔn ntam;
mo bɔne ama nʼanim ahintaw mo,
a enti ɔrente.
3Na mogya akeka mo nsa ho,
afɔdi asra mo nsateaa ho.
Mo ano akeka atosɛm,
mo tɛkrɛma de amumɔyɛsɛm di nseku.
4Obiara nhwehwɛ atɛntrenee;
obiara mfa nokwaredi mmɔ ne nkurow.
Wɔde wɔn ho to nsɛnhuhuw so na wotwa nkontompo;
wonyinsɛn ɔhaw na wɔwo bɔne.
5Wosow nhurutoa nkesua
na wɔnwen ananse ntontan.
Nea odi wɔn nkesua biara bewu,
mu baako nso bɔ a, ɛpae ahurutoa.
6Wɔn ntontan nye mma adurade;
wɔrentumi mfa nea wɔyɛ nkata wɔn ho.
Wɔn nneyɛe yɛ nneyɛe bɔne,
na wodi akakabensɛm.
7Wotu mmirika kɔyɛ bɔne;
wɔnkyɛ opira ne awudi ho.
Baabiara a wɔbɛkɔ no, wɔsɛe hɔ pasaa.
8Asomdwoe kwan no, wonnim;
atɛntrenee nni wɔn akwan so.
Wɔadan wɔn akwan kɔntɔnkye
obiara a ɔnantew so no rennya asomdwoe.
9Enti atɛntrenee ne yɛn ntam aware,
na adetrenee mmɛn yɛn.
Yɛhwehwɛ hann, nanso ne nyinaa yɛ sum;
nea ɛhyerɛn, nanso yɛnam sum kabii mu.
10Te sɛ anifuraefo no, yɛkeka wɔ afasu ho
hwehwɛ ɔkwan te sɛ nnipa a wonni ani.
Owigyinae no yehintihintiw sɛnea onwini adwo;
yedu ahoɔdenfo mu a yɛte sɛ awufo.
11Yɛn nyinaa woro so te sɛ sisi;
yɛde awerɛhow kurum sɛ mmorɔnoma.
Yɛhwehwɛ atɛntrenee nso yenhu bi;
ogye, nanso ɛwɔ akyirikyiri.
12Efisɛ, yɛn mfomso adɔɔso wɔ wʼani so,
na yɛn bɔne di adanse tia yɛn.
Yɛn mfomso da yɛn anim daa,
na yegye yɛn amumɔyɛ to mu:
13atuatew ne nkontompo a etia Awurade,
yɛn akyi a yɛdan kyerɛ yɛn Nyankopɔn,
nhyɛso ne atuatew a yɛfoa so,
atosɛm a efi koma mu a yɛka.
14Enti wɔapam atɛntrenee kɔ nʼakyi,
na adetrenee akogyina baabi;
nokware ahwe ase wɔ mmɔnten so
nokwaredi ntumi mma mu.
15Nokware nni baabiara,
obiara a ɔtwe ne ho fi bɔne ho no bɛyɛ ɔtamfo.
Awurade hwɛe na ansɔ nʼani
sɛ atɛntrenee nni hɔ.
16Ohuu sɛ obiara nni hɔ,
ɛyɛɛ no nwonwa sɛ obiara nni hɔ a ɔbɛpata;
enti ɔno ankasa basa dii nkwagye ho dwuma maa no,
na ne trenee wowaw no.
17Ɔhyɛɛ trenee sɛ nkatabo,
ne nkwagye dadekyɛw wɔ ne ti so.
Ɔhyɛɛ aweretɔ ntade
na ofuraa mmɔdemmɔ sɛ ntama.
18Obegyina nea wɔayɛ so
atua so ka
nʼatamfo benya nʼabufuwhyew
wɔn a wɔne no ayɛ dɔm benya so akatua;
nsupɔw no nso obetua wɔn ka sɛnea ɛfata wɔn.
19Efi atɔe fam, nnipa besuro Awurade din
na efi apuei, wɔde nidi bɛma nʼanuonyam.
Na ɔbɛba sɛ asu a ayiri tɛnn
na Awurade ahomegu repia no.
20“Ogyefo no bɛba Sion,
na obeyi amumɔyɛsɛm nyinaa afi Yakob asefo mu,”
sɛɛ na Awurade se.
21“Me de, eyi yɛ me ne wɔn apam,” sɛnea Awurade se ni. “Me Honhom a ɔwɔ mo so, ne me nsɛm a mede ahyɛ mo anom, remfi mo anom, anaa mo mma, ne mo mma asefo anom, efi saa bere yi kosi daa apem,” sɛɛ na Awurade se.
