1“Mʼani ahu eyinom nyinaa,
mʼaso ate, na ate ase.
2Nea wunim no, me nso minim;
wonyɛ abomfiaa mma me.
3Nanso mepɛ sɛ mekasa kyerɛ Otumfo no
na mekyerɛkyerɛ mʼasɛm mu kyerɛ Onyankopɔn.
4Mode atoro mmom na asra me ho;
mo nyinaa moyɛ ayaresafo a munsi hwee!
5Sɛ mobɛyɛ komm koraa a
ɛno na ɛbɛyɛ nyansa ama mo!
6Afei muntie mʼano asɛm;
muntie mʼanoyi.
7Mobɛka amumɔyɛsɛm ama Onyankopɔn ana?
Mobɛka nnaadaasɛm ama no ana?
8Mobɛkyea mo aso ama no?
Mobɛka Onyankopɔn asɛm ama no ana?
9Sɛ ɔhwehwɛ mo mu a, ebesi mo yiye ana?
Mubetumi adaadaa no sɛnea modaadaa nnipa no ana?
10Sɛ mokyeaa mo aso wɔ kokoa mu a,
sɛnea ɛte biara, ɔbɛka mo anim
11Nʼanuonyam mmɔ mo hu ana?
Ne ho suro ntɔ mo so ana?
12Mo kasatɔmmɛ yɛ mmɛbu a ɛte sɛ nsõ;
mo anoyi yɛ dɔte twann anoyi.
13“Monyɛ komm mma menkasa;
na nea ɛbɛyɛ me biara mmra me so.
14Adɛn nti na mede me ho to amane mu
na mede me nkwa to me nsam?
15Ɛwɔ mu sɛ okum me de, nanso ne so na mʼani bɛda;
ampa ara medi mʼakwan ho adanse wɔ nʼanim.
16Nokware, eyi na ɛbɛyɛ me nkwagye,
efisɛ nea onsuro Onyankopɔn no rentumi nkɔ nʼanim!
17Muntie me nsɛm yi yiye;
monyɛ aso mma nea meka.
18Afei a masiesie me nkurobɔ yi,
minim sɛ medi bem.
19Obi betumi abɔ me kwaadu ana?
Sɛ ɛte saa de a, anka mɛyɛ komm na mawu.
20“Onyankopɔn, yɛ saa nneɛma abien yi pɛ ma me,
na afei meremfa me ho nhintaw wo:
21Yi wo nsa fi me so kɔ akyirikyiri,
na gyae wo ho hu a wode hunahuna me no.
22Ɛno de, samena me na mɛba,
anaa ma menkasa na bua me.
23Mfomso ne bɔne dodow ahe na mayɛ?
Kyerɛ me me mfomso ne me bɔne.
24Adɛn nti na wode wʼanim asie me
na wudwen sɛ meyɛ wo tamfo?
25Wobɛyɛ ahaban a mframa rebɔ no ayayade ana?
Wobɛtaa ntɛtɛ a awo ana?
26Wokyerɛw sobo a ɛyɛ yaw tia me,
na woka me mmabunmmere mu bɔne nyinaa gu me so.
27Wode nkyehama gu mʼanan;
wohwɛ mʼanammɔnkwan nyinaa so yiye
na wode agyiraehyɛde ayeyɛ mʼanammɔn mu.
28“Enti onipa nkwa sa te sɛ ade a aporɔw,
te sɛ atade a nwewee adi.
1“ดวงตาของข้าได้เห็นทั้งหมดนี้
หูของข้าได้ยินและเข้าใจแล้ว
2ข้ารู้พอๆ กับท่านนั่นแหละ
ไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านเลย
3แต่ข้าอยากทูลตรงๆ ต่อองค์ทรงฤทธิ์
อยากสู้คดีกับพระเจ้า
4ส่วนพวกท่านเอาความเท็จมาป้ายสีข้า
ล้วนแล้วแต่เป็นหมอที่ไม่ได้ความ!
5โปรดเงียบเสียเถิด!