บาป การสารภาพ และการไถ่
1แน่ทีเดียว พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าจะช่วยให้รอด
ทั้งพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้ตึงเกินกว่าจะได้ยิน
2แต่ความชั่วช้าของเจ้าต่างหาก
ที่ได้แยกเจ้าออกจากพระเจ้าของเจ้า
บาปของเจ้าทำให้พระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์จากเจ้า
พระองค์จึงไม่สดับฟัง
3มือของเจ้าเกรอะกรังไปด้วยเลือด
นิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนความผิด
ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก
ลิ้นของเจ้าพึมพำสิ่งชั่วร้าย
4ไม่มีใครเรียกร้องให้มีความยุติธรรม
ไม่มีใครดำเนินคดีด้วยความสัตย์สุจริต
พวกเขาวางใจในการโต้แย้งอันไร้สาระและพูดโกหก
ก่อความเดือดร้อนและให้กำเนิดความชั่วร้าย
5เขาฟักไข่งูพิษ
และทอใยแมงมุม
ใครกินไข่ของเขาก็จะตาย
และเมื่อไข่ฟองไหนแตก งูพิษก็เลื้อยออกมา
6ใยแมงมุมที่พวกเขาทอขึ้นมาก็ใช้ประโยชน์เป็นเสื้อผ้าไม่ได้
เขาไม่สามารถปกคลุมตัวเองด้วยสิ่งที่ตนทำขึ้น
การกระทำของเขาชั่วร้าย
มือของเขาพร้อมที่จะก่อความรุนแรง
7เท้าของเขาถลันเข้าหาบาป
และพวกเขารีบเร่งจะเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์
ความคิดคำนึงของเขาล้วนแล้วแต่ชั่ว
วิถีทางของเขามีการทำลายล้างผลาญ
8เขาไม่รู้จักทางแห่งสันติภาพ
ไม่มีความยุติธรรมในหนทางของเขา
เขาผันแปรมันให้เป็นถนนที่คดเคี้ยว
ไม่มีใครที่ดำเนินในทางนั้นจะรู้จักสันติสุข
9ฉะนั้นความยุติธรรมจึงห่างไกลจากพวกเรา
และความชอบธรรมไม่ได้มาถึงเรา
เรามองหาความสว่าง ก็พบแต่ความมืดมน
เรามองหาความสดใส แต่เราก็เดินอยู่ในเงามืดมิด
10เราคลำสะเปะสะปะไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
คลำหาทางเหมือนคนไม่มีตา
กลางวันแสกๆ เราก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนยามสนธยา
เราจึงเป็นเหมือนคนตายในหมู่คนเข้มแข็ง
11เราทุกคนครางเหมือนหมี
โอดครวญเสียงเศร้าสร้อยเหมือนนกพิราบ
เรามองหาความยุติธรรมแต่ไม่พบเลย
มองหาการช่วยกู้แต่ก็อยู่ไกลลิบ
12เพราะการละเมิดของเรามากมายนักในสายพระเนตรของพระองค์
บาปทั้งหลายของเราฟ้องร้องเรา
การละเมิดของเราอยู่กับเราเสมอ
และเรายอมรับความชั่วช้าของเรา
13เรากบฏทรยศต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
หันหลังให้พระเจ้าของเรา
เราก่อการกดขี่ข่มเหงและการกบฏ
กล่าวคำโกหกซึ่งเราคิดไว้ในใจ
14ดังนั้นความยุติธรรมจึงถดถอย
ความชอบธรรมหลีกห่าง
ความจริงสะดุดกลางถนน
ความซื่อสัตย์ไม่อาจเข้ามาได้
15หาความจริงไม่พบเลยไม่ว่าที่ไหน
ผู้ที่หลีกหนีจากความชั่วกลับตกเป็นเหยื่อ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรแล้วก็ไม่พอพระทัย
เนื่องจากไม่มีความยุติธรรมเลย
16พระองค์ทรงเห็นว่าไม่มีใครเลย
และตกพระทัยที่ไม่มีใครก้าวเข้ามาช่วย
ดังนั้นพระกรของพระองค์เองจึงนำความรอดมา
และความชอบธรรมของพระองค์ก็ค้ำจุนพระองค์ไว้
17พระองค์ทรงสวมความชอบธรรมเป็นเสื้อเกราะ
และทรงสวมหมวกเหล็กแห่งความรอดไว้บนพระเศียร
ทรงฉลองพระองค์ด้วยเสื้อคลุมแห่งการแก้แค้น
และทรงห่มความกระตือรือร้นเหมือนห่มเสื้อคลุม
18พระองค์จะทรงตอบแทนศัตรูทั้งหลายของพระองค์ด้วยพระพิโรธ
และจะทรงแก้แค้นบรรดาปฏิปักษ์ของพระองค์ให้สาสมกับการกระทำของพวกเขา
พระองค์จะทรงตอบแทนเกาะแก่งต่างๆ ตามที่มันสมควรจะได้รับ
19ผู้คนจากตะวันตกจะยำเกรงพระนามของพระยาห์เวห์
และจากที่พระอาทิตย์ขึ้น พวกเขาจะยกย่องพระเกียรติสิริของพระองค์
เพราะพระองค์จะเสด็จมาเหมือนกระแสน้ำเชี่ยว
ซึ่งขับเคลื่อนด้วยลมปราณขององค์พระผู้เป็นเจ้า59:19 หรือเมื่อศัตรูเข้ามาประหนึ่งน้ำท่วม / พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้เขาหนีไป
20“พระผู้ไถ่จะเสด็จมายังศิโยน
มายังคนในวงศ์วานยาโคบที่กลับใจจากบาปของพวกเขา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
21องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ส่วนเรา นี่เป็นพันธสัญญาของเรากับพวกเขา จิตวิญญาณของเราซึ่งอยู่กับเจ้าและถ้อยคำของเราซึ่งเราใส่ไว้ในปากของเจ้าจะไม่พรากไปจากปากของเจ้า หรือจากปากลูกๆ ของเจ้า หรือจากปากลูกหลานของพวกเขานับแต่บัดนี้จวบจนนิรันดร์” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