ท่านนิ่งเสียก็ยังจะนับว่าฉลาด
6บัดนี้โปรดฟังคำแย้งของข้า
ฟังคำอ้อนวอนจากปากข้าบ้าง
7ท่านจะพูดชั่วๆ อ้างว่าพูดแทนพระเจ้าหรือ?
ท่านจะพูดล่อหลอกเพื่อพระองค์หรือ?
8ท่านจะแสดงความลำเอียงเข้าข้างพระองค์หรือ?
จะสู้ความแทนพระเจ้าหรือ?
9หากพระองค์ตรวจสอบท่าน ผลจะออกมาดีหรือเปล่า?
ท่านจะตบตาพระเจ้าเหมือนตบตามนุษย์ได้หรือ?
10พระองค์จะทรงตำหนิท่านแน่นอน
หากท่านแสดงความลำเอียงอย่างลับๆ
11ท่านไม่กลัวพระเดชานุภาพของพระองค์หรือ?
ไม่ยำเกรงพระองค์เลยหรือ?
12ภาษิตของท่านมีค่าเพียงขี้เถ้า
คำแก้ต่างของท่านก็เปราะบางอย่างหม้อดิน
13“เงียบเสียเถอะ ปล่อยให้ข้าพูดไป
ถ้าอะไรจะเกิดกับข้าก็ให้มันเกิด
14เหตุใดข้าจึงยอมเอาตัวเสี่ยงตาย
และกำชีวิตของตัวเองไว้ในมือ?
15แม้ว่าพระองค์ประหารข้า ข้าก็ยังจะหวังในพระองค์
แน่ทีเดียว ข้ายังคง13:15 หรือแน่ทีเดียวพระองค์จะประหารข้า ข้าไม่มีหวังใดๆ / แต่ข้าจะยังคงขอสู้คดีต่อหน้าพระองค์
16แน่นอน สิ่งนี้จะกลับกลายเป็นการช่วยกอบกู้ข้าด้วยซ้ำ
เพราะไม่มีผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าคนใดกล้ามาสู้หน้าพระองค์หรอก!
17ขอให้ตั้งใจฟังคำพูดของข้า
ฟังให้ดีนะ
18ข้าพร้อมแล้วที่จะสู้ความ
ข้ารู้ว่าข้าจะได้รับการพิสูจน์ว่าข้าไม่ผิด
19ใครจะตั้งข้อกล่าวหาว่าข้าผิดในเรื่องไหน?
ถ้ามี ข้าจะเงียบและยอมตาย
20“ข้าแต่พระเจ้า มีสองสิ่งที่ขอโปรดประทานแก่ข้าพระองค์
แล้วข้าพระองค์จะไม่ซ่อนตัวจากพระองค์
21ขอทรงยกพระหัตถ์ไปจากข้าพระองค์
และหยุดขู่เข็ญให้ข้าพระองค์ตกใจกลัว
22แล้วทรงเรียกเถิด ข้าพระองค์จะขานรับ
หรือขอให้ข้าพระองค์ทูล แล้วพระองค์ทรงตอบ
23ข้าพระองค์ได้ทำผิดทำบาปไปมากเท่าใด?
โปรดสำแดงให้ข้าพระองค์เห็นถึงการล่วงละเมิดและบาปของข้าพระองค์
24ทำไมทรงซ่อนพระพักตร์หนีข้าพระองค์?
ทำไมทรงถือว่าข้าพระองค์เป็นศัตรูของพระองค์?
25พระองค์จะทรงทรมานใบไม้ที่ปลิวตามแรงลมหรือ?
จะทรงรุกไล่ฟางแห้งหรือ?
26เพราะพระองค์ทรงตั้งข้อหาหนักเล่นงานข้าพระองค์
และทรงรื้อฟื้นบาปในวัยหนุ่มของข้าพระองค์
27พระองค์ทรงตีตรวนเท้าของข้าพระองค์ไว้
ทรงเฝ้าดูทางทั้งปวงของข้าพระองค์อย่างใกล้ชิด
โดยตีตราไว้ที่ส้นเท้าของข้าพระองค์
28“ดังนั้นมนุษย์จึงเสื่อมสูญไปเหมือนสิ่งที่เน่าเปื่อย
เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกแมลงกัดกิน
